ปากของ อ.เบียร์ กำลังพาตัวเองลำบาก ดันเปรียบเปรยเกจิอาจารย์กับหมาแมว จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าจาบจ้วงเกินไปแล้ว
อ.เบียร์ คนตื่นธรรม ฆราวาสสอนธรรมะคนดัง ได้เวลาฝ่าด่านดรามาสำคัญเมื่อ อ.เบียร์ดันไปตอบคำถามเรื่องสังขารสรีระไม่เน่าเปื่อยของเกจิอาจารย์บางรูป
อ.เบียร์ชี้ว่าสิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องความศักดิ์สิทธิ์ ขนาดหมาแมวก็มีตัวอย่างให้เห็นว่าซากไม่เน่าเปื่อยเหมือนกัน
ทำเอาชาวพุทธลุกฮือด้วยความไม่พอใจ ทัวร์ลง อ.เบียร์ทันที
ต้องบอกว่า คำพูดนั้นเป็นสไตล์ปกติของ อ.เบียร์ คนตื่นธรรม เขาสร้างตัวตนขึ้นมาจากการสอนธรรมะแบบฮาร์ดคอร์ พูดจาโผงผาง ผ่าซาก โดนใจคนชอบแนวนี้ยิ่งนัก วางตำแหน่งตัวเองเหมือนเป็นคนคอยจับผิด ความเชื่อทางพุทธศาสนาที่บิดเบี้ยวไปจากเดิม
บุคลิกที่โดดเด่นอย่าง อ.เบียร์ ก็เป็นธรรมดา มีคนชอบมาก ก็มีไม่ชอบมากเช่นกัน
คราวนี้ถือว่าปากของ อ.เบียร์ พาตัวเองให้ลำบาก ดันเปรียบเปรยเกจิอาจารย์กับหมาแมว จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่า อ.เบียร์จาบจ้วงเกินไปแล้ว มีพระผู้ใหญ่ออกโรงมาปราม อ.เบียร์ โดย “เจ้าคุณประสาร” พระเทพวัชรสารบัณฑิต ผอ.ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมพระพุทธศาสนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นลูกศิษย์ของ หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก ซึ่งสรีระสังขารไม่น่าเปื่อย รู้สึกว่า อ.เบียร์ขาดสิ่งที่เรียกว่า “คารวตา” หรือความเคารพ
เจ้าคุณประสารแนะนำ อ.เบียร์ว่า คนจะเป็นอาจารย์สอนธรรมะคนอื่น ต้องสอนตัวเองในหลัก “คารวตา 6” ให้ได้เสียก่อน ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
“การพูดเอามัน สนุก แสวงหาคอนเทนต์โดยขาดคารวตา อาจทำให้เป็นคนก้าวร้าว เกรี้ยวกราด แข็งกระด้าง” เจ้าคุณประสารกล่าวเตือน อ.เบียร์
ขณะที่นายศุภภัทร์พจน์ นิติศศธร หรือทนายพจน์ นายกสมาคมไวยาวัจกรแห่งประเทศไทย เริ่มเคลื่อนไหวตรวจสอบ อ.เบียร์ โดยมีการหารือกับ “ทนายกระดูกเหล็ก” นายอนันตชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม และองค์กรพุทธต่างๆ แล้ว
ทนายพจน์แฉว่ามีคนส่งข้อมูลมาให้ว่า อ.เบียร์เคยเป็นบุคคลล้มละลายมาก่อน จะให้ทีมนักกฎหมายไปตรวจสอบเรื่องนี้ ปฏิกิริยาตอบกลับจาก อ.เบียร์ คนตื่นธรรม ต้องบอกว่า แรงแบบไม่มีผ่อนคันเร่ง
อ.เบียร์เย้ยบรรดาชาวเนติที่มาทัวร์ลงว่า มีแต่คนแก่ เป็นทัวร์ฟันปลอม ทัวร์ไม้เท้า พร้อมยืนยันคำเดิม ซากที่ไม่เน่าเปื่อย ไม่ใช่เรื่องของความศักดิ์สิทธิ์แต่อย่างใด
ส่วนเรื่องล้มละลาย อ.เบียร์ก็ไม่ปฏิเสธว่าเคยถูกฟ้องล้มละลายจริง แต่เป็นธนาคารฟ้อง ไม่ใช่แฟนเก่าอย่างที่มีการปล่อยข่าว
ตามประวัตินั้น อ.เบียร์ ชื่อจริง นายณัฐพล บุญสา จบปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เคยทำงานบริษัทได้เงินเดือนระดับ 4-5 หมื่นบาท แต่มาพลาดตอนไปทำธุรกิจเปิดร้านซักรีด ขาดทุนย่อยยับ
ความเครียดเพราะปัญหาการเงิน จึงหันไปพึ่ง “สายมู” และเลี้ยงชีพด้วยการเป็นหมอดูนานถึง 7 ปี ก่อนจะเปลี่ยนแนว หันมาปฏิบัติธรรม จนพบว่าคำสอนของพระพุทธเจ้ามากมายถูกบิดเบือนจนเพี้ยนไปหมด
จึงอยากแก้ไขปัญหาพวกนี้ ด้วยการตั้งตัวเป็นฆราวาสสอนธรรมะ ผ่านเพจ “คนตื่นธรรม”
แต่สไตล์การสอนแบบปะฉะดะ ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ทำให้ อ.เบียร์ถูกจับตาจากคนที่มองว่า อ.เบียร์กำลังทำมาหากินกับความเชื่อเช่นกัน มีการตั้งข้อสังเกตว่า การล้มละลาย สงสัยจะเป็นการล้มบนฟูก มีเงิน แต่ไม่ใช้หนี้
อย่างไรก็ตาม ใช่ว่า อ.เบียร์จะไม่มีพวกที่เป็นเซเลบสายพุทธ อย่างอดีตพุทธะอิสระก็ชูว่า อ.เบียร์นี่แหละของจริง หรือแพร์รี่ ไพรวัลย์ ก็ถือเป็นกัลยาณมิตรของ อ.เบียร์ ถึงขั้นออกมาพูดช่วยเลยว่า เรื่องสังขารไม่เน่า มีแต่พวกลูกศิษย์นี่แหละ ที่เอามาชูเป็นความศักดิ์สิทธิ์
แต่แพร์รี่ก็เตือน อ.เบียร์อย่างหวังดีว่า ต้องระวังจุดสลบในเรื่องเงินบริจาค ถ้าจัดการไม่ดีล่ะก็ อ.เบียร์ จะบานเอาได้
--------------------------------------
**หมายเหตุ
แอป Sondhi App ดาวน์โหลดได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
**ขอแนะนำ ThaiTimes โซเชียลมีเดียของคนไทย
ไม่ปิดกั้นเนื้อหา - แชร์รูปภาพและวิดีโอ - ติดตามข่าวสารล่าสุดได้อย่างอิสระ
มีให้ Download ได้แล้วทั้งในระบบ iOS และใน Android
iOS :https://apps.apple.com/th/app/thaitimes-social/id6502225132
Android :https://play.google.com/store/apps/details...
และhttps://thaitimes.co