ลูกสาวร้องขอความเป็นธรรมหลังพ่อถูกฆ่าตายสุดโหดกลางลอยกระทงกันตัง จังหวัดตรัง แต่เรื่องเงียบไร้การเยียวยาจากผู้จัดงาน ทั้งที่ทั้งงานคนพลุกพล่าน แถมตำรวจยังเงียบไม่มีความคืบหน้าของคดี เผยสถานที่ที่ผู้ตายถูกฆ่าห่างจากโรงพักไม่กี่ก้าว
วันนี้ (19 ธ.ค.) เฟซบุ๊ก “Stan Janjira" ได้โพสต์เพื่อขอความเป็นธรรมให้พ่อที่เสียชีวิตอย่างมีเงื่อมงำ โดยระบุข้อความว่า “เช้าวันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2567 พี่ชายขับรถร้องไห้โฮ บอกกับเราว่าพ่อเสียแล้ว พ่อเป็นลมที่ร้านขายปลาของพ่อ พ่อได้ไปตั้งร้านขายปลาสวยงามที่งานลอยกระทงกันตัง จังหวัดตรัง ริมฝั่งแม่น้ำกันตัง อ.กันตัง จ.ตรัง 6-15 พฤศจิกายน 2567 ชื่อร้านเก้าหน้าฟาร์ม
ระหว่างนั่งรถเราก็ได้รับแจ้งจากเพื่อนๆ พ่อที่เป็นพ่อค้าแม่ค้าในงานโทร.มาแจ้งข่าวเรื่อยๆ จนได้ข้อมูลมาว่า กระเป๋าสะพายพ่อหายไปพร้อมเงิน บัตรประชาชน โทรศัพท์มือถือ เราเอะใจว่าพ่อโดนฆ่าหรือเปล่า เลยบอกพี่ชายว่าพ่อโดนฆ่าแน่เลย เราไปถึงจุดเกิดเหตุคือเลือดพ่อเต็มร้าน ภายในร้านไม่มีร่องรอยการต่อสู้หรือข้าวของกระจัดกระจายเลย ไม่มีร่องรอยการเก็บอะไรเลย เราเลยสงสัยตำรวจได้เก็บหลักฐานหรือรอยนิ้วมือคนร้ายจากศพพ่อหรือยัง
แต่ศพพ่อได้ถูกนำส่งโรงพยาบาลกันตังไปแล้ว ตอนที่อยู่ที่ร้านจุดเกิดเหตุทำไมสถานที่เกิดเหตุมันเงียบขนาดนี้ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นตรงนั้นเลย แล้วมีคนหนึ่งเดินมาบอกแม่ว่าให้เก็บและเคลียร์สถานที่ตรงนี้เลย พี่น้องพ่อ พี่ แม่ และพ่อค้าแม่ค้าที่สนิทกับพ่อก็ช่วยกันเก็บ ปลาก็แจก อุปกรณ์ในร้านพี่ก็เอากลับเท่าที่ใช้งานได้ต่อ แม่ไปหาน้ำมาทำความสะอาดเลือดบนพื้นถนน เรายิ่งงงจุดเกิดเหตุเลือดเยอะมาก นักข่าวไม่มี
คนที่รู้ว่ามีการตายในร้านแค่พ่อค้าแม่ค้าในงานไม่กี่คน จุดเกิดเหตุคือเส้นถนนที่คนพลุกพล่าน ด้านหลังร้านพ่อคือร้านค้าร้านขายของบ้านคน สถานีตำรวจกันตังก็ห่างจุดเกิดเหตุไม่กี่ก้าว คนร้ายยังลงมือได้โหดขนาดนี้
พอเคลียร์ร้านเสร็จเรารีบไปหาพ่อที่โรงพยาบาลกันตัง ภาพแรกที่เห็นคือปลายเท้าพ่อทั้งสองข้าง เพราะมูลนิธิคลุมห่อศพพ่อไว้ ใจฉันแตกสลายมาก ยืนเข่าอ่อน ไม่กล้าเข้าไปดูศพพ่อ ทำใจไม่ได้ ตั้งสติแล้วเดินไปดูศพพ่อ
และได้เข้าพบหมอที่ตรวจศพพ่อ เราถามว่าพ่อถูกทำร้ายไหม เพราะสภาพบาดแผลเหมือนโดนทุบหัว และโดนยิงที่หลังใบหูไหม หมอบอกว่าทางเราไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าเสียชีวิตจากการโดนทำร้าย หรือเป็นลมแล้วพลัดตกจากที่สูง ซึ่งมันอาจเป็นไปได้ ถ้าญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต ก็นำศพกลับบ้านได้เลย
ถ้าญาติติดใจสาเหตุการตายเดี๋ยวหมอดำเนินการส่งศพไปชันสูตรต่อที่ ม.อ.หาดใหญ่ เพราะผลจะชัดเจนและละเอียด เราเลยให้มูลนิธิตรัง พี่ๆ ใจดีมาก พูดคุยดี นิสัยน่ารักทั้งสามคนเลย ช่วยนำส่งศพพ่อถึง ม.อ.หาดใหญ่ และรอคุณหมอผ่าศพพ่อจนเสร็จไปด้วยกัน คำถามที่เราถามคุณหมอ พ่อไม่ได้เป็นลมใช่มั้ย คุณหมอบอกว่า โห..สภาพศพคือบอกว่าเป็นลมไม่ได้ เพราะบาดแผลที่ศีรษะโดนทุบตีกะโหลกยุบมากกว่า 10 แผล มีเลือดคั่งในสมองด้วย หลังใบหูไม่ใช่โดนยิง แต่เป็นของแข็งแทงลงไปลึก 6 เซนติเมตร เสียเลือดเยอะจากแผลบนศีรษะ
คุณหมอและมูลนิธิช่วยกันเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ให้พ่อ แล้วนำส่งศพพ่อมายังบ้านน้ำแคบเพื่อทำพิธีทางศาสนา ถึงบ้านน้ำแคบเกือบๆ เที่ยงคืน ญาติๆ อยู่กันเต็มเพื่อรอรดน้ำศพและนำศพพ่อใส่โลงเพื่อประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
34 วันแล้วนะพ่อ ที่พ่อจากไปแบบไม่มีวันหวนกลับ 34 วันที่ยังไม่สามารถจับคนร้ายมาลงโทษได้ 34 วันที่ผู้จัดงานลอยกระทงท่าเรือกันตังไม่ได้เข้ามาแสดงความเสียใจในการสูญเสียพ่อกับครอบครัวของเรา คนกันตังบางคนยังรู้ข่าวแค่ว่าพ่อเป็นลมตายอยู่เลย บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีการฆ่ากันตายในงานลอยกระทงกันตังแห่งนี้
คนร้ายยังคงลอยนวลอยู่ในสังคม อยากให้ศพพ่อเป็นศพสุดท้ายที่โดนมันฆ่าตายอย่างทารุณโหดเหี้ยม
#งานลอยกระทงกันตัง #เทศบาลกันตัง #ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง #นักข่าวตรัง ตำรวจภูธรกันตัง กันจอมพลัง ช่วยสู้ โหนกระแส ช่วยหนูแชร์ข่าวพ่อหน่อยนะคะ หนูกราบ หนูอยากทวงความยุติธรรมให้พ่อและครอบครัว อยากให้คนร้ายได้รับโทษในสิ่งที่ตัวเองทำและไม่สามารถไปฆ่าคนอื่นตายแบบนี้ได้อีกค่ะ #ทุบหัวคนอื่นตายจากทางข้างหลัง ซึ่งเขาไม่ทันได้ระวังตัวหรือต่อสู้เลย โคตรเลวเลย”
