เผยวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น สำหรับผู้ป่วยแอลกอฮอล์เป็นพิษ ความอันตรายขึ้นอยู่กับปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด
จากกรณี “แบงค์ เลสเตอร์” อินฟลูเอนเซอร์เสียชีวิตโดยมีสาเหตุคาดว่ามาจากการถูกจ้างดื่มเหล้าให้หมดแบน โดยมี “เต้ บ้านสวน” และ “เอ็ม เอกชาติ” อยู่เบื้องหลังแลกเงินกับเงิน 30,000 บาท ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น ต่อมา มีรายงานว่าผลชันสูตร "แบงค์ เลสเตอร์" เบื้องต้น พบแอลกอฮอล์เป็นพิษในกระแสเลือด แอลกอฮอล์ในร่างกายมีมากเกินกว่าร่างกายจะรับได้
อย่างไรก็ตาม พบว่า "คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี" ได้เคยออกมาให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีช่วยเหลือผู้ป่วยแอลกอฮอล์เป็นพิษเบื้องต้นเอาไว้
สำหรับ แอลกอฮอล์เป็นพิษ คือ ภาวะแอลกอฮอล์เป็นพิษ (alcohol poisoning) คือ การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิดในปริมาณมากและดื่มแบบรวดเร็วในช่วงเวลาสั้น ๆ ทำให้ตับไม่สามารถขับสารนี้ออกจากเลือดได้ทัน ระบบการทำงานของร่างกายรวนจนเกิดภาวะช็อกที่เป็นอันตรายร้ายแรงถึงชีวิตได้
สาเหตุของภาวะ แอลกอฮอล์เป็นพิษเกิดจากการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิดจนมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดมากกว่า 400 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์จะมีอัตราเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแอลกอฮอล์เป็นพิษขึ้นอยู่กับปัจจัย ดังนี้
การดูดซึมสารในร่างกายของแต่ละบุคคล
ปริมาณความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในแต่ละชนิดของเครื่องดื่ม
เพศหญิงจะมีปฏิกิริยาต่อแอลกอฮอล์ได้ไวกว่าผู้ชาย
- อาการของภาวะ แอลกอฮอล์เป็นพิษ
- สับสน
- พูดไม่ชัด พูดไม่รู้เรื่อง
- น้ำตาลในเลือดต่ำ
- ไม่สามารถทรงตัวได้
- ง่วงซึม นอนหลับเยอะกว่าปกติ
- อาเจียน
- หายใจผิดปกติ
- เกิดอาการชัก
- การเคลื่อนไหวของดวงตาเร็วกว่าปกติ
- ตัวเย็นจัด
- ผิวหนังซีด กลายเป็นสีม่วง
- หมดสติ ไม่รู้สึกตัว
- เกิดภาวะกึ่งโคม่า ร่างกายไม่สามารถตอบสนองได้
- หัวใจวายเฉียบพลัน
- หยุดหายใจ
สำหรับวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น
1.รีบโทรแจ้งหน่วยกู้ชีพ 1669 หรือโทรแจ้งตำรวจ 191 เพื่อขอความช่วยเหลือ
2.ปลุกผู้ป่วยให้ตื่นและพยุงให้อยู่ในท่านั่ง
3.หากยังดื่มน้ำได้ ให้ผู้ป่วยดื่มน้ำเปล่า
4.หากผู้ป่วยหมดสติ ให้จับนอนตะแคงหรืออยู่ในท่าพักฟื้น คอยดูว่าผู้ป่วยยังหายใจอยู่หรือไม่
5.หากพบว่าหยุดหายใจให้ทำการช่วยหายใจ หรือหากพบหัวใจหยุดเต้นให้เริ่มการกู้ชีพ CPR
6.ทำให้ร่างกายของผู้ป่วยอบอุ่น
7.คอยสังเกตอาการจนกว่ารถพยาบาลจะมา
8.อย่าให้ผู้ป่วยหลับ
9.ห้ามอาบน้ำให้ผู้ป่วย
10.การดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมากในระยะเวลาที่สั้นและเร็ว ทำให้ตับขับแอลกอฮอล์ออกจากกระแสเลือดไม่ทันจนเกิดภาวะแอลกอฮอล์เป็นพิษ
- ลักษณะอาการที่อาจพบและระดับแอลกอฮอล์ในเลือด
20 – 49 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ อารมณ์ดี ผ่อนคลาย และการตัดสินใจช้าลงเล็กน้อย
50 – 99 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เริ่มเสียการทรงตัว ควบคุมตัวเองได้น้อยลง และตอบสนองช้าลง
100 – 199 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เดินเซ กล้ามเนื้อทำงานไม่สัมพันธ์กัน
200 – 299 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ คลื่นไส้ อาเจียน การรับรู้ลดลง และจำเหตุการณ์ไม่ได้
300 – 399 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ หมดสติ ชีพจรลดลง และอุณหภูมิร่างกายลดลง
มากกว่า 400 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ มีโอกาสหยุดหายใจและเสียชีวิตได้
การตอบสนองต่อระดับแอลกอฮอล์อาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล แม้ระดับจะน้อยกว่า 400 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ก็อาจเสี่ยงจะเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ หรือการนอนหลับลึกในท่าผิดปกติที่อุดกั้นทางเดินหายใจได้ เช่น การนอนคอพาดกับระเบียงจนกดทางเดินหายใจ