คดีสังหาร ส.จ.โต้ง ปราจีนบุรี เป็นหลักฐานยืนยันชัดเจน เจ้าพ่อเมืองไทยยังมีอยู่ ยังไม่ไปไหน
ใครที่คิดว่าเจ้าพ่อมาเฟียเมืองไทยไม่มีแล้วใน พ.ศ.นี้ต้องสะดุ้งตื่นจากฝันไปตามๆ กัน เพราะคดีสังหาร ส.จ.โต้ง ปราจีนบุรี นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ เป็นหลักฐานยืนยันชัดเจน เจ้าพ่อเมืองไทยยังอยู่ ยังไม่ไปไหน เมื่อความขัดแย้งเดินทางมาถึงจุดที่คุยกันไม่รู้เรื่อง ก็ต้องใช้อำนาจปืนผ่าทางตัน
เจ้าพ่อปราจีนฯ อย่าง “โกทร” นายสุนทร วิลาวัลย์ จำต้องใช้บ้านของตัวเองเป็นสถานที่ “ปิดประตูตีแมว” อย่างไม่มีทางเลี่ยง เพราะถ้าปล่อย ส.จ.โต้งก้าวพ้นประตูบ้านไปในคืนนั้น ก็จะเหมือน “ปล่อยเสือเข้าป่า”
การสังหารอริในบ้านตัวเองมีดีกรีความอุกอาจ สมศักดิ์ศรีเจ้าพ่อทุกประการ ใครไม่เคยรู้จักตัวตนแท้จริงของโกทร ก็ได้รู้กันคราวนี้
เทียบเคียงกับคดีเก่าๆ ที่เกิดขึ้นตามประกาศิตสั่งตายจากเจ้าพ่อ ก็จะเห็นถึงความดุเดือดเลือดพล่าน ท้าทายกฎหมายไม่ต่างกัน
ย้อนไปเมื่อปี 2531 เจ้าพ่อน้อยดาวรุ่งอย่าง “โหงว ห้าพลัง” นายชัยวัฒน์ พลังวัฒนกิจ ถูกมือปืนยิงถล่มเบ้าตาทะลุคาสนามมวยลุมพินีระหว่างการพักยก 4 ของมวยคู่เอก เกิดการดวลปืนกันสนั่นหวั่นไหวระหว่างกลุ่มมือสังหารกับมือปืนคุ้มกันโหงว ห้าพลัง ราวกับเมืองไทยเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน
ก่อนถูกสั่งเก็บ โหงว ห้าพลัง เพิ่งขึ้นเวทีมวยไปจับไมโครโฟน ยืนร่วมกับเจ้าพ่อนครบาลอย่างเฮียเหลา นายแคล้ว ธนิกุล โดยโหงวมีตำแหน่งเป็นนายกสมาคมมวยอาชีพ ส่วนแคล้วเป็นนายกสมาคมมวยสมัครเล่น
แต่พอลงจากเวทีไม่เท่าไร มือปืนก็ถล่มฆ่าโหงว ห้าพลัง กันตรงนั้นเลย ไม่รอไปจัดการกันข้างนอกสนามมวย
ตำรวจจับมือปืนในที่เกิดเหตุได้ 2 คน ล้วนแต่เป็นคนของแคล้ว ธนิกุล
แต่แคล้วปฏิเสธไม่รู้เห็นใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งหลุดคำพูดว่า “โหงวไม่ได้วัดรอยเท้าผม ผมช่วยเขาทุกอย่าง ผมรักโหงวเหมือนน้อง และเขาก็รักผมเหมือนพี่”
คำพูดแบบนี้ แทบจะเหมือนกันเป๊ะกับคำพูดของโกทร ที่พูดออกมาหลังตกเป็นผู้ต้องหาฆ่า ส.จ.โต้ง โดยไตร่ตรองไว้ก่อน
โดยโกทรกล่าวถึง ส.จ.โต้งว่า “รักเหมือนลูกหลาน จะฆ่าทำไม บ้าบอ ผมอุตส่าห์ช่วยเขามาโดยตลอด”
จะว่าโกทรจงใจก๊อปปี้คำพูดของเฮียเหลาก็คงไม่ใช่ เพราะเหตุการณ์ฆ่าโหงว ห้าพลัง ก็ผ่านมาเนิ่นนานมากแล้ว
แต่เจ้าพ่อใหญ่ ที่จัดการเจ้าพ่อน้อย ผู้ทำตัวเป็น “หนามยอกอก” รูปประโยคปฏิเสธข้อกล่าวหาคงยากจะฉีกไปจากแนวนี้
ทั้งนี้ โหงว ห้าพลัง เมื่อมีความสนิทสนมกับแคล้ว ธนิกุล กลับสร้างบรรยากาศหลายๆ สิ่งที่เบ่งบารมีกวนใจเจ้าพ่อใหญ่เรื่อยมา เช่น สะสมมือปืน ไปไหนไปกันเป็นกลุ่มใหญ่ แบบเดียวกัน
ฟางเส้นสุดท้าย เป็นคำพูดบนเวทีมวยคืนวันนั้น ซึ่งโหงวประกาศต่อหน้าแคล้วว่า
“หากนักมวยคนใดถูกโปรโมเตอร์เบี้ยว ขอให้ไปบอกกับเฮียเหลา หรือถ้าเฮียเหลาไม่อยู่ ก็ให้บอกกับโหงว”
ก็คล้ายๆ ส.จ.โต้ง ที่ไปพูดใส่หน้าโกทร สื่อสารไปว่า ตอนนี้เป็นเวลาของเขาแล้ว ทั้งที่จริงๆ ยังไม่สุกงอม
