xs
xsm
sm
md
lg

ผู้เสียหายแอปฯ กู้เงินแชร์ประสบการณ์กู้ 8 หมื่นต้องจ่าย 7 แสน เกือบฆ่าตัวตาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สภาองค์กรของผู้บริโภค” ยกเคสผู้เสียหายจากแอปฯ เงินกู้ ‘สินเชื่อความสุข’ ที่ติดตั้งมากับโทรศัพท์แบรนด์ดัง เผยเมื่อกู้เงินแล้วถูกหักดอกเบี้ยทันที พร้อมโดนขู่ประจานลงโซเชียล นอกจากนี้คาดว่านายทุนทำเป็นขบวนการ

จากรณีที่สภาองค์กรของผู้บริโภคได้แจ้งเตือนอันตรายจากแอปพลิเคชันเถื่อนที่อยู่นอก Play Store ของทาง Google โดยเฉพาะแอปฯ ‘สินเชื่อความสุข’ หรือ ‘Fineasy’ ที่ฝังมาพร้อมระบบปฏิบัติการหลังการอัปเดตสมาร์ทโฟน Oppo และ realme

ล่าสุดวันนี้ (15 ม.ค.) เพจ “สภาองค์กรของผู้บริโภค” ได้ยกเคสของผู้เสียหายรายหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากแอปฯ กู้เงินซึ่งติดตั้งมาในโทรศัพท์ยี่ห้อดัง โดยเผยว่า “เรื่องเล่าวันนี้เป็นของผู้บริโภคที่ใช้มือถือ Oppo A53 รุ่น Android 12 ผู้ซึ่งได้รับโฆษณาเชิญชวนให้กู้เงินจากแอปฯ ‘สินเชื่อความสุข’ โดยใช้ข้อความว่า “ลงทะเบียนถ้าเงินไม่พอใช้” ถ้าลงทะเบียนแล้วต้องกดยินยอมให้เข้าถึงข้อมูลทางโทรศัพท์ และเมื่อผู้บริโภคกดเข้าไปในแอปฯ สินเชื่อความสุข ก็พบว่าเป็นแพลตฟอร์มรวมคนปล่อยเงินกู้ ที่สามารถกู้เงินได้ทันที โดยไม่ต้องใช้หลักฐานอะไร

ผู้บริโภคเล่าว่า ตัวเองมีความจำเป็นต้องใช้เงินในขณะนั้นจึงตัดสินใจกู้เงินกับแอปฯ ดังกล่าว หลังจากทำตามขั้นตอนต่างๆ จนเสร็จสิ้นก็มีเงินโอนเข้าบัญชี แต่ไม่เต็มจำนวนที่ขอกู้ เช่น กู้ 10,000 บาท แต่ได้รับเงินเพียง 5,000 กว่าบาท โดยอ้างว่าเป็นการหักดอกเบี้ยไปทันที

เมื่อเข้าสู่วันที่หกหลังจากกู้ยืม มีโทรศัพท์โทร.เข้ามาหาเพื่อทวงเงิน ถ้าไม่มีจ่าย ให้เข้าระบบทำอัตราขยายวัน ซึ่งขยายได้เพียง 3 วัน หากครบ 3 วันแล้วไม่จ่ายอีก ก็จะโทร.ไปตามรายชื่อผู้ติดต่อในมือถือของเรา หากไม่มีคนรับสายระบบจะส่งเอสเอ็มเอสไปแจ้งว่า คนชื่อ xxx นามสกุล xxx ยืมเงินแล้วไม่คืน

“ระหว่างที่เรากำลังวิตกกังวลเรื่องการหาเงินมาใช้หนี้ จะมีคนติดต่อแอด line มา โดยไม่ผ่านแอปฯ และเสนอดอกเบี้ยน้อยกว่า เช่น กู้ 10,000 ได้รับ 7,000 บาท ถ้าตอบโอเค ไม่ว่าด้วยวิธีการไหน พิมพ์เป็นตัวอักษรหรือส่งสติกเกอร์ ผู้ให้กู้เงินก็จะโอนเงินมาให้ และให้เวลา 6 วันในการคืนเงิน ถ้าไม่คืนก็จะด่าแบบทำร้ายจิตใจมาก แอปฯ นี้คือกับดักความทุกข์ ที่เกือบจะเป็นกับดักความตาย เพราะทำให้เราเกือบฆ่าตัวตาย” ผู้เสียหายเล่า

ผู้เสียหายเล่าต่ออีกว่า การกู้เงินผ่านการแอดไลน์จะมีฝ่ายติดตามหนี้หลายคน จนทำให้ผู้กู้งงและถูกกดดันอย่างมาก ทั้งยังมีผู้เสนอให้เงินกู้และทางไลน์จำนวนมาก แต่ละเจ้าจะให้กู้ประมาณ 10,000 ถ้าต้องการกู้เงิน 80,000 บาทก็จะต้องกู้ 8 เจ้า และหากไม่จ่ายตามเวลาที่กำหนดจะถูกข่มขู่โดยการประจานข้อมูลส่วนตัวในโซเชียลมีเดีย เช่น ถ่ายรูปคนกู้เงินบัตรประชาชน แจ้งว่าชื่อนี้นามสกุลนี้ข้อมูลส่วนบุคคลแบบนี้ได้กู้เงินไปเท่าไหร่และไม่ยอมจ่าย ผู้บริโภครายดังกล่าวจึงต้องหาทางออก ไปกู้รายอื่นๆ อีก หมุนชนๆ จนเป็นดินพอกหางหมู เมื่อตั้งสติได้ ก็พบว่าตัวเองกู้เงินมา 30-40 เจ้า และสิ่งหนึ่งที่สังเกตเห็นได้คือ เมื่อเอาสลิปที่โอนเงินคืนแต่ละเจ้ามาเทียบกัน จะสังเกตได้ว่าเป็นชื่อ นามสกุลเดียวกันแค่ต่างธนาคาร

ท้ายที่สุด ผู้บริโภคตัดสินใจเลิกใช้วิธีการหมุนเงินแบบนี้ และไปหายืมเงินมาโปะหนี้ทุกเจ้า ซึ่งเมื่อรวมตัวเลขดูแล้ว พบว่าจ่ายไปประมาณ 700,000 บาท

ทั้งนี้ ผู้บริโภคตั้งข้อสังเกตว่า โฆษณาแอปฯ ดังกล่าวถูกแจ้งเตือนเข้ามาในช่วงเวลาที่เงินไม่พอใช้ และผู้เสนอให้กู้เงินจะเป็นผู้หญิงพูดจาดีโทร.มาก่อนเสมอ ส่วนฝ่ายติดตามหนี้ พูดภาษาไทยไม่ชัด ส่วนกรณีที่มีผู้ให้กู้หลายเจ้าแอดไลน์ส่วนตัวมานั้น จะให้เงื่อนไขการคืนในอัตราดอกเบี้ยที่ไม่เท่ากัน แต่ทุกรายหักจากเงินต้นทันที อีกทั้งผู้บริโภคยังตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะทำเป็นขบวนการ เนื่องจากบัญชีที่โอนเงินคืนนั้นเป็นชื่อเจ้าของบัญชีเดียวกันแต่ต่างธนาคาร

อย่างไรก็ตาม สภาผู้บริโภคได้มีข้อเสนอฝากผ่านคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ไปยังบริษัทออปโป (Oppo) และเรียลมี (Realme) ให้อัปเดตระบบปฏิบัติการโดยด่วน และนำแอปฯ กู้เงินที่เป็นปัญหาออกทันที หรือให้ผู้บริโภคถอนการติดตั้งแอปฯ ได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องเสียเวลาไปที่ศูนย์บริการ โดยไม่ต้องผลักภาระให้ผู้บริโภค”

คลิก>>>อ่านโพสต์ต้นฉบับ


กำลังโหลดความคิดเห็น