xs
xsm
sm
md
lg

“วันชัย สอนศิริ” มาตรฐานของเราต่างกัน!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สนธิ” จัดชุดใหญ่ให้ “วันชัย สอนศิริ” บอกมาตรฐานเราต่างกัน เหมือนพญาเหยี่ยวกับนกกระจอก ตนยึดมั่นการสู้เพื่อความถูกต้อง ออกมาสู้กับ “ทักษิณ ชินวัตร” ตั้งแต่ 20 ปีก่อน เพราะการปิดกั้นสื่อและทุจริตคอร์รัปชั่น ทั้งๆ ที่หากอยู่เฉยๆ ก็จะได้ประโยชน์จากทักษิณมหาศาล ย้ำตนสู้กับเผด็จการมาตลอด ไม่ใช่พูดแต่ปาก ตั้งแต่ยุคนายทหารรุ่น 5 ครองเมือง ไม่เคยเลียท็อปบู๊ตเพื่อให้ได้เป็น สว.หรือเพื่อตำแหน่งใดๆ - ยันนายใหม่ของวันชัยต่างหาก ที่สร้างเงื่อนไขให้บ้านเมืองวุ่นวาย 17 ปีผ่านไปพิสูจน์ชัดแล้วตามที่ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา



ในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” หรือ “สนธิทอล์ก”เมื่อวันศุกร์ที่ 17 มกราคม 2568 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการได้กล่าวถึงนายวันชัย สอนศิริ อดีตสมาชิกวุฒิสภา(สว.) ที่ได้รับการแต่งตั้งในยุค คสช.แต่ภายหลังจากหมดวาระได้เปลี่ยนท่าทีหันไปสนับสนุนนายทักษิณ ชินวัตร ถึงขั้นเข้าไปพบนายทักษิณที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ทำให้ถูกเปรียบเปรยว่าเป็นจิ้งจกเปลี่ยนสี สร้างความไม่พอใจให้นายวันชัย ออกมาเผยแพร่คลิปโจมตีนายสนธิ พร้อมท้าทายให้นายสนธิตอบโต้กลับ และบอกว่าจะปูเสื่อรอฟัง


“คุณวันชัย สอนศิริ บอกว่าจะปูเสื่อรอฟังผม จริงๆ แล้วผมพูดถึงคุณวันชัย ผมเคยชื่นชมเขานะ ครั้งหนึ่ง บทบาทที่เขาทำงานในวุฒิสภา ถึงแม้จะไม่โดดเด่นหรือไม่ชัดเจน แต่ว่าอย่างน้อยที่สุดเขาเป็นคนที่กล้าพูด

“แต่ว่าผมผิด ท่านผู้ชม คุณวันชัยครับ ผมผิดไปแล้ว ที่ผมไปว่าคุณ คุณรู้ไหมว่าเพราะอะไร ? ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าเพราะอะไร ?เพราะผมดันไปเอามาตรฐานตัวผมเป็นตัวตั้ง แล้วมาวัดกับมาตรฐานของคุณ” นายสนธิกล่าว

นายสนธิกล่าวต่อ ว่า ปี 2548 หรือ 20 ปีที่แล้วตนได้ลุกขึ้นมาสู้กับนายทักษิณ ชินวัตร หลังจากที่นายทักษิณ ได้สั่งการให้ลูกน้อง คือนายเรวัติ ฉ่ำเฉลิม ประธาน อสมท. อดีตอัยการสูงสุด สั่งให้นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ผู้อำนวยการ อสมท.ที่เพิ่งเข้ามา ให้ปิดรายการ "เมืองไทยรายสัปดาห์" นั่นคือจุดเริ่มต้น เพราะตนรับไม่ได้กับการใช้อำนาจเผด็จการมาปิดปากสื่อมวลชน


“ผมก็ออกมาต่อสู้กับคุณทักษิณ ในเรื่องของสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการรับรู้ความจริง ซึ่งหลักการตรงนี้อยู่ติดตัวผมมานานแล้ว มาจนกระทั่งทุกวันนี้ที่ผมสนับสนุนและส่งเสริมให้อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ทำเรื่องน้องแตงโมนั้น ก็เพราะว่าหลักการของสิทธิเสรีภาพในการรับรู้ ให้ประชาชนได้รับรู้อีกด้านหนึ่ง

