ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะโต้โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง ย้ำที่เก็บเงินคนไข้ 300 บาทเป็นค่าแพทย์เพราะ สปสช.ไม่จ่ายเงินค่าแพทย์ จ่ายแต่ค่าบริการต่ำกว่าทุน ย้ำผู้ป่วยบัตรทองที่นี่ส่วนใหญ่เข้าใจ มีเพียงประชาชนที่ไม่ทราบข้อเท็จจริงจำนวนมาก และไม่กลัวถึงขั้นถูกขู่ปิดสถานพยาบาล
วันนี้ (5 ม.ค.) จากกรณีที่บนโซเชียลฯ แชร์ภาพอินโฟกราฟิกที่ น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง ให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะข่าวเด็ด ทางสถานีโทรทัศน์โมโน 29 ออกอากาศเมื่อวันที่ 3 ม.ค. ประเด็นโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งเก็บเงินคนไข้ 30 บาท กรณีส่งตัวจากคลินิก ระบุว่า "ในเมื่อสิ่งสำคัญวันนี้มีปัญหากับ สปสช. (สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ) ก็ไปเคลียร์กับ สปสช. ไม่ใช่ว่ายังเคลียร์ไม่ได้ แต่ไปเก็บตังค์จากชาวบ้าน"
ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 4 ม.ค. เฟซบุ๊กของ พล.ต.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์ข้อความระบุว่า "ได้โปรดแชร์ถึงผู้ดำเนินการ MONO NEWS รายการเจาะข่าวเด็ด ประจำวันศุกร์ที่ 3 ม.ค. 2568 ที่เชิญโฆษกกระทรวงสาธารณสุขชี้แจงสร้างความเข้าใจผิดๆ แก่ประชาชนเกี่ยวกับความจำเป็นที่ผู้ป่วยส่งต่อจากคลินิกต้องร่วมจ่ายค่าแพทย์ 300 บาท เนื่องจาก สปสช.ไม่จ่ายค่าแพทย์ให้แก่ รพ.มงกุฎวัฒนะ
การชี้แจงของโฆษกกระทรวงสาธารณสุขสร้างความเข้าใจผิดแก่ประชาชน จนเกิดความเสื่อมเสียต่อ รพ.มงกุฎวัฒนะ
ผมขอให้ผู้ดำเนินการ MONO เจาะข่าวเด็ด เชิญผมในฐานะ ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะที่ถูกพาดพิงชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนฟังด้วยสิครับ
การที่ท่านเชิญแต่โฆษกกระทรวงสาธารณสุขฝ่ายเดียว เป็นการพูดฝ่ายเดียวนะครับ ไม่ยุติธรรมต่อผมที่ไม่ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชน ท่านเป็นสื่อสารมวลชน ท่านต้องมีจริยธรรมสื่อนะครับ
ขอให้ผมพูดด้วยสิครับ ขอพูดกันพร้อมหน้ากับโฆษกกระทรวงสาธารณสุขในคราวเดียว หรือจะต่อหน้า รมว.สาธารณสุข ประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพฯ ตลอดจนผู้บริหาร สปสช.มากันให้ครบหน้าทั้งทีม พร้อมกันเลยก็ได้....สำหรับผม ผมจะไปแค่คนเดียว
นอกจากนี้ ผมขอความกรุณาสื่อสารมวลชนทุกสำนัก ได้โปรดจัดให้ประชาชนได้ฟังความทั้งสองฝ่าย ฟังข้อเท็จจริงที่ถูกต้องด้วยครับ อย่าฟังจากภาครัฐฝ่ายการเมืองด้านเดียว มันโกหกหลอกลวงครับ"
