xs
xsm
sm
md
lg

โยนบาปให้ช้างป่า ชาวเน็ตทัวร์ลงกรมอุทยานฯ อ้างขัดแย้งกับชุมชน สอดรับเฉลิมชัยคุมกำเนิด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บนโซเชียลฯ วิจารณ์กรมอุทยานฯ ชี้แจงสถานภาพประชากรช้างป่าในไทย อ้างมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ขัดแย้งกับชุมชน พื้นที่ป่าตะวันออกรุนแรงที่สุด สอดรับกับเฉลิมชัยเดินหน้ายิงวัคซีนคุมกำเนิด เจอถามกลับ ทำไมไม่แก้ที่ต้นตอ มนุษย์แย่งที่ทำกิน บุกรุกป่า แจกที่ดิน วอนหยุดบุกรุกบ้านของพวกเขา

วันนี้ (8 ม.ค.) บนโซเชียลฯ วิพากษ์วิจารณ์กรณีที่เฟซบุ๊ก "กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช" ออกเอกสารหัวข้อ "สถานภาพประชากรช้างป่าในประเทศไทย" หลังจากที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประกาศว่าจะเดินหน้าโครงการควบคุมประชากรช้างป่าด้วยวัคซีนคุมกำเนิดในต้นปี 2568

เอกสารข่าวดังกล่าวชี้แจงว่า "ประเทศไทยมีการประเมินประชากรของช้างป่ามานับแต่อดีต ทั้งนี้จากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ปรากฏและรวบรวมไว้ในแต่ละช่วงเวลาพบว่า เมื่อปี 2520 คุณหมอบุญส่ง เลขะกุล ได้ประเมินประชากรของช้างป่า​ประมาณ 2,600-4,450 ตัว (Lekagul & McNeely, 1977)

ต่อมาในปี 2532 ศูนย์ข้อมูลสัตว์ป่า มหาวิทยาลัยมหิดล ประเมินประชากรช้างป่าในพื้นที่อนุรักษ์ประมาณ 1,797 ตัว (ศูนย์ข้อมูลสัตว์ป่า, 2532) ภายหลังจากนั้นในปี​ พ.ศ. 2534 พบว่าช้างป่ากระจายในประเทศไทยประมาณ 1,975 ตัว ในพื้นที่อนุรักษ์ราว 47 แห่ง (การประชุมวิชาการป่าไม้, 2536) และในปี 2543 คาดว่าประเทศไทยน่าจะมีช้างป่าอยู่ประมาณ 2,384 ตัว อาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 63 แห่ง (กฤษฎา, 2543)

ต่อมา ในปี พ.ศ. 2546 มีการสำรวจประชากรช้างป่าในประเทศไทยว่ามีอยู่ราว 3,000-3,500 ตัว กระจายในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 68 แห่ง โดยกระจายในอุทยานแห่งชาติ 38 แห่ง และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 30 แห่ง (Snikrachang, 2003) และในปี 2562 พบว่ามีจำนวน 3,126 ถึง 3,341 ตัว (IUCN Red List, 2019; Willams etal., 2020) และล่าสุดในปี พ.ศ. 2567 มีการประเมินประชากรช้างป่าอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องว่ามีประชากรอาศัยอยู่ตามธรรมชาติประมาณ 4,013-4,422 ตัวในพื้นที่อนุรักษ์ทั้งในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า​ เขตห้ามล่าสัตว์ป่า และอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน จำนวน 91 แห่ง

จากปรากฏการณ์ดังกล่าวจะเห็นได้ว่าประชากรช้างป่าในประเทศไทยตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมามีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างชุมชนและช้างป่าก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและทวีความรุนแรงมากขึ้นในทุกภาคของประเทศไทยเช่นกัน โดยพื้นที่ที่มีความรุนแรงมากที่สุดคือพื้นที่ป่าตะวันออก ทั้งนี้ ส่วนใหญ่เชื่อว่าปัญหาความขัดแย้งระหว่างชุมชนและช้างป่ามีสาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของประชากรช้างป่า และการขาดแคลนแหล่งอาหารในพื้นที่อนุรักษ์ โดยเฉพาะในพื้นที่กลุ่มป่าตะวันออก ซึ่งมีอัตราการเพิ่มขึ้นของช้างป่าราวปีละ 8.2% มีชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่ามากกว่า 257 หมู่บ้าน 52 ตำบล 20 อำเภอ 6 จังหวัด ในภาคตะวันออก"

ด้านชาวเน็ตต่างคอมเมนต์ตั้งคำถามถึงกรมอุทยานฯ ในเรื่องดังกล่าว เช่น

- แหม ลงข้อมูลใหญ่เลยนะ เพื่อจะเอาดีเข้าตัว หาเรื่องจะคุมช้างเนี่ย ช่วยไปคุมกำเนิดไอ้คนคิดเรื่องนี้ก่อนเลย ยังไม่รู้จักถอยอีกนะ

- ขอทราบข้อมูลพื้นที่ป่าอนุรักษ์ด้วยค่ะ ในช่วง 40 ปี เหลือเท่าไร และยังมีสภาพป่าอนุรักษ์แค่ไหน ปลายปีเปิดประเด็นแต่โดนเสย หายเงียบไปพักหนึ่ง อย่าคิดว่าถอย อ่อ..ไปค้นข้อมูลมาโชว์ ยังไงก็จะทำให้ได้ สั่งผลิตไปแล้วสินะ โครงการแท้งไม่ได้ แต่ช้าง...ได้