“พอต่อสู้ในเรื่องสิทธิในการที่จะให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลข่าวสารที่แท้จริงนั้น กลายเป็นว่าตอนหลังทักษิณ ชินวัตร ได้กระทำการหลายๆ อย่างที่มีเจตนาในการคอร์รัปชัน ทุจริตต่อชาติบ้านเมือง เรื่องของการปิดกั้นสิทธิเสรีภาพประชาชน ก็กลายเป็นเรื่องหนึ่งในหลายๆ เรื่องที่ทักษิณ ชินวัตร ได้ทำกับประชาชนคนไทย


“ถ้าคุณวันชัย ติดตามทางการเมือง ซึ่งผมคิดว่าคุณคงจะติดตามทางการเมือง ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย มาเรื่อยๆ คุณทักษิณ เป็นคนที่มีความอหังการมมังการมาก ถ้ากฎหมายไม่เอื้ออำนวยอะไรให้กับสิ่งที่ตัวเองทำ ตัวเองจะใช้อำนาจทางการเมืองมาแก้กฎหมาย แก้ระเบียบ เพื่อให้ตัวเองได้เปรียบ เหมือนกับกรณีที่คุณทักษิณ ถูกศาลพิพากษาจำคุกครั้งแรก คือผิดกฎหมาย ป.ป.ช. ก็คือว่าตัวเองนั้นเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ไปค้ำประกันและไปอนุญาตให้ภรรยาตัวเองเซ็นลงไปในเอกสารเพื่อให้รับโอนที่ดิน

“นอกจากนั้นแล้ว ยังมีอีกหลายเรื่อง คุณวันชัยครับ ท่านผู้ชมครับ ท่านผู้ชมที่เดินทางสายนี้กับผมมา ผมไม่ได้ต่อสู้เรื่องส่วนตัวเลยกับคุณทักษิณ เรื่องหลักการทั้งสิ้น ว่าทักษิณ ใช้อำนาจรัฐที่ตัวเองคุมอยู่ สร้างประโยชน์ให้กับตัวเองและพวกพ้อง ซึ่งก็พิสูจน์มาตั้งแต่ต้น มาจนกระทั่งหลังจากคุณทักษิณ หนีออกไปต่างประเทศแล้ว ก็ยังตกมาที่น้องสาวของตัวเอง คือคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั่นคือการจำนำข้าว


“มาตรฐานของผม ผมรับไม่ได้กับเรื่องพวกนี้ ถึงแม้ผมจะมีเงินมีทองในช่วงนั้น คุณวันชัยครับ ท่านผู้ชมครับ ถ้าผมหลับตาข้างหนึ่ง และผมไม่สนใจ ผมอยู่ของผมเฉยๆ ผมคงได้ประโยชน์จากกลุ่มคุณทักษิณมามากมายมหาศาล

“ผมไม่ใช่คนที่อยากเป็น สว. ในยุค คสช. มีอำนาจ ผมวิ่งเต้นไปเลียแข้งเลียขาทหาร ทั้งลุงป้อม ทั้งลุงตู่ ทั้งคนโน้นคนนี้ เพื่อให้ตัวเองเป็น สว. ผมไม่ได้มีนิสัยอย่างนี้ และผมไม่ต้องการ เพราะฉะนั้นแล้ว มาตรฐานคนมันเลยไม่เหมือนกัน


“ชีวิตผมทำงานมา คุณวันชัย คุณไม่เคยรู้เรื่องผมหรอก ผมเรียนจบปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัย UCLA 1 ใน 10 อันดับของอเมริกา เกียรตินิยมอันดับสองทางด้านประวัติศาสตร์ และจบปริญญาโท จากการได้ทุนไปศึกษาต่อปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยรัฐยูทาห์ ทางสาขาประวัติศาสตร์

“ผมทำงานด้วยตัวผมเอง ผมไม่เคยไปเลียแข้งเลียขาแล้วมีอภิสิทธิ์อะไรทั้งสิ้น จนกระทั่งผมโดนสั่งปิดรายการที่ช่อง 9 ตรงนั้นมันก็เลยจุดไฟในใจผมขึ้นมาว่า เฮ้ย ถ้าผมยอมอีกคน ก็จะเหมือนทุกๆ คนที่ยอมคนที่มีอำนาจ คุณวันชัยครับ คุณวันชัยต้องยอมรับกับผมนะว่าประเทศไทยมีคนอยู่ไม่น้อยเลยที่ยอมเสียหลักการของตัวเองเพื่อเลียคนที่มีอำนาจเพื่อให้ตัวเองได้ผลประโยชน์ ได้อย่างไร ผมไม่รู้ แต่ได้แน่นอน ผมไม่ทราบว่าคุณวันชัย เป็นหนึ่งในนั้นด้วยหรือเปล่า แต่ไม่เป็นไร ผมกำลังเล่าเรื่องมาตรฐานตัวผมเอง


“จากนั้นไปก็เลยเกิดกระบวนการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อรวมตัวกัน แล้วคุณทักษิณเองก็โอหังมมังการ ขายหุ้นให้กับเทมาเส็ก แต่ไม่ยอมเสียภาษี อันนั้นคือจุดอ่อนที่ทำให้คุณทักษิณถูกโจมตีหนัก หนักจนไม่รู้จะทำอย่างไร

“ต่อมาเรื่อยๆ ก็มีคดีความขึ้นมา แล้วในที่สุด พอวันที่ศาลนัดฟังคำพิพากษา จำคุกแค่ปีเดียวเอง กระจอก คุณวันชัยครับ นายที่คุณกำลังรับใช้อยู่ เขาตัดสินใจ ไม่เชื่อในกระบวนการยุติธรรม ปฏิเสธกระบวนการยุติธรรม หนีออกนอกประเทศ


“ผมเคยโดนศาลพิพากษาจำคุก 20 ปี ข้อหาผิดพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ ผมไม่ได้โกง อย่าทะลึ่งมาบอกว่าผมโกงนะ ผมฟ้องตายเลยนะ ผมสู้ถึงศาลฎีกา จนกระทั่งใกล้ถึงศาลฎีกาอ่านคำพิพากษา คนในวงการผู้พิพากษาที่รู้จักผม บอกว่า สนธิ ศาลฎีกาคงยืนตามศาลต้นและอุทธรณ์ 20 ปี สนธิ มีโอกาส หนีไปเถอะ ท่านผู้ชมครับ มาตรฐานของผมก็คือว่า เมื่อผมเชื่อในกระบวนการยุติธรรมแล้ว ผมไม่หนีหรอกครับ ถ้าถึงที่สุดแล้ว ศาลฎีกาบอกว่า คุณสนธิ คุณต้องติดคุกนะ ผมยอมติดคุก

“คุณวันชัยครับ มาตรฐานผมต่างกว่านายคุณ นายคุณแค่หนึ่งปีเท่านั้นเอง หาเรื่องว่าไปดูกีฬา แล้วออกไปอยู่ข้างนอกถึง 17 ปี



“คุณวันชัยครับ ที่ผมสู้มา คุณบอกคนที่เชื่อฟังผม ติดคุกติดตะรางมาก็เยอะ ไม่มีครับ ไม่มี คนที่ติดคุกติดตะรางคือแกนนำ แกนนำนั้น ในการนำประชาชนนั้น จำเป็นจะต้องมีความกล้าหาญ และคุกตะรางที่ติดนั้นก็คือเรื่องของการบุกเข้าไปในทำเนียบรัฐบาล แล้วไปยึดทำเนียบรัฐบาล เพื่อประท้วง เพื่อบีบบังคับให้คุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ลาออก ท่านผู้ชมครับ ขออนุญาตครับท่านผู้ชมที่เคยฟังเรื่องนี้แล้ว อดทนนิดหนึ่ง เพราะผมกำลังอธิบายมาตรฐานของผมเมื่อเทียบกับมาตรฐานของคุณวันชัย

“เสร็จเรียบร้อยแล้ว คนที่ติดก็มี พล.ต.จำลอง ศรีเมือง คุณพิภพ ธงไชย คุณสมศักดิ์ โกศัยสุข คุณสุริยะใส กตะศิลา ก็ประมาณสัก 8-9 คนมั้ง แต่ก็ 6-8 เดือนเอง ประชาชนทั่วไปไม่มีใครติด


“คุณบอกว่าผมเป็นสาเหตุของความวุ่นวาย ก็มันจะไม่วุ่นวายได้อย่างไร เพราะว่านายคุณปัจจุบัน หัวหน้าคอกหมา เจ้าของคอกหมา คุณทักษิณเป็นคนพูดเองนะคุณวันชัย ว่า สส. คือหมาในคอก เขาเป็นหัวหน้าคอก ผมยังไม่รู้เลยว่าคุณเป็นหมาตัวใหม่เข้าไปหรือเปล่า ตอนนี้ เพราะคุณยังไม่ยอมรับว่าคุณเข้าไปรับใช้คุณทักษิณ แต่ไม่เป็นไร

“ที่สำคัญที่สุด คุณวันชัย ถ้าผมพูดเรื่องนี้ คุณคงปวดหัวใจพอสมควร เพราะว่านี่คือข้อเท็จจริงที่มาประจานนายคุณ นายคุณไปอยู่ต่างประเทศ 17 ปี นายคุณก็วิ่งเต้นตลอดเวลา เพื่อจะขอกลับ แต่จะกลับอย่างเท่ๆ ก็เลยมีการตกลงกันว่า เมื่อกลับมาแล้ว เท้าเหยียบแผ่นดินไทยแล้วก็เข้าไปในคุก แล้วก็ยื่นเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษ ผู้มีอำนาจในยุคนั้นคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคนทำงานแทนก็คือ นายวิษณุ เครืองาม ก็บอกว่าจะยื่นเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษทันที แล้วก็ไปวิ่งเต้นข้างใน


“นายคุณเขาคิดว่าโทษที่ศาลฎีกาลงมาทั้งหมด 8 ปี หลายคดี คุณวันชัย ก็เลยลดโทษให้ 7 เหลือ 1 ซึ่งตรงกันข้ามกับที่นายคุณต้องการ เพราะนายคุณต้องการให้ยกไปเลยทั้ง 8 ปี นั่นคือที่มาของการที่วิษณุ เครืองาม สติแตก วิ่งย้ายนายคุณไปนอนที่โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 ซึ่งเป็นที่รู้กันทั่วประเทศไทย

“คุณวันชัยครับ ที่ผมอยากจะพูดเรื่องนี้เพราะว่ามันมีกุญแจสำคัญที่ผมอยากให้คุณวันชัยดูสักนิด คุณวันชัยไม่ต้องไปดูอะไร เปิดราชกิจจานุเบกษา อ่านถึงการพระราชทานอภัยโทษของนายคุณ จาก 8 ปี ให้เหลือ 1 ปี ในนั้นมีระบุชัดเจนว่า นายคุณยอมรับผิดทุกประการ ที่ศาลอาญาลงโทษ เรื่องฉ้อโกง เรื่องเจตนาทำร้ายให้ชาติเสียหาย โทษทัณฑ์ 8 ปี แล้วเรื่องต่างๆ ที่ราชกิจจานุเบกษาลงไปนั้น ท่านผู้ชมครับ คุณวันชัยครับ เป็นเรื่องที่ผมต่อสู้มา ท่านผู้ชมครับ ผมใช้เวลา 17 ปี 17 ปี ขมขื่น ถูกกล่าวหาว่าเป็นตัวป่วนประเทศ เพราะจำเลยได้หนีไปอยู่ต่างประเทศ


“17 ปีให้หลัง ผมและพันธมิตรฯ ทุกคนถึงได้รับการนิรโทษกรรมทางใจ ว่าพวกผมสู้มาไม่ผิด แต่ต้องรอตั้ง 17 ปี กว่า "ธรรม" ที่หลวงตามหาบัว สอนผมมาว่าเป็นความจริง จะปรากฏว่าสนธิกับพรรคพวกมันสู้มา 17 ปี มันสู้มาเรื่องนี้นี่หว่า แล้วทักษิณ ชินวัตร ก็สารภาพผิด ในราชกิจจานุเบกษา ในพระบรมราชโองการพระราชทานอภัยโทษ เพราะถ้าไม่ยอมสารภาพผิด ก็ไม่มีการพระราชทานอภัยโทษ ตรงนี้คุณวันชัยจะพูดอย่างไรล่ะ ยังถือว่าผมป่วนอยู่หรือเปล่า

“เพราะฉะนั้นแล้ว พอต่อมาเรื่อยๆ ไปแล้ว การที่นายคุณเขาไปอยู่โรงพยาบาลชั้น 14 หกเดือน แปดเดือน ไม่ยอมติดคุกเลยแม้แต่วันเดียว เข้าไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ อยู่เพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ไปอยู่โรงพยาบาล เท่ากับวันเดียวก็ไม่ยอมติดคุก ในฐานะที่คุณเป็นนักกฎหมาย คุณรู้สึกอย่างไรบ้างกับกรณีเช่นนี้ อย่าบอกผมนะว่าคุณไม่รู้สึก