นอกจากนี้ เฟซบุ๊กของ พล.ต.เหรียญทอง ยังโพสต์ข้อความเพิ่มเติม สาระสำคัญคือ ได้กล่าวขอโทษผู้ป่วยบัตรทองประมาณ 200,000 คนจากคลินิกมากกว่า 30 แห่งว่า ตนได้พยายามหาหนทางแก้ไขปัญหาผู้ป่วยบัตรทองจากคลินิกที่ส่งต่อ รพ.มงกุฎวัฒนะมาตลอดหลายเดือน ทั้งที่ปัญหานี้เกิดขึ้นจาก สปสช. ที่ออกประกาศอัตราค่าบริการตาม Fee schedule ที่มีอัตราค่าบริการต่ำกว่าทุน ทั้งยังไม่มีรายการค่าแพทย์ซึ่งเป็นต้นทุนที่สำคัญที่สุด ทำให้ รพ.มงกุฎวัฒนะต้องหาเงินค่าแพทย์ในการตรวจครั้งละ 300 บาท โดยผู้ป่วยบัตรทองส่วนใหญ่เข้าใจ รพ.มงกุฎวัฒนะ จะมีบ้างก็แต่เพียงส่วนน้อย
กรณีที่โฆษกกระทรวงสาธารณสุขสัมภาษณ์ฝ่ายเดียวเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง ให้ร้ายป้ายสี รพ.มงกุฎวัฒนะ สร้างความเข้าใจผิดแก่ประชาชนที่ไม่ทราบข้อเท็จจริงจำนวนมาก การที่ประชาชนร่วมจ่ายเงินค่าแพทย์ในการตรวจครั้งละ 300 บาท อาจเป็นความผิดถึงขั้นปิดสถานพยาบาลนั้น ไม่ได้กลัว เพราะรู้มานานแล้วว่ามีกลุ่มคนทั้งใน สปสช. และกระทรวงสาธารณสุขต้องการปิด รพ.มงกุฎวัฒนะ ทั้งที่ สปสช.ก็เคยบอกเลิกสัญญาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ต้องฟ้องศาลปกครองมาแล้ว จึงคาดการณ์ได้ว่า รพ.มงกุฎวัฒนะจะถูกหาเรื่องบอกเลิกสัญญาหรือไม่ต่อสัญญาอีก หรือจะถูกหาเรื่องปิดสถานพยาบาล
ทั้งนี้ ในเดือน มี.ค. 2568 จะมีหนังสือบอกเลิกการรับส่งต่อผู้ป่วยบัตรทองจากคลินิก เหลือเพียงไม่กี่คลินิก และจะประกาศแผนเลิกการรับส่งต่อแต่ละคลินิก เพื่อให้ผู้ป่วยบัตรทองที่มีโรคประจำตัวต้องการรักษาตัวด้วยการร่วมจ่ายค่าแพทย์ให้ รพ.มงกุฎวัฒนะ ได้พิจารณาว่าจะย้ายสิทธิไปยังคลินิกใด และในการตรวจผู้ป่วยที่ยังมีนัดพบแพทย์ครั้งถัดไป นัดคลอด นัดผ่าตัด ให้การรักษาแล้วสรุปประวัติการรักษาให้แก่ผู้ป่วยเพื่อการย้ายไปรักษาต่อกับโรงพยาบาลรับส่งต่อใหม่ที่ สปสช.จัดให้ สำหรับผู้ป่วยบัตรทองที่ขึ้นตรงปฐมภูมิกับ รพ.มงกุฎวัฒนะอยู่แล้ว ก็ยังคงอยู่กับ รพ.มงกุฎวัฒนะต่อไป โดยเสียเงิน 30 บาท ไม่ต้องเสียค่าแพทย์ เพราะ สปสช.เหมาจ่ายให้ รพ.มงกุฎวัฒนะแล้ว ยกเว้น สปสช. หาเรื่องเลิกสัญญาปฐมภูมิ
สำหรับโรงพยาบาลต่างๆ ทั้งรัฐและเอกชนที่ต้องการส่งต่อหรือย้ายผู้ป่วยบัตรทองมายัง รพ.มงกุฎวัฒนะก็ยังคงส่งต่อผู้ป่วยใน [IP refer] ได้ตามปกติ ยกเว้น สปสช. หาเรื่องเลิกสัญญาโรงพยาบาลรับส่งต่อ หากกรณีจำเป็น ผู้ป่วยบัตรทองบางรายที่ป่วยด้วยโรคร้ายแรงผ่านความเห็นชอบของมูลนิธิ รพ.มงกุฎวัฒนะเพื่อผู้ป่วยโรคร้ายแรง ก็จะลงทะเบียนปฐมภูมิให้ขึ้นตรงกับ รพ.มงกุฎวัฒนะ ยกเว้น สปสช.หาเรื่องไม่อนุมัติเท่านั้น สัปดาห์หน้าจะเข้าพบผู้บริหาร สปสช.เพื่อชี้แจงแผนการลดคลินิกส่งต่อ รพ.มงกุฎวัฒนะ และจะเริ่มทยอยดำเนินการตั้งแต่เดือน ก.พ.จนแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย. 2568 หรือสิ้นปีงบประมาณ 2568 นอกจากนี้ กำลังจะมีโครงการศูนย์ผู้สูงอายุราคาถูก ณ รพ.มงกุฎวัฒนะ และโครงการจ่ายเงินเอง ราคาบัตรทอง อยู่ในระหว่างเตรียมการ จะเปิดตัวเร็วๆ นี้