เพจดังชี้เป็นช่องโหว่ 30 บาท-สิทธิบัตรทอง ปมแม่หัวหมอพาลูกตระเวนขอยาแก้แพ้ก่อนนำไปขายต่อในกลุ่มเฟซบุ๊ก ด้าน สปสช.พบข้อมูลสำคัญ เจอจ่ายยาจาก รพ.ในภาคอีสาน เบื้องต้นพบเข้าข่ายต้องสงสัย 2 ราย
จากกรณีแม่หัวหมอพาลูกเข้าโรงพยาบาลหลายแห่ง อ้างเป็นภูมิแพ้ หลังหมอจ่ายยาพ่นจมูกก็นำไปขายต่อในกลุ่มต่างๆ ในราคากล่องละ 450 บาท กำไรเหนาะๆ วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการเด็ดขาดก่อนระบบจะพังพินาศ
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. เพจ “Remrin” ออกมาโพสต์ข้อความขยายความในประเด็นดังกล่าว โดยได้ระบุข้อความว่า
"สรุปคือยาพ่นตัวนี้แพงครับ หาค่อนข้างยาก แต่ถ้าจำเป็นก็เบิกได้ เลยมีแม่เด็กหัวหมอ คือลูกเป็นภูมิแพ้จริงๆ แหละ แต่ลูกได้ยามากพอแล้ว แม่ก็อาศัยช่องโหว่ อย่างตอนนี้มีสิทธิบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกที่ด้วย แม่ก็พาลูกเข้า รพ.ใหญ่โน่นนี่ แล้วก็เบิกยามา ยิ่ง รพ.บางแห่งเบิกยาได้ที 6 เดือน ก็ 6 กล่อง
(แต่ถ้า รพ.ไม่ตรงสิทธิอาจจะเบิกฟรีได้ครั้งละไม่เกิน 1,200 บาท) ก็เบิกหลายๆ ที่ รวมๆ กันเดือนหนึ่งได้เป็นลังเลย
(สิทธิกรมบัญชีกลางก็น่าจะมีทำนะ แต่เห็นว่าตรวจประวัติการเบิกยาละเอียดกว่า เลยไม่แน่ใจว่ามีหลุดมาทำแบบนี้ได้ไหม)
แล้วแม่หัวหมอพวกนี้ก็เอายาไปแกะฉลากออกหมด แล้วประกาศขายต่อตามกลุ่มแม่และเด็ก หรือที่เจอบ่อยสุดคือกลุ่มภูมิแพ้ครับ นี่แอบเข้าไปส่องนี่ขายกันฉ่ำมากฟันกำไรเละเทะเลย
นี่เป็นอีกช่องโหว่หนึ่งแหละที่ทำให้สิทธิบัตรทองหรือ 30 บาท ที่แบกภาระค่าใช้จ่ายหนักมากๆ อยู่แล้ว ต้องพังพินาศหนักขึ้นไปอีก
ส่วนแม่นั้น สมมติเดือนหนึ่งเบิกมาได้ 30 กล่อง ขายกล่องละ 400 ก็ 12,000 บาท แล้วจ้า
แล้วจะบอกว่าพวกนี้ไปทีไม่ได้เบิกแค่ตัวนี้ตัวเดียวนะ มียาอื่นๆ ด้วย เพราะงั้นรายได้อาจจะมากกว่านี้อีก"
ล่าสุด วันนี้ (19 ธ.ค.) มีรายงานว่า สปสช.แจงความคืบหน้าประเด็นแม่พาลูกตระเวนขอยาภูมิแพ้ และนำมาขายต่อในออนไลน์ พบยาถูกเบิกจาก รพ.ภาคอีสานและเบิกนอกเวลาราชการ
พบปี 67 มี 2 ราย เข้าข่ายต้องสงสัยที่เบิกหลายร้อยขวดจากหลายโรงพยาบาล ยืนยันจะเอาผิดทางกฎหมาย ก่อนหน้านี้เคยดำเนินคดีฐานฉ้อโกงไปแล้ว 3 ราย
อ่านโพสต์
