สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้ รายงานล่าสุดว่า พยานที่เห็นเหตุการณ์เครื่องบินตกในเขตมูอัน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันอาทิตย์(29 ธ.ค.) พบว่ามีเปลวไฟที่เครื่องยนต์ของเครื่องบิน และได้ยินเสียงระเบิด ขณะที่ทางการกำลังสอบสวนความเป็นไปได้ที่ระบบลงจอดจะขัดข้องเนื่องจากนกชน
เที่ยวบินของสายการบินเชจูแอร์ ซึ่งบรรทุกผู้โดยสาร 181 คน ไถลออกนอกรันเวย์ขณะลงจอดและพุ่งชนกำแพงรั้วที่สนามบินนานาชาติมูอัน ในเขตมูอัน จังหวัดชอลลาใต้ ห่างจากกรุงโซลไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 288 กิโลเมตร เมื่อเวลาประมาณ 9.07 น.(ตรงกับ 07.07 น.ตามเวลาในไทย)
วิดีโอที่ออกอากาศโดยสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นแสดงให้เห็นเครื่องบินพยายามลงจอดโดยที่ระบบลงจอดไม่ได้กางออก เจ้าหน้าที่เชื่อว่าระบบลงจอดอาจขัดข้องเนื่องจากนกชน อาจเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุดังกล่าว
ยู แจยอง อายุ 41 ปี ซึ่งพักอยู่ในบ้านเช่าใกล้สนามบินกล่าวว่า เขาเห็นประกายไฟที่ปีกขวาของเครื่องบินก่อนที่จะเกิดเหตุเครื่องบินตก
“ผมกำลังบอกครอบครัวว่าเครื่องบินมีปัญหา แล้วก็ได้ยินเสียงระเบิดดัง” ยู กล่าว
พยานอีกรายซึ่งระบุเพียงนามสกุลว่าโช บอกว่าเขากำลังเดินเล่นอยู่ห่างจากสนามบิน 4.5 กิโลเมตรขณะเกิดอุบัติเหตุ
“ผมเห็นเครื่องบินกำลังลดระดับลงและคิดว่ากำลังจะลงจอด แต่กลับสังเกตเห็นแสงวาบ” โชกล่าว “จากนั้นก็มีเสียงระเบิดดัง ตามมาด้วยควันในอากาศ จากนั้นผมก็ได้ยินเสียงระเบิดต่อเนื่องหลายครั้ง”
คิม ยองชอล อายุ 70 ปี กล่าวว่าเครื่องบินพยายามลงจอดครั้งแรก แต่ไม่สามารถลงจอดได้ และได้วนกลับมาใหม่เพื่อลงจอดอีกครั้งก่อนจะตก
คิมจำได้ว่าได้ยินเสียงโลหะเสียดสีกัน 2 ครั้ง ราว 5 นาทีก่อนเครื่องบินจะตก
คิมบอกว่าเขามองขึ้นไปบนท้องฟ้าและเห็นเครื่องบินกำลังไต่ระดับขึ้นหลังจากลงจอดไม่สำเร็จ ก่อนที่เขาจะได้ยิน “เสียงระเบิดดัง” และเห็น “ควันดำพวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า”
พยานอีกรายวัย 50 ปีซึ่งตกปลาอยู่ใกล้ๆ ซึ่งระบุนามสกุลว่าจุง เปิดเผยว่าเห็นฝูงนกชนเครื่องบิน ซึ่งทำให้เครื่องยนต์ด้านขวาเกิดไฟไหม้
“ขณะที่เครื่องบินกำลังลงจอดบนรันเวย์ เครื่องบินก็พุ่งชนฝูงนกที่กำลังบินมาจากทิศทางตรงข้าม” เขากล่าว “ผมได้ยินเสียงดัง 2-3 ครั้ง เหมือนว่านกถูกดูดเข้าไปในเครื่องยนต์ก่อนที่จะเห็นเปลวไฟพุ่งออกมาจากเครื่องยนต์ด้านขวา”
เจ้าหน้าที่ตำรวจและดับเพลิงกำลังดำเนินการสืบสวนในสถานที่เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด