xs
xsm
sm
md
lg

บิ๊ก NVIDIA มาไทย เจอนายกฯ ทับซ้อน ขอบาย ทุ่มลงทุนที่เวียดนามดีกว่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เจนเซน หวง” ซีอีโอ NVIDIA ผู้ผลิตชิปสำหรับ AI รายใหญ่ของโลก แวะเยือนไทยในฐานะที่เคยใช้ชีวิตที่นี่ตอนเป็นเด็ก แต่พอได้เจอ “อุ๊งอิ๊งค์” นายกฯ ออกแขก ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย และได้คุยกับ “ทักษิณ” นายกฯ สั่งการตัวจริง ที่เอาแต่ประโยชน์ใส่ตัว วันรุ่งขึ้นก็บินไปเวียดนาม เซ็นสัญญาตั้งศูนย์วิจัยมูลค่า 7 พันล้านบาททันที พร้อมผุดความร่วมมืออีกหลายโครงการ



ในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” หรือ “สนธิทอล์ก”เมื่อวันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม 2567 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการได้กล่าวถึงการมาเยือนไทยของนายเจนเซน หวง(Jensen Huang) CEO และ ผู้ก่อตั้งบริษัท เอ็นวีเดีย (NVIDIA) ช่วงวันที่ 3-4 ธันวาคม ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เอ็นวีเดีย เป็นบริษัทผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่ที่มีมูลค่าบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แตะ 3.34 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (122.54 ล้านล้านบาท)

ส่วนเจนเซน หวง เป็นนักธุรกิจชาวอเมริกันเชื้อสายไต้หวัน อายุ 61 ปี เกิดที่เมืองไถหนาน ไต้หวันเคยมาอยู่เมืองไทยตอนเด็กประมาณ 4-5 ปี เรียนที่โรงเรียนร่วมฤดีอินเตอร์เนชั่นแนลสคูล หลังจากนั้นพ่อก็ให้ส่งไปอยู่อเมริกา และได้ร่วมก่อตั้งบริษัทเอ็นวีเดีย ในปี 1993


วันที่ 3 ธันวาคม เจนเซน หวง เดินทางมาพบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อเพื่อฟังวิสัยทัศน์ มีการเซ็น MOU กับ CP ผ่านบริษัทชื่อ "ทรู ไอดีซี" และ "สยามเอไอคลาวด์"

หลังจากนั้น วันที่ 4 ธันวาคม ได้ไปในงาน AI Vision for Thailand แล้วก็พบกับ นายทักษิณ ชินวัตร ด้วย โดยในงานนั้น นายเจนเซน หวง หยอดคำหวานบอกว่า ชอบชื่อประเทศไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีคำว่า AI อยู่ในชื่อ ที่สามารถอ่านได้ว่า “The AI Land” หรือ “ดินแดนแห่งเอไอ” ที่ล้อกับคำว่า Th-ai–land อีกด้วย


แต่รุ่งขึ้น วันที่ 5 ธันวาคม นายเจนเซน หวง ก็บินไปเวียดนาม และประกาศลงทุนในเวียดนามครั้งใหญ่ หลังได้รับฟังทัศนคติแนวคิดของผู้นำเวียดนาม ได้แก่

(1) ตั้งศูนย์ R&D ในเวียดนาม เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพและอนาคต AI ในเวียดนาม! จึงตัดสินใจเลือกเวียดนามเป็นที่ตั้งศูนย์ R&D ของ Nvidia แห่งแรกในอาเซียน

(2) ซื้อ VinBrain สตาร์ทอัพด้าน AI ของเวียดนาม (บริษัทในเครือ VinGroup)

(3) จับมือ กับ Viettel บิ๊กเทเลคอมของเวียดนาม เพื่อจัดตั้งศูนย์ Cyberspace

(4) ไปร่วมมือ กับ FPT บริษัทไอทีใหญ่สุดในเวียดนาม เพื่อพัฒนาระบบ Smart Cloud


ทำไม NVIDIA เลือกลงทุนที่เวียดนาม ?

จากเว็บไซต์ของ NVIDIA ได้มีการเปิดเหตุผลทำไม NVIDIA ถึงเลือกเปิดศูนย์วิจัยและพัฒนา AI และจัดตั้ง Data Center ที่เวียดนาม ได้เเก่ :

1.รัฐบาลหนุน Ecosystems อย่างเต็มที่
นายกรัฐมนตรีฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ (Pham Minh Chinh) ของเวียดนาม ได้กล่าวว่า รัฐบาลเวียดนามให้ความสำคัญกับนวัตกรรมในฐานะองค์ประกอบสำคัญประการหนึ่งของกลยุทธ์การพัฒนา