- หยุดบุกรุกบ้านของพวกเขา อย่าเอาความผิดมาโยนให้ช้างแบบนี้

- ต้นเหตุของปัญหาคือ ถนนสาย 304 ตัดผ่านแยกเขาใหญ่ออกจากผืนป่าตะวันออก ตัดถนนผ่านเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน การอพยพตั้งถิ่นฐานของชาวบ้าน การบุกรุกป่าทำสวนผลไม้ ทำไร่ ปลูกพืชเศรษฐกิจ ทุเรียน สับปะรด

- ทำไมไม่บอกปริมาณพื้นที่ป่าเปรียบเทียบด้วยล่ะ ตั้งแต่ปี 2509 ที่ อ.บุญส่ง เก็บข้อมูลจนถึงปัจจุบัน ป่าจริงมีเท่าไหร่ ป่าเสื่อมโทรมมีเท่าไหร่ เอาไปแจก ส.ป.ก. ภทบ. สค. เท่าไหร่ แค่โซนตะวันออกที่บอกว่ามีปัญหานี่ล่ะ

- ในเมื่อรู้ว่าขาดแคลนอาหารในพื้นที่อนุรักษ์ทำไมถึงไม่แก้ตรงนี้ ลองดูตัวอย่างจากกุยบุรีไหม ช้างอยู่ได้ คนอยู่ได้ คนเป็นสายพันธุ์เดียวเหรอที่มีสิทธิ์ขยายเผ่าพันธุ์ตัวเอง คนตั้งท้อง 9 เดือน ช้างตั้งท้อง 2 ปี ช่วยแก้ที่ต้นเหตุเถอะ หยุดแจกป่า สร้างแหล่งอาหาร แหล่งน้ำ โป่ง หยุดอ้างเถอะ

- ต้องเพิ่มสาเหตุอีกข้อและเป็นเรื่องจริง คือ จนท.แบ่งป่าให้มนุษย์ ทำให้ที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าแคบลง ตัวอย่างปีที่แล้วที่เป็นข่าว จนต้องมีฉายาพี่ด้วน ส.ป.ก. เพราะพี่ด้วนเป็นตัวแทนออกมาปกป้องบ้านของพวกเขา

- แล้วยังไง ปัญหาคือคนแย่งพื้นที่ป่ามากขึ้นเรื่อยๆ แย่งบ้าน แย่งแหล่งหากินของเขามา พอมีเรื่อง สิ่งมีชีวิตอื่นผิดตลอด ต้องถูกฆ่า ถูกกำจัด และถูกจำกัด มีแต่คนที่ถูกเสมอ มีคุณค่ามีความสำคัญที่สุดบนโลกใบนี้เสมอเท่านั้นเหรอคะ

- ช้างถูกรถชนก็เงียบ ช้างถูกคนคุกคามด้วยบ่วงกับดักต่างๆ ถูกวางยาจนพิการจนตาย ก็เงียบ จับสุนัขที่ทำไม่ได้สักตัว ช้างป่าเขาใหญ่ถูกคุกคามจากรถของคนที่แล่นผ่านป่าก็เงียบ ถูกไล่ยิง ก็เงียบ ถูกทำลายแหล่งอาหารก็เงียบ บอกป่าไม่พอกับช้างป่าแต่จะเอาพื้นที่อุทยานฯ ไปแจก บอกคนไม่ได้บุกรุกป่าแต่ช้างต่างที่บุกรุกที่ทำกินของคน แล้วไอ้ที่เข้าป่าไปเก็บของป่านี่ เขาเรียกว่าบุกรุกทำลายที่ทำกินและอาหารของสัตว์ป่าไหม ถ้าเป็นพื้นที่ของคนจะเรียกว่าช้างบุกรุก แต่ถ้าเป็นพื้นที่ของช้างและสัตวป่าเรียกว่าหาของป่าดำรงชีพ การที่เข้าป่าไปเก็บของป่าออกมา มันก็คือการแย่งเอาอาหารของสัตว์ป่ามานั่นแหละ จะคุมกำเนิดช้างก็ต้องคุมกำเนิดคนเเถวนั้นด้วย จะได้ไม่ไปบุกรุกที่อยู่และแหล่งอาหารของสัตว์ป่าอีก จะได้ยุติธรรมกัน แล้วก็ช่วยไปบอกเจ้านายของคุณ รมต.เฉลิมชัยว่า ให้เอารูปช้างป่าออกจากตราสัญลักษณ์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย เพราะมันไม่คู่ควรกับพวกคุณอีกต่อไป

- การบุกรุกพื้นที่ป่าเป็นหนึ่งสาเหตุหลัก ไม่ใช่จำนวนช้างที่เพิ่มขึ้นจะเป็นสาเหตุหลัก ตัวอย่างมีให้เห็น การแก้ไข ควรยกเลิกพื้นที่ที่ทับเขตป่า ควรยกเลิกถนนตัดผ่านป่า

- พูดมาเพื่อ จะบอกอะไรเหรอ บอกตัวเองให้ทำงานรับผิดชอบแก้ไขในสิ่งที่ตัวเองดูแลดีกว่า อย่าเอาสถิติมาเลย พื้นที่อื่นทำไมไม่มีปัญหา เขาทำกันยังไง ต้องไปดู เพราะพื้นที่ที่ไม่มีปัญหาคือคนไม่ไปบุกรุกป่าไง


อ่านประกอบ : หนูนาฟาดเฉลิมชัย ทำหมันช้างป่า คิดดีแล้วหรือยัง?
กำลังโหลดความคิดเห็น