“มาตรฐานของผมบอกว่า ขนาดผมยังยอมเดินเข้าคุก ไม่หนี ติดคุกอยู่ 2 ปี 11 เดือน 27 วัน แล้วได้รับพระราชทานอภัยโทษออกมา เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ตอนนั้น ของผมถูกต้องตามระเบียบทุกประการ

“ตรงนี้ คุณวันชัยรู้สึกอย่างไร ผมเป็นคนเชื่อในหลักนิติธรรม และผมเคารพในหลักนิติธรรม ไม่ยอมปฏิเสธ ไม่หลบหนี ไม่มีอะไรทั้งสิ้น คุณวันชัยครับ เผอิญว่านี่ก็คือมาตรฐานของผมอย่างหนึ่งเช่นกัน

“คุณวันชัยครับ คุณอาจจะวิ่งอยู่ในแวดวงผู้มีอำนาจ แต่คุณไม่เคยเข้าใจประชาชนที่เขาเชื่อในตัวผม ข้อหนึ่งที่เขาเชื่อในตัวผมมาก มากๆ และเขาพูดมาตลอดเวลา คุณสนธิไม่เคยโกหก คุณสนธิมีสัจจะ หลักการอยู่ตรงไหน ไม่เคยเปลี่ยนแปลง เอาลาภเอายศมาแลก คุณสนธิก็ไม่ยอม เอาตำแหน่ง สว. มาให้ ถ้าเลียท็อปบู๊ตทหารเยอะๆ คุณสนธิก็ไม่ยอม เอาตำแหน่งโฆษกรัฐบาลมาให้ ถ้าออกมาแล้วก็มายั่วยุใครก็ตาม ผมไม่ยอม


“คุณวันชัยครับ ยี่สิบปีที่ผ่านมา ผมไม่เคยเรียกร้องตำแหน่ง ผมไม่เคยต้องไปเลียรองเท้าของนายพลต่างๆ เพื่อให้นายพลตั้งตัวเองเป็น สว. ไม่เคย นี่คือมาตรฐานผมอีกล่ะ คุณวันชัย

“ระหว่างที่ผมสู้กับนายคุณ คนต่างๆ หลายคนวิ่งเข้ามาหาผม ทุกคนที่เป็นคนสนิทนายคุณ รวมทั้งคนอย่างเช่น ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ซึ่งเป็นรองนายกรัฐมนตรี มาหาผม บอกว่าอย่าทะเลาะกันเลย เดี๋ยวจะมีโน่นมีนี่ให้ ผมบอก อาจารย์ไม่ต้อง

“ย้อนหลังกลับไปสักนิดก็ได้คุณวันชัย คุณจะได้รู้ว่ามาตรฐานของผมเป็นอย่างไร ตอนที่รุ่น 5 ปฏิวัติขึ้นมา แล้ว พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ เป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติ ตอนนั้นคนที่ยิ่้งใหญ่ที่สุด ที่อยู่เบื้องหลัง กุมอำนาจที่แท้จริง คือ พล.อ.อิสระพงศ์ หนุนภักดี

พล.อ.อิสระพงศ์ หนุนภักดี
“ผมเป็นคนที่ต่อต้านทหาร ต่อต้านเผด็จการมาตลอด ผมจำได้ คุณพูดว่าคุณต่อต้านเผด็จการ แต่สิ่งที่คุณต่อต้าน ผมยังไม่เห็นอะไรเป็นรูปธรรมเลย คุณแค่พูดปาวๆ ว่าคุณไม่ชอบเผด็จการทหาร คุณไม่ชอบเผด็จการทหาร แต่คุณก็ไปเป็น สว. ในยุคที่ทหารเป็นเผด็จการ คุณวันชัย มันไม่ย้อนแย้งกันหรือ

“ผมมีพี่ชายคนหนึ่ง ที่เหมือนพี่ชายผม คือพี่นันต์ คุณอนันต์ อนันตกูล คุณวันชัยคงได้ยินชื่อแน่นอน แต่คุณอาจจะไม่รู้จักเขาก็ได้ ท่านเป็นอดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้อำนวยการ ศอ.บต. ทางใต้ ท่านเคยถูกพวก รสช. คือพวกรุ่น 5 กักบริเวณ แต่ตอนหลังก็ปล่อยตัวออกมา พี่นันต์นัดผมไปเจอที่โรงแรมรีเจ้นท์ ราชดำริ สมัยนั้นรีเจ้นท์ยังบริหารอยู่ ผมก็ไป

“พี่นันต์บอกว่า สนธิ พี่ตุ๋ย (อิสระพงศ์ หนุนภักดี) เขาฝากให้พี่มาพูดกับสนธิ เขาบอกระหว่างที่เขามีอำนาจอยู่ สนธิอย่าไปก่อความวุ่นวาย สร้างปัญหาให้เขา สนธิจะเอาอะไร เดี๋ยวเขาจัดให้หมด ผมบอกพี่นันต์ที่ผมรักและเคารพเหมือนพี่ชาย ทุกวันนี้ก็ยังรักกันอยู่เหมือนเดิม ท่านแก่แล้ว แต่สมองท่านยังไหว ผมบอก พี่นันต์ครับ ช่วยบอกท่านผู้บัญชาการทหารบก อิสระพงศ์ หนุนภักดี ว่า ผมไม่มีอะไรกับท่านจริงๆ ถ้าท่านทำดี ผมยินดีให้การสนับสนุน แต่ถ้าท่านทำชั่ว ผมต้องสู้กับท่าน ผมไม่ถอย ผมพอมีเงินมีทองใช้อยู่ ไม่ต้องกังวลในตัวผม คุณวันชัยครับ นี่คือมาตรฐานของผม

“แล้วตอนที่ทหารเริ่มยิงประชาชน ที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และประชาชนชุมนุมกันอยู่ที่ราชดำเนิน แล้ว น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ก็สัมมนาอยู่ที่โรงแรมดุสิตธานี สมัยนั้นไม่ได้มีโทรศัพท์มือถือ ฝั่งหนึ่งอยู่ดุสิตธานี ก็ไม่รู้ว่าประชาชนชุมนุมกันที่ราชดำเนิน คุณวันชัย รู้ไหมว่าเขารู้ได้อย่างไร เขารู้เพราะว่าตอนนั้นผมทำหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ผมสั่งว่าให้พิมพ์หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ขนาดแท็บลอยด์ สั้นๆ ให้พิมพ์ออกมา 2 แสนเล่ม ตั้งราคาขายที่ 5 บาท แต่ไม่ใช่ พิมพ์เสร็จ เอาหนังสือพวกนั้นไปแจกให้คนแถวสีลม แจกคนในกรุงเทพฯ ทั่วไปหมด ให้รู้ว่าตอนนี้มีการชุมนุมที่ราชดำเนิน คุณวันชัยครับ นี่คือรูปธรรมที่ผมสู้กับเผด็จการทหาร ไม่ใช่สู้ด้วยน้ำลายในปาก การกระทำ

“แล้วฝ่ายทหารอากาศ ลูกน้องของพี่เต้ จัดทีมมาเพื่อยิงผมที่บ้านพระอาทิตย์ ข้างๆ บ้านพระอาทิตย์ ประจักษ์พยานผมมีอยู่ ผมรู้ล่วงหน้า ผมก็เลยเดินทางไปอังกฤษ ประจักษ์พยานคนนั้น วันนั้นเขาเป็นพันตำรวจตรี สารวัตรปราบปรามอยู่ที่ สน.ชนะสงคราม เพราะผมรู้จักกับพ่อเขา ตอนนี้เขาเกษียณอายุแล้ว เขาชื่อ พลตำรวจตรี ทรงธรรม อัลภาชน์ ลูกชายของพ่อเขา ซึ่งพ่อเขาเป็นอดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ เขายืนยันได้เลยว่ามีการส่งคนมายิงผม


“คุณวันชัย นี่คือมาตรฐานของผม ท่านผู้ชมครับ นี่คือมาตรฐานของผม อะไรที่ถูกต้อง ผมไม่ถอยเลยแม้แต่ก้าวเดียว ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง จากวันนั้นถึงวันนี้ผมไม่เคยเปลี่ยน และผมยึดมั่นในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ พวกผมต่อสู้กับพวกเขมร รัฐบาลชุดอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ดำเนินการนโยบายผิดพลาด แล้วทำให้เขมรชนะคดีในศาลโลก แล้วยึดพื้นที่รอบเขาพระวิหาร และเขาพระวิหารไป รูปธรรมการต่อสู้ของผมมี ผมรักชาติ คุณวันชัยเคยแสดงความรักชาติอะไรบ้างจากการกระทำ ไม่ใช่จากน้ำลายในปากของคุณเอง นี่คือมาตรฐานของผม

“เพราะฉะนั้นแล้ว เมื่อเหตุการณ์มันพัฒนามาตลอดเรื่อยๆ มาตรฐานผมไม่เคยเปลี่ยนแปลง คุณวันชัย เพราะว่า หนึ่ง ผมไม่ต้องการตำแหน่งแห่งที่ในผู้มีอำนาจ ซึ่งถ้าผมไปเลียเขา เอาใจเขา ไม่เหมือนคนบางคนที่ไปเลียท็อปบู๊ตทหารแล้วก็ได้เป็น สว. แล้วพอ สว. หมดอำนาจ ก็เริ่มรู้ว่าตัวเองจะหมดอำนาจแล้ว ตั้งแต่สิงหาคม ก็เริ่มเลียการเมือง ผมไม่ได้พูดถึงใครนะครับคุณวันชัย อย่าเดือดร้อน


“เพราะฉะนั้นแล้ว คุณจะไปตกลงอะไรกับทักษิณ ชินวัตร คุณบอกว่าคุณไปเยี่ยมทักษิณ ชินวัตร เพราะเขาเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่น่าเคารพนับถือ คุณชอบเอาความรู้ทางด้านหมอดูมาอวดอ้าง ว่าทักษิณมีราชาโชค ไม่มีใครห้ามได้อยู่ คุณตอบผมสักคำได้ไหมว่า นายใหม่คุณ เจ้าของคอกหมา ซึ่งคุณเข้าไปในคอกนั้นเรียบร้อยแล้ว เขาได้ทำอะไรให้บ้างตั้งแต่เขากลับมา นอกจากสร้างความวุ่นวายในเรื่องหลักนิติธรรม ให้มันวุ่นวายกันทั่วประเทศเลย เขาทำอะไรบ้าง วิสัยทัศน์เขามีอะไร นอกจากการพนัน ตั้งบ่อนกาสิโน นอกจากแจกเงิน เขาจะนำพาประเทศชาติไปอย่างไร แล้วคุณอุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ที่คุณบอกเป็นนารีกู้แผ่นดิน คุณวันชัยครับ ผมไม่ได้พูดนะครับ ประชาชนเขาฟันโยกฟันหักไปหาหมอฟันกันหลายคน เพราะเขาหัวเราะ ขำคำว่า "นารีกู้แผ่นดิน" ของคุณ


“เอาล่ะ ทำไมผมต้องเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง ? ที่ผมต้องเล่าเรื่องนี้ให้ฟังก็เพราะว่า ผมผิดไง คุณวันชัย ขอโทษที ผมผิด ผมเสือกเอามาตรฐานของผมเป็นตัวตั้งแล้วมาวัดกับคุณ ผมเพิ่งจะรู้ว่ามาตรฐานของคุณกับผมมันห่างกันเหลือเกิน ห่างกันจริงๆ เป็นพันๆ ลี้เลยนะ อุปมาอุปไมยผมเหมือนพญาเหยี่ยวที่บินอยู่บนท้องฟ้า แต่คุณคือนกกระจอก นกกระจิบ ที่บินอยู่ข้างล่าง หากินกับไส้เดือนบนพื้นดิน แต่ผมกินสัตว์ใหญ่ โฉบลงมาแล้วเกาะวัวทั้งตัวขึ้นไป แล้วไปกิน

“พูดอย่างนั้นก็ไม่ยุติธรรมกับคุณ แต่เอาเป็นว่ามาตรฐานของผมกับมาตรฐานของคุณมันคนละมาตรฐาน ผมพลาดไปเองที่ใช้มาตรฐานผมเป็นตัวตั้ง แล้วผมก็หวังว่าคุณคงจะมีมาตรฐานเหมือนผม นี่คือข้อผิดพลาดในชีวิตของผม


“เอาล่ะ คุณวันชัย คุณจะได้รับตำแหน่งอะไรจากคุณทักษิณ เชิญตามสบาย ผมยังใช้ธรรมนำหน้าอยู่ ผมมีความรักชาติ ผมออกมาสู้เรื่องเขาพระวิหารในยุคนั้น แล้วผมก็มาสู้ MOU 2544 ณ ยุคนี้ เพราะอะไร ? เพราะผมรักชาติ คุณวันชัยได้เคยแสดงความคิด ถึงแม้จะเป็นน้ำลายในสภาก็ตาม แสดงความรักชาติของคุณออกมาบ้างไหม แสดงออกมาให้ประชาชนเขาเห็นได้ไหมว่าคุณทำอะไรบ้าง คุณทำอะไรบ้างในการแสดงความรักชาติออกมา เชิญคุณตามสบาย จะยั่วยุอย่างไร ยั่วยุไม่สำเร็จหรอก คุณวันชัย เพราะคุณกับผมมันคนละมาตรฐานกัน

“คุณวันชัยครับ อยากตอบโต้ผม ตามสบาย ผมเชื่อว่าท่านผู้ชมที่ดูรายการนี้อยู่ รวมทั้ง FC ของคุณ ถ้าคุณมีจริงๆ นะ ดูคำพูดของผมอยู่ ผมได้ข่าวว่าเวลาคุณออกรายการคุณ คนที่เข้ามาคอมเมนต์ มีคนเข้ามาตำหนิติเตียนคุณเยอะพอสมควร แต่ไม่เป็นไร ช่างมัน นินทากาเลเหมือนเทน้ำ แต่ว่ามาตรฐานผม ผมไม่เคยถอย คุณบอกคุณเป็นนักเลง นักเลงกล้าได้กล้าเสีย แต่ผมเป็นนักเลงโบราณ ผมต่างกว่าคุณตรงไหนรู้ไหม นักเลงโบราณมีอยู่ข้อหนึ่งซึ่งนักเลงทั่วๆ ไปไม่มี เขาเป็นคนที่มีสัจจะ คุณวันชัยอาจจะไม่เชื่อนะ ผมนี่มีคนเชื่อผมเป็นแสนๆ เป็นล้านคน ทุกวันนี้ คุณไม่ต้องท้าผม ถึงเวลา ถ้าจำเป็น ผมจะลงถนนแน่นอน ผมจะลงถนนแน่นอน


“คุณวันชัยรู้ไหมว่าสมัยผมลงถนน ผมปะทะกับใคร ? จตุพร พรหมพันธุ์ มาวันนี้ จตุพร พรหมพันธุ์ (ตู่) เคารพผมมาก และผมก็เคารพเขา เพราะทำไม ? เพราะจตุพร ได้รับทราบแล้วว่าเขาเคยทำงานให้กับนายคุณปัจจุบัน เขาบอกนายเก่าเขาเป็นคนใช้ไม่ได้ อย่าให้ผมพูดเลยว่าเขาพูดถึงนายเก่าคุณอย่างไร เยอะแยะไปหมด แต่วันนี้ผมกับจตุพร ก็มีอุดมการณ์ร่วมกัน ผมบอก เฮ้ยตู่ พี่ยังไม่ลงถนนหรอก แต่เมื่อใดก็ตาม ถ้าการกระทำของรัฐบาลนี้ส่อให้เกิดการสูญเสียอธิปไตยของประเทศ พี่จะลงถนน ตู่บอกว่า ผมพร้อมเสมอ และพวกผมก็พร้อมเสมอ ทุกคนพร้อมเสมอ ไปกับพี่ ถึงไหนถึงกัน อย่ามาบอกว่าเดี๋ยวนี้ผมเรียกคนไม่ได้ คุณจะลองมั้ย ถึงวันนั้นแล้วคุณอย่าเสียใจนะว่าคุณปากไม่ดี พูดไม่ดี


“คุณวันชัยครับ เอาแค่นี้ก่อนดีกว่า ผมคิดว่าพูดแค่นี้คุณก็เจ็บแล้ว คุณจำไว้อย่างนะคุณวันชัย ผมไม่เคยเลียแข้งเลียขาใครเพื่อให้ตัวเองได้ตำแหน่ง อย่างเช่นเป็น สว. ไม่เคย ให้ตายสิ และผมเองก็มีเพื่อน สว. หลายคน ไม่ว่าจะเป็นประพันธ์ คูณมี หลายๆ คน พอผมพูดถึงคุณแล้ว เขาหัวเราะกัน ประพันธ์ก็ยังเกรงใจ บอกว่า พี่ อย่าไปสนใจเลยไอ้คนประเภทนี้ เวลาผมโพสต์อะไรของผมทีไร มีแต่คนกดไลก์ผม เอาแค่นี้่นะ คุณวันชัย อยากจะพล่ามอะไรก็พล่าม เพราะคุณจำเป็นต้องพล่ามให้มากๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นายคุณ ว่าผมทำงานให้แล้วนะ ตำแหน่งโฆษกรัฐบาลถ้ามี ตั้งผมหน่อย” นายสนธิกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น