ยังมีคดีประกาศิตเจ้าพ่อที่บริบทคล้ายกันอีกคดี คือคดีสังหารกำนันยูร อ่างศิลา นายประยูร สิทธิโชติ เมื่อปี 2546
กำนันยูรถูกมือปืนบุกยิงอุกอาจกลางงานแต่งงานลูกสาวเศรษฐีเมืองชล เพื่อนสนิทของกำนันยูรเอง
ก่อนถูกสังหาร กำนันยูรรู้ตัวว่ามีใบสั่งฆ่าเขาเรียบร้อยแล้วจากเจ้าพ่อเมืองชล จึงเน้นกบดานในที่ปลอดภัยเป็นหลัก
แต่เนื่องจากวันนั้นลูกสาวเพื่อนจะแต่งงาน อีกทั้งรายชื่อแขกวีไอพีในงานมีชื่อนายวิทยา คุณปลื้ม ลูกชายของกำนันเป๊าะ
กำนันยูรประเมินสถานการณ์แล้ว ลองลูกกำนันเป๊าะมาเอง คงไม่มีใครกล้าทำอะไร เขาจึงออกจากที่ซ่อน เดินทางมาร่วมงาน
ซึ่งนั่นเป็นไปตามการคาดการณ์ของคนสั่งฆ่า ยืมตัวนายวิทยา คุณปลื้ม มาเป็น “นกต่อ” โดยเจ้าตัวไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรด้วย
ผลก็คือ กำนันยูรจบชีวิตต่อหน้านายวิทยา คุณปลื้ม กลางงานที่มีผู้คนเห็นเหตุการณ์นับร้อย
ถ้าไม่ใช่แผนการโหดเหนือชั้น ด้วยการตัดสินใจตามวิถึเจ้าพ่อ ที่ว่า “มึงไม่ตาย กูก็ม้วย..!” คงจะทำไม่ได้ขนาดนี้
ทั้งนี้ ชนวนความขัดแย้งระหว่างกำนันยูรกับเจ้าพ่อใหญ่ มาจากการฆ่ากันไปมาระหว่างสมุนเจ้าพ่อกับสมุนกำนันยูร
กำนันยูรต้องสูญเสียหลานชาย คือ ยุทธเป๋ อ่างศิลา นายประยุทธ สิทธิโชติ ส่วนเจ้าพ่อสูญเสียมือขวาอย่าง พ.ต.ท.ไชยันต์ วิชัยดิษฐ์
ไม่ว่ากำนันยูรจะเคลียร์ตัวเองเท่าไร ว่าเขาไม่ได้อยู่เบื้องหลังคำสั่งฆ่า พ.ต.ท.ไชยันต์ แต่เจ้าพ่อประเมินว่า ตราบใดที่กำนันยูรยังมีชีวิตอยู่ เจ้าพ่อก็คงจะหายใจไม่ทั่วท้องตลอดไป
อย่างไรก็ตาม ทั้งที่มีพยานเป็นร้อย เห็นนาทีสังหารกำนันยูร แต่ตำรวจปิดคดีนี้ไม่ลง ไม่สามารถจับตัวมือปืนผู้ก่อเหตุได้จนบัดนี้ แต่ตำรวจส้มหล่น ดันไปจับมือปืนอีกชุดได้แทน รับสารภาพสิ้นว่ารับใบสั่งฆ่ากำนันยูรมาจากกำนันเป๊าะ หลายครั้งหลายหน แต่ลงมือไม่สำเร็จแม้แต่หนเดียว
รูปการณ์เป็นการระดมทีมมือปืน ใครก็ได้ เด็ดหัวกำนันยูรให้ที จนมีทีมที่ทำสำเร็จในที่สุด แต่ทีมถูกจับไม่ได้ทำ
แต่ถึงไม่ได้ทำ คำสารภาพของมือปืนทีมนี้ก็หนักแน่นพอ จนศาลฎีกาพิพากษาจำคุกกำนันเป๊าะ นายสมชาย คุณปลื้ม ในฐานพยายามฆ่า เป็นเวลา 25 ปี
คดีนี้นำมาสู่การสิ้นยุคเรืองอำนาจของกำนันเป๊าะ เพราะเขาต้องทิ้งถิ่นแสนสุข หนีคดีไปต่างประเทศนานหลายปี ก่อนจะดอดกลับไทยจนถูกจับได้ตอนแก่ชรา โรครุมเร้า
กงล้อประวัติศาสตร์นี้จะเกิดขึ้นซ้ำรอยกับโกทร เจ้าพ่อปราจีนฯ หรือไม่ ก็คงต้องติดตามกันยาวๆ ต่อไป
--------------------------------
**หมายเหตุ
แอป Sondhi App ดาวน์โหลดได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
**ขอแนะนำ ThaiTimes โซเชียลมีเดียของคนไทย
ไม่ปิดกั้นเนื้อหา - แชร์รูปภาพและวิดีโอ - ติดตามข่าวสารล่าสุดได้อย่างอิสระ
มีให้ Download ได้แล้วทั้งในระบบ iOS และใน Android
iOS :https://apps.apple.com/th/app/thaitimes-social/id6502225132
Android :https://play.google.com/store/apps/details...
และhttps://thaitimes.co