รัฐบาล “อุ๊งอิ๊งค์” ยังไม่ยอมเปิดเวทีสาธารณะถกปม MOU2544 หลัง “สนธิ” และคณะยื่นทวงถาม ได้แค่ส่ง “นพดล ปัทมะ” ออกมาแถลงข่าวพูดด้านเดียวด้อยค่าฝ่ายต่อต้าน แต่กลับปฏิเสธไปดีเบตออกสื่อ ทั้งที่เชิญไปหลายครั้ง แถมโกหกอ้างตัวเองไม่ผิดที่เซ็นแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาปี 51 ทั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญและศาลปกครองสูงสุดตัดสินแล้วว่าผิดรัฐธรรมนูญเพราะไม่ผ่านสภา
ในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” หรือ “สนธิทอล์ก”เมื่อวันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม 2567 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการได้กล่าวถึงกรณีเมื่อวันอังคารที่ 24 ธันวาคม ที่ผ่านมา ได้ร่วมกับนายปานเทพ พัวพงษืพันธ์ และคณะ ไปที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อทวงคำตอบนายกรัฐมนตรี หลังครบ 15 วัน ที่ได้ยื่นหนังสือขอให้เพิกถอน MOU 2544 และ JC 2544 ซึ่งในวันดังกล่าวนอกจากจะมีนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มารับหนังสือแล้ว ยังมีข้าราชการจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการต่างประเทศ กองทัพเรือ สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมรับฟังในที่ประชุม
ทั้งนี้ หลังจากมีการเผยแพร่คลิปการประชุมดังกล่าวผ่านรายการ News Hour และช่อง YouTube ของ News 1 แล้วปรากฏว่ามีคนเข้ามาชมและให้ความสนใจเนื้อหาสาระเกี่ยวกับเรื่องนี้มากกว่า 5 แสนคน ซึ่งเป็นน่าแปลกใจที่เรื่องหนักๆ อย่างนี้ มีประชาชนให้ความสนใจอย่างมาก และมากขึ้นเรื่อยๆ
เรื่องนี้ทำให้รัฐบาลเดือดร้อนมาก วันเดียวกันนั้นเลย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ถูกถามเรื่อง MOU 2544 ก็ตอบอ้อมๆ แอ้มๆ ว่าไม่ได้ปล่อยผ่านเรื่องนี้ แต่ยังยืนกรานไม่ยอมเปิดเวทีสาธารณะ หรือเวทีดีเบตตามสื่อ เพราะรู้ว่าเปิดเมื่อไรก็ตายคาเวที ไม่ว่าจะเป็นใคร
“ที่ผมต้องการให้เปิดเวทีสาธารณะ เพื่อให้ความรู้และคลายข้อสงสัยกับประชาชน สร้างความโปร่งใสให้กับรัฐบาลชุดนี้ ว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ได้อุ๊บอิ๊บ แอบไปตกลงกับสมเด็จฮุน เซน เพื่อที่จะแบ่งผลประโยชน์สัมปทานในทะเลกันสองฝ่าย ใครจะได้บ้าง ผมไม่รู้ แต่ว่าลักษณะทำแบบอุ๊บอิ๊บแบบนี้ แล้วไม่ยอมเอาเรื่องนี้มาถกเถียงในเวทีสาธารณะ เพื่อให้ประชาชนเป็นคนตัดสินใจนั้น มันสะท้อนให้เห็นถึงความไม่จริงใจ และความซ่อนเร้น แอบลับลวงพราง และมีพิรุธอย่างแรง” นายสนธิกล่าว
ความเพลี่้ยงพล้ำดังกล่าวของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ทำให้ต้องมีการเข็น นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และที่ปรึกษากฎหมายตระกูลชินวัตร ออกมาแถลงข่าวตอบโต้ เมื่อวันพุธที่ 25 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งไม่ใช่ตอบโต้อย่างเดียวด้อย แต่ใช้วิธีค่า โดยบอกว่าว่า ระหว่างกลุ่มนายสนธิกับกรมสนธิสัญญาฯ กระทรวงการต่างประเทศ จะเชื่อใคร
นายนพดลกล่าวว่า “นายสนธิ กับพรรคพวก บอกว่า MOU 2544 จะทำให้ไทยเสียดินแดน เพราะไปยอมรับเส้นไหล่ทวีปกัมพูชา แต่ความจริงแล้ว รัฐบาล และกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ยืนยันชัดเจนว่า MOU 2544 ไม่ได้เป็นการยอมรับเส้นไหล่ทวีปกัมพูชา ท่านจะเชื่อใคร ระหว่างกลุ่มพันธมิตรฯ และกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ผมขอเชื่อกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย และหน่วยงานของรัฐ"
นายนพดลยังดูหมิ่นดูแคลนว่า “การเคลื่อนไหวของนายสนธิ ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยไม่ได้กังวล เราขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ อย่าใช้ Hate speech หรือวาทกรรมสร้างความเกลียดชัง และที่สำคัญ อย่าใช้ความเท็จสร้างกระแสปลุกความเกลียดชังในชาติ รัฐบาลไม่ได้กังวล ถ้าลงถนน อาจจะแค่รถติดนิดหน่อย”
“คุณนพดลครับ ผมอยากจะบอกคุณอย่างนี้ดีกว่า ไม่ต้องลงรายละเอียดให้มาก เพราะถ้าคุณมีตา มีสมอง อ่านความเห็นประชาชนตามสื่อโซเชียลมีเดียทั่วไปกับการออกมาแถลงของคุณ คุณคงรู้ว่าประชาชนทั่วไปเก้าสิบกว่าเปอร์เซ็นต์ เขาคิดอย่างไรกับคุณ คุณนพดล ผมตอบคุณอย่างนี้ดีกว่า สั้นๆ 4 ข้อ แล้วผมจะส่งคำท้าไปที่คุณด้วย อย่าเก่งแต่ปากสิ มาเจอกัน
“ประการแรก คุณนพดล พูดออกโทรทัศน์หลายครั้งว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมกรณีที่ถูกกล่าวหาว่า คุณดำเนินการเรื่องปราสาทพระวิหารแล้วศาลฎีกาตัดสินว่าไม่ผิด แต่คุณนพดล นั่นเป็นคดีกล่าวหาเรื่องการทุจริตต่อหน้าที่ ไม่ได้แปลว่าคุณนพดลไม่ได้ทำผิด
“คุณน่ะทำผิด เพราะอีก 2 คดี คือคดีศาลรัฐธรรมนูญ และศาลปกครองสูงสุด ได้วินิจฉัยเสร็จสิ้นไปแล้วกรณีที่คุณนพดลไปลงนามในแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทย-กัมพูชา เพื่อยกปราสาทพระวิหารและพื้นที่ไทยบางส่วนให้เป็นมรดกโลกของกัมพูชาฝ่ายเดียว เมื่อปี 2551 นั้น ศาลรัฐธรรมนูญบอกว่าไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เพราะไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา
“คุณนพดลครับ จำใส่กะโหลกคุณเอาไว้ด้วย คำพิพากษานี้ ส่วนที่ตัดสินไม่ให้คุณผิดในคดีอาญา ในชั้นเพราะ ป.ป.ช.เห็นว่าคุณไม่ได้มีเจตนาที่จะกระทำความผิดต่อรัฐธรรมนูญเท่านั้น แต่ไม่ได้แปลว่าคุณไม่ผิดนะ คุณนพดล ตามคำพิพากษานี้ คุณผิด แต่คุณพูดบ่อยๆ หลายครั้งว่า พวกผมเป็นพวกที่ไม่มีเหตุผล
“เรื่องประธานวุฒิสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งความเห็นสมาชิกวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยและชี้ขาดเกี่ยวกับการแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทย-กัมพูชา ฉบับลงวันที่ 18 มิถุนายน 2551 ซึ่งคุณนพดลเป็นคนลงนาม เป็นหนังสือสัญญาที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 หรือไม่ คำวินิจฉัยออกมาชัดเจนนะครับ
“คุณนพดล นี่เป็นแค่ข้อแรกที่คุณโกหกหน้าด้านๆ โกหกประชาชน ซึ่งคนส่วนใหญ่เขารู้ว่าคุณโกหก เพราะคุณพูดความจริงไม่ครบ
“ประการที่สอง คุณพยายามด้อยค่าพวกผม ถามว่าจะเชื่อนายสนธิ ปานเทพ และคณะ หรือจะเชื่อกรมสนธิสัญญาฯ คุณน่าจะไปดูคลิปการประชุมเมื่อวันอังคารก่อน คุณไปเบิกสายตาคุณดูเสียหน่อยสิ มีคนดูไปหลายแสนครั้ง สงสัยคุณไม่ได้ดูที่อาจารย์ปานเทพตอบโต้กับข้าราชการกรมสนธิสัญญาฯ ที่คุณยกยอปอปั้น อ้างโน่นอ้างนี่ ว่า ไม่เชื่อกรมสนธิสัญญาฯ แล้วจะเชื่อนายสนธิ ได้อย่างไร
“คุณไปฟังดู คุณเบิกสายตาคุณดูเสียหน่อย ถ้าแถวบ้านผมก็จะบอกว่า ไปแหกตาดู แล้วเปิดหูฟัง ว่าอาจารย์ปานเทพตอบโต้กรมสนธิสัญญาฯ จนกระทั่งหน้าแตก ไปที่ศูนย์รับเรื่องฯ ประชุมกัน ไปถูก แต่กลับไม่ถูก เพราะว่ากรมสนธิสัญญาฯ โกหก พูดความจริงไม่หมด ไปฟังสิคุณนพดล ผมท้าให้คุณไปฟัง
“อาจารย์ปานเทพตอบโต้ว่า ก็เพราะว่ากระทรวงการต่างประเทศ และคุณนี่ล่ะ คุณนพดล ทำให้ประเทศไทยเสียหายไปหลายครั้งแล้ว อย่างน้อยก็ 2 ครั้ง ทำให้เราสูญเสียเขาพระวิหาร
“ประการที่สาม คุณนพดล จริงๆ คุณนี่ลืมตัว เพราะโดยสถานะจริงๆ คุณมีตำแหน่งเป็นแค่ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ไม่ได้มีตำแหน่งบริหาร แต่กลับอ้างโน่นอ้างนี่ บอกยึดตามพระบรมราชโองการในหลวงรัชกาลที่ 9 นี่คือคำพูดที่คุณอ้างนะ คุณนพดล แต่คุณนพดล ตั้งใจฟัง นายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ กับทักษิณ ซึ่งเป็นนายกฯ ตัวจริง และนายกฯ ตัวปลอม ดันพูดมาหลายครั้ง พูดพล่อยๆ คุณนพดล คุณเบิกหู แคะหูฟังดีๆ นายคุณทั้งสองคน พูดว่า ถ้าตกลงเรื่องเขตแดนกัมพูชาไม่ได้ ก็ให้แบ่งกัน ซึ่งแปลว่ารัฐบาลไทยไม่ได้ยึดตามพระบรมราชโองการ ตามที่คุณพูดออกมาเลย ใช่หรือเปล่า นพดล ตอบสิ คุณยิ่งพูด ยิ่งเป็นเชือกรัดคอตัวคุณเอง
“ประการที่สี่ ถ้าคุณแน่จริง คุณแน่ใจว่าคุณพูดความจริง และพวกผมพูดไม่จริง ทำไมแค่รายการโทรทัศน์หรือช่องแต่ละช่องที่เคยเชิญให้คุณไปออกรายการ คุณก็รับปากว่าจะไป แต่พอบอกว่าจะเชิญอาจารย์ปานเทพไปร่วมคุยด้วย คุณขี้ขลาดตาขาว ปฏิเสธไม่ยอมไป รายการทางไทยพีบีเอส 2 ครั้ง เมื่อหลายปีก่อน คุณปฏิเสธพอรู้ว่าปานเทพไป แนวหน้าออนไลน์ ครั้งหลังสุด เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี่เอง คุณก็ปฏิเสธ ที่สำคัญ รัฐบาลไม่เอาคุณนพดล กับกระทรวงการต่างประเทศ และข้าราชการ มาขึ้นเวทีสาธารณะ ก็คุณเชื่อมั่นนักไม่ใช่หรือ กระทรวงการต่างประเทศ คุณแน่จริงใช่ไหม วันนั้นโดนอาจารย์ปานเทพตอกเสียจนคุณกลับบ้านไม่ถูกเลย ชี้แจง ให้ความรู้ประชาชน ผ่านช่องไหนก็ได้ ของรัฐบาลก็ได้ NBT ก็ได้ ช่อง 5 ก็ได้ ช่อง 3 ช่อง 7 ก็ได้
“คุณนพดล คุณอย่าทำตัวเป็นเต่าหัวหด ปากกล้าขาสั่น อย่าๆๆๆ อย่าช้า รีบรับคำท้ามาเลย ถ้าไม่รับคำท้ามาเจอต่อหน้าพูดคุยกันแบบลูกผู้ชาย กล้าพูดแต่ฝ่ายเดียว วันหลังอย่าสะเออะออกมาตอบโต้พวกผมอีก เพราะประชาชนทั่วไปเขารู้อยู่แล้วว่าคุณน่ะไม่มีราคาเลยแม้แต่นิดเดียว” นายสนธิกล่าว
