พิธีลงนาม สัญญาความร่วมมือ อย่างเป็นทางการ ในการนำปูนซีเมนต์ LCI ตราสิงห์โตและหินก่อสร้าง จาก Lao cement industry (LCI) แขวงคำม่วน ประเทศ ลาว, มาจำหน่าย ในประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 ม.ค 2568
คุณบุสริน ชินวัตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บ.LCI2025(ประเทศไทย) ได้กล่าวว่า
“ในปี 2025 นี้ เราต้องการที่จะเปิดตลาดปูนซีเมนต์ ในประเทศไทย ให้ใหญ่ขึ้นโดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ซึ่งจากการเซ็นสัญญาความร่วมมือครั้งนี้ ทำให้เรามั่นใจว่านอกจากเรามีปูนซีเมนต์ไม่ว่าจะเป็นปูนถุง และปูนผง ที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานอุตสาหกรรมของไทยแล้ว เรายังมีวัตถุดิบ หินปูนสำรองที่ใช้ผลิตปูนที่มีปริมาณมากมายมหาศาล ซึ่งมีมากเกือบครึ่งหนึ่งของปริมาณหินปูนสำรองทั้งหมดในประเทศไทย ส่งผลให้เรามีปูนที่มีคุณภาพ มากเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าโดยเฉพาะลูกค้าในภาคอีสานอีกนับร้อยปี เรามีแผนการขยายตลาด ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าร้านขายวัสดุก่อสร้างระดับซูเปอร์สโตร์ ร้านขายวัสดุก่อสร้างออนไลน์และทั่วไป แพล้นปูน รวมทั้งลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมปูนและคอนกรีตอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอนาคตเรายังมีแผนขยายธุรกิจภายใต้แบรนด์ของเราเองเพื่อต่อยอดจากวัตถุดิบที่เรามีซึ่งได้เปรียบในเรื่องปริมาณและต้นทุนวัตถุดิบ เช่น โรงงานผลิตคอนกรีตสำเร็จรูป คอนกรีตอัดแรง อีกด้วย”
โรงงานปูนซีเมนต์ LCI - Lao cement industry เป็นบริษัทลูกของ PCR( Power China resources) ,บริษัท ลำดับ 285 ของโลก,เป็นรัฐวิสาหกิจของรัฐบาลจีน โดยผลิตปูนซิเมนต์เกรดสูงจากแหล่งผลิตที่บ้านเหล่านาขาม อำเภอมหาไซ แขวงคำม่วน สปป ลาว เข้ารุกทำตลาดในไทยโดยเฉพาะในภาคอีสาน ซึ่ง LCI มีกำลังการผลิตกว่า 2,500 ตันต่อวัน หรือเฉลี่ยประมาณ ปีละ 1ล้านตัน โดยผลิตจากเนื้อหินปูนที่มีเกรดสูง โดยมีปริมาณหินปูนสำรองมากถึง 1,600 ล้านตัน LCI เป็นโรงงานที่ได้รับมาตรฐาน ISO9001,ISO14000 คุณภาพปูนซีเมนต์ของ LCI มีมาตรฐาน ASTM ซึ่งส่วนใหญ่ ใช้กับ โครงการก่อสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ของบริษัท แม่คือ Power China resources ใน สปป ลาว ,โครงการก่อสร้างโรงงานกระดาษ ขนาดใหญ่ Sun paper แขวงสวรรณเขต , โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงลาว-จีน นอกจากนั้น LCI - Lao cement industry ยังสามารถผลิตหินก่อสร้าง ขนาดต่าง ๆ กำลังผลิตถึง 5,000 ตัน/วัน อีกด้วย
โครงการขนาดใหญ่ใน สปป ลาว , โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงลาว-จีน และ ปูนซีเมนต์ของ LCI ได้รับมาตรฐานอุตสาหกรรมไทย (มอก.ไทย) ได้ทดลองนำเข้ามาทำตลาด ในไทยได้ระยะเวลา กว่า 2 ปี แล้ว