2.ประชากรมีความรู้ มีความสนใจเรื่องเทคโนโลยี โดยเฉพาะ AI
เว็บไซต์ของ NVIDIA เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งใหม่ของเวียดนามที่เน้นด้าน AI โดย NVIDIA จะใช้ศูนย์ R&D เน้นไปที่การพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยใช้ประโยชน์จากกลุ่มวิศวกร STEM ที่มีความสามารถที่แข็งแกร่งของประเทศ

3.ศูนย์ R&D พร้อมต่อยอดเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จะพัฒนาแพลตฟอร์มที่มีคุณค่า
ที่ผ่านมา NVIDIA ได้ลงทุนในเวียดนามเป็นเวลากว่า 8 ปี ร่วมมือกับสตาร์ตอัปกว่า 100 ราย และมหาวิทยาลัยกว่า 65 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมา NVIDIA ยังจับมือกับ FPT Smart Cloud ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านคลาวด์รายแรกของเวียดนามอีกด้วย

“เจนเซน หวง ตอนนี้กําลังจะขยายเอ็นวิเดียออกมาทางเอเชียแปซิฟิก ก็อย่างที่บอกนะครับ ก็เลยมาเยี่ยมประเทศไทย เขามาเยือนประเทศไทยในหลักการที่ว่า หนึ่ง เขาบอกเขาเคยอยู่เมืองไทยมา 3-4 ปี ก็อยากจะมารําลึกความหลังเก่าๆ

“น่นอนที่สุด ประเทศไทยก็ตื่นเต้นกันเป็นใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นนายกฯ ทับซ้อน 2 ท่าน ท่านหนึ่งก็คือคุณทักษิณ ชินวัตร อีกท่านนึงก็คืออุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร เจนเซน หวง ก็มาเจอทั้งสองคน ได้มีรูปนั่งคุยกัน


“เจนเซน หวง เป็นนักลงทุนที่ฉลาด อายุ 61 ปี เขาเจอแพทองธารเพื่อจะฟังวิสัยทัศน์ของนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ว่าจะมีโอกาสยังไงบ้าง ถ้าเขาจะต้องมาลงทุนในประเทศไทย

“คือการมาลงทุนในประเทศหนึ่งเนี่ย เขาจะดู รับฟังวิสัยทัศน์ของผู้นําประเทศนั้นว่ามองเรื่องเทคโนโลยียังไง มองนวัตกรรมยังไง ก็ปรากฏว่าเขาก็ไม่ได้ผิดหวัง เพราะนายกอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ที่มีคณะที่ปรึกษาเป็นผู้ใหญ่ที่เก๋าแล้วก็เก่ง ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์ศักดิ์ วิญญรัตน์ รวมทั้งธงทอง จันทรางศุ หมอเลี้ยบ ศุภวุฒิ สายเสื้อ เก่งๆ ทั้งนั้น

“แต่นายกฯ แพทองธารของประเทศไทยนั้น
วิสัยทัศน์มีแค่ไอแพด ถ้าจะพูดถึงชิปแล้วจะพูดถึงชิปไอแพด ยังไม่รู้เลยว่าเอ็นวีเดียจะทําอะไรบ้าง มีอะไรบ้าง แน่นอนที่สุดครับ เขาเป็นนักธุรกิจ เขาก็สงวนปฏิกิริยาเขาว่าเขารู้สึกยังไง


หลังจากนั้นวันที่ 4 ธันวาคม เขาไปงานAI Vision for Thailand แล้วก็พบกับทักษิณ ชินวัตรด้วย การพบทักษิณ ชินวัตร ก็เป็นการพูดคุยกันเรื่องที่เจนเซน หวงอยากจะมาลงทุนในเอเชีย

“แต่แหล่งข่าวยืนยันว่า เจนเซน หวง กําลังอึดอัดใจ
เพราะว่าคุณทักษิณ ชินวัตร มองเจนเซน หวง ในฐานะที่เป็นพาร์ทเนอร์ ถ้าเป็นได้ แล้วกลุ่มทักษิณ ชินวัตร ตระกูลชินวัตรจะได้อะไร

“เจนเซน หวง ค่อนข้างจะดูถูกคนที่เห็นแก่เรื่องส่วนตัวมากกว่าเรื่องส่วนรวม วันที่ 5 วันรุ่งขึ้นหลังจากเขาเจอทักษิณ ชินวัตร แล้วก็กลุ่มซีพีที่กําลังจะร่วมลงทุนกับเขา เขาก็เดินทางไปเวียดนาม

“เขามาสัมผัสประเทศไทยมาฟังวิสัยทัศน์ของนายกรัฐมนตรี แล้วก็มาฟังนายกรัฐมนตรีอีกคนหนึ่งที่ทับซ้อนอยู่ คือทักษิณ ชินวัตร เขามีความรู้สึกว่าเขาไม่มีความหวังกับประเทศไทยหรอก