xs
xsm
sm
md
lg

50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-ไทย แนะกระชับความร่วมมือ ส่งเสริมบทบาทสื่อ-คลังสมอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-ไทย จัดงานวัฒนธรรมตรุษจีน "หนึ่งสายน้ำเชื่อมสายใย หนึ่งครอบครัวร่วมสายใจ" พร้อมจัดสัมมนาปีทองแห่งมิตรภาพไทย-จีน สร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน อดีตรองนายกฯ แนะสนับสนุนการพัฒนาความสัมพันธ์ ส่งเสริมบทบาทของสื่อและคลังสมอง ผลักดันการเชื่อมโยงและกระชับความร่วมมือให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (17 ม.ค.) ที่โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ ถนนราชดำริ มีการจัดงานวัฒนธรรมตรุษจีน "หนึ่งสายน้ำเชื่อมสายใย หนึ่งครอบครัวร่วมสายใจ" ประจำปี 2025 ณ กรุงเทพฯ ภายใต้ความร่วมมือระหว่างสำนักประชาสัมพันธ์แห่งคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนมณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยและจีนมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดดังคนในครอบครัวเดียวกันและผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมามากมาย ทั้งสองประเทศมีความร่วมมือหลากหลายด้านที่มีส่วนส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและเสถียรภาพทางสังคมในไทย จีน และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงหวังว่าไทยและจีนจะเดินหน้าเสริมสร้างความร่วมมือการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมต่อไปในอนาคต

ด้านนายหาน จื้อ เฉียง เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย กล่าวผ่านคลิปวิดีโอว่า จีนและไทยเป็นเพื่อนบ้านใกล้ชิดที่ดีต่อกัน เปรียบดังเครือญาติที่ผูกพันทางสายเลือด และมิตรสหายร่วมชะตากรรมเดียวกัน โดนจีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด ตลาดส่งออกสินค้าเกษตรขนาดใหญ่ที่สุด แหล่งการลงทุนจากต่างชาติขนาดใหญ่ที่สุด และแหล่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติขนาดใหญ่ที่สุดของไทย สำหรับปี 2025 ตรงกับวาระครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-ไทย หรือเรียกว่า "50 ปีทองแห่งมิตรภาพจีน-ไทย" เราจะจับมือกันก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงบนเส้นทางของการสร้างประชาคมจีน-ไทยที่มีอนาคตร่วมกัน ส่งเสริมการพัฒนาร่วมกัน และนำพาประโยชน์มาสู่ประชาชนของสองประเทศ


ต่อจากนั้นมีการสัมมนา "ปีทองแห่งมิตรภาพไทย-จีน สร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน" โดยผู้เข้าร่วมได้หารือบทบาทของสื่อมวลชนและคลังสมองในการเสริมสร้างความไว้วางใจและความร่วมมือในการพัฒนาของสองประเทศ เนื่องในวาระครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-ไทยในปี 2025 จัดโดยสำนักสารนิเทศต่างประเทศแห่งประเทศจีน สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย สำนักประชาสัมพันธ์มณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน คลังสมองแห่งเอเชียแปซิฟิก และศูนย์ประชาสัมพันธ์ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สังกัดสำนักสารนิเทศต่างประเทศแห่งประเทศจีน (CICG)

นายพินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มิตรภาพไทย-จีน มีความสำคัญต่อการพัฒนาของสองประเทศและเป็นต้นแบบของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและการพัฒนาร่วมกันระหว่างประเทศ โดยความร่วมมือไทย-จีน มีความลึกซึ้งยิ่งขึ้นในทุกด้านและทุกระดับ การสร้างประชาคมไทย-จีนที่มีอนาคตร่วมกันมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ไทยและจีนควรธำรงรักษามิตรภาพที่ได้มาอย่างยากลำบาก พยายามสนับสนุนการพัฒนาความสัมพันธ์ฉันมิตร ส่งเสริมบทบาทของสื่อมวลชนและคลังสมองอย่างเต็มกำลัง ร่วมผลักดันการเชื่อมโยงระหว่างประชาชน และกระชับความร่วมมือระหว่างสองประเทศให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น


นายสุรสิทธิ์ ถนัดทาง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ไทย-จีน กล่าวว่า ไทยและจีนมีความเชื่อมโยงใกล้ชิดกันทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ธรรมเนียมประเพณี เศรษฐกิจ การค้า และการท่องเที่ยว โดยการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมที่ส่งเสริมการเชื่อมโยงระหว่างประชาชนถือเป็นรากฐานมิตรภาพและมีนัยสำคัญต่อความร่วมมือของสองประเทศ โดยหวังว่าสื่อมวลชนและคลังสมองจะทำงานร่วมกันเพื่อส่งเสริมการสร้างประชาคมไทย-จีนที่มีอนาคตร่วมกัน ส่งเสริมความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขงบรรลุผลสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เพิ่มขึ้น และร่วมกันเขียนบทใหม่ของมิตรภาพไทย-จีน

ส่วนนายมงคล บางประภา อดีตนายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างไทยและจีนต้องเริ่มต้นด้วยความรู้จักกัน รู้รอบ เข้าใจ และไม่มีอคติต่อกัน คิดว่าบทบาทของสื่อมวลชนทั้งสองประเทศจะมีบทบาทสำคัญที่จะก่อให้เกิดความร่วมมือในอนาคตได้อย่างแท้จริง โครงสร้างสื่อมวลชนไทยและจีนแตกต่างกัน สิ่งที่จะทำให้ความร่วมมือเป็นจริง ต้องร่วมมือทั้งสองประเทศให้ข้อมูลทันต่อเหตุการณ์และให้ความเข้าใจอย่างรอบด้าน ในอดีตเกิดปัญหาความเข้าใจผิดที่เกิดจากการรายงานข่าวผิดพลาด ซึ่งสมาคมนักข่าวฯ เคยมีบทบาทร่วมมือกับสถานทูตจีนประจำประเทศไทย ในการแก้ไขความเข้าใจผิด จึงเห็นว่าสื่อมวลชนไทย-จีนจะร่วมมือกันได้ดี ต้องอยู่บนพื้นฐานความร่วมมือในเรื่องข้อมูลข่าวสาร

ทั้งนี้ ประเทศจีนนับวันจะอยู่ใกล้กับประเทศไทยมากขึ้น ด้วยการคมนาคมเส้นทางที่ขยายตัวมากขึ้น และรวดเร็วมากขึ้น คนจีนมาประเทศไทยมากขึ้น คนไทยก็ไปเที่ยวจีนมากขึ้น ความเข้าใจทั้งถูกต้องและไม่ถูกต้องนั้น ต้องอธิบายลงลึกไปถึงแก่นเพื่อรับรู้ถึงปัญหาและแก้ไขสิ่งที่เป็นปัญหา พร้อมเสริมในสิ่งที่เป็นประโยชน์ จึงเห็นว่าความร่วมมือของสื่อมวลชนระหว่างสองประเทศยังเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะในโลกของโซเชียลมีเดียที่ใครก็แสดงความคิดเห็นได้โดยไม่มีการตรวจสอบข้อมูล สื่อกระแสหลักที่มีสื่อออนไลน์ก็จะต้องยืนหยัดในบทบาทของการลงลึกในข้อเท็จจริง เพื่อนำความถูกต้องให้กับประชาชนทั้งสองประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น