xs
xsm
sm
md
lg

เหยื่อติ๊กชีโร่เมาแล้วขับ เสียชีวิตตามพี่สาว พ่อกังวลเยียวยาไม่เป็นธรรม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



น้องชายเหยื่ออุบัติเหตุติ๊กชีโร่เมาแล้วขับชน จยย.บนสะพาน เสียชีวิตตามพี่สาว พ่อกังวลเยียวยาไม่เป็นธรรม พบยอดน้อยกว่าที่คุยกันไว้ แถมไม่ได้ให้เป็นเงินสด แต่เป็นโฉนดที่ดิน ไม่รู้จะขายได้เมื่อไร อีกทั้งพฤติกรรมย้อนแย้ง เคยบอกว่ายินดีรับผิดชอบ แต่ถ้าไม่ทวงถามก็เงียบไป และพยายามทำคดีให้เป็นประมาทร่วม

วันนี้ (19 ม.ค.) นายจิรวัฒน์ ศิวพรพิทักษ์ บิดาของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ กรณีที่นายศิริศักดิ์ นันทเสน หรือติ๊ก ชิโร่ อายุ 63 ปี ศิลปินนักร้องชื่อดัง ขับรถตู้ฮุนได สีดำ เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ฮอนด้า คลิก สีดำ แล้วร่างผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์ตกสะพานสูง 10 เมตร กลางสะพานข้ามถนนเทพรักษ์ ถนนสุขาภิบาล 5 แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 10 ต.ค. 2567 ที่ผ่านมา ระบุว่า นายจักรภัคร์ ศิวพรพิทักษ์ หรือจูเนียร์ อายุ 21 ปี ลูกชายคนเล็ก เสียชีวิตแล้วเมื่อวานนี้ (18 ม.ค.) หลังรักษาตัวนาน 70 วัน ก่อนหน้านี้ลูกสาว คือ น.ส.เทียนพร ศิวพรพิทักษ์ หรือเมจิ อายุ 28 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

พร้อมเปิดเผยว่า เคยได้รับการช่วยเหลือแต่ยังไม่ได้รับการเยียวยา และไม่เป็นไปตามที่ตกลงไว้ โดยเสนอโฉนดที่ดินให้ แต่จะได้เงินต่อเมื่อขายได้ ยอมรับรู้สึกกังวลจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะสูญเสียลูก 2 คนแล้ว ที่ผ่านมาน้องจูเนียร์ นอนอยู่โรงพยาบาล 70 วัน และออกจากโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2567 เพื่อไปพักฟื้นอยู่ที่ศูนย์พักฟื้น ไม่ได้อยู่บ้าน หลังออกจากโรงพยาบาลน้องจูเนียร์อาการดีขึ้น แต่ยังไม่ได้สติ มีสภาพเจาะคอ ให้อาหารทางสะดือ และใส่ท่อปัสสาวะ และเมื่อวานพาน้องมาหาหมอฉุกเฉิน เบื้องต้นมีการติดเชื้อที่ปอด แต่รายละเอียดว่าเสียชีวิตเพราะอะไรต้องรอหมอนิติเวชผ่าชันสูตรแจ้งอีกครั้ง

ระหว่างพักฟื้น ติ๊ก ชีโร่ มาเยี่ยมที่โรงพยาบาล 3 ครั้ง ส่วนการเยียวยาตั้งแต่เกิดเหตุที่ลูกสาวคนโต คือ น.ส.เทียนพร เสียชีวิต ติ๊ก ชีโร่ ช่วยเงินมา 100,000 บาท เป็นค่าทำศพ และจ่ายค่าศาลาวัดให้ 70,000 บาท จากนั้นช่วยเหลือหลังจากน้องจูเนียร์ ออกจากโรงพยาบาลมาอยู่ศูนย์พักฟื้น โดยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงให้

ส่วนค่าเยียวยาทั้งหมด ก่อนหน้านี้เคยคุยติ๊ก ชีโร่ เมื่อประมาณปลายเดือน ต.ค. 2567 โดยได้เรียกร้องเงินไปจำนวนหนึ่ง แต่ผ่านมาเกือบ 3 เดือนแล้ว ยังไม่มีการตอบรับอะไรมา ซึ่งพ่อไม่ขอเปิดเผยยอดเงิน และในตอนนั้น ติ๊ก ชีโร่ ก็รับรู้รับทราบแล้ว บอกจะไปพิจารณาแล้วจะแจ้งกลับมา โดยมีการพูดคุยกันเป็นระยะ หลังพูดคุยก็เงียบไป ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ม.ค. ที่ผ่านมา ตำรวจจะต้องส่งสำนวนให้อัยการ แต่ที่ผ่านมาตกลงเรื่องการเยียวยากันไม่ได้สักครั้ง เพราะทางติ๊ก ชีโร่ ไม่ได้มาเจรจาด้วยตนเอง ส่งตัวแทนมา ซึ่งในวันดังกล่าวตำรวจบอกถ้าไม่มาจะต้องสรุปสำนวนส่งอัยการแล้ว ทำให้ในวันนั้น ติ๊ก ชีโร่ ส่งตัวแทนเป็นน้องสาวมาเจรจา และแจ้งยอดเยียวยามาให้ทราบ ซึ่งน้อยกว่าเดิมที่ได้พูดคุยกันไว้ และบอกว่าเป็นยอดเยียวยาสำหรับน้อง 2 คน คือ คนที่เสียชีวิตคนแรก และคนเล็กที่รักษาตัวอยู่ เพราะในวันที่เจรจาน้องจูเนียร์ยังไม่เสียชีวิต

แต่การเยียวยาไม่ได้จะเยียวยาเป็นเงินสด โดยเสนอมีที่ดินอยู่ผืนหนึ่งใน จ.นครราชสีมา ราคาประมาณ 4-5 ล้านบาท แต่ไม่ได้บอกว่ากี่ไร่ และไม่ได้เห็นตัวโฉนดที่ดิน ถ้าขายได้จะนำเงินมาให้ แต่ไม่รู้จะขายได้เมื่อไร หรือถ้าจะไม่รอเงินที่ขายได้ก็พร้อมจะโอนโฉนดให้เป็นชื่อพ่อ ซึ่งตนเองได้ตอบไปแล้วว่าเงื่อนไขที่ยื่นมารับไม่ได้ เพราะไม่ทราบว่าราคาที่ดินจะเป็นไปตามที่แจ้งหรือไม่ และไม่รู้ว่าจะขายได้เมื่อไรด้วย รวมถึงวงเงินที่เสนอมา ดูแลน้องที่ป่วยได้ไม่เกิน 2-3 ปี คงจะหมด แล้วครอบครัวคงไปต่อไม่ได้ จึงได้ปฏิเสธไป หลังจากน้องจูเนียร์เสียชีวิต พ่อและครอบครัวยังไม่ได้ติดต่อติ๊ก ชีโร่ วันนี้จึงอยากให้ช่วยพิจารณาการเยียวยา เพราะน้องอีกคนเสียชีวิตแล้ว

นายจีรวัฒน์ ยอมรับว่ารู้สึกกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะที่ผ่านมาดูการกระทำและพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุก็มาพูดคุยดี ติดต่อกัน แต่สิ่งที่พูดกับสิ่งที่ทำยังย้อนแย้งกัน เคยบอกว่ายินดีรับผิดชอบ จะดูแลทุกอย่าง ตามที่เขาเคยให้สัมภาษณ์ แต่ความเป็นจริงไม่ค่อยมี ถ้าไม่ทวงถามก็เงียบไป และในทางกลับกันบอกว่ายอมรับผิดแต่กลับไปสู้คดีร้องขอความเป็นธรรม พยายามทำคดีให้เป็นประมาทร่วม ซึ่งย้อนแย้งกับสิ่งที่เขาพูด พูดอย่างหนึ่งปฏิบัติอย่างหนึ่ง หลังจากนี้หากไม่ได้รับการเยียวยาคงต้องไปว่าในกระบวนการชั้นศาล ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง แต่หากจะมาร่วมงานศพน้องก็ยินดี
กำลังโหลดความคิดเห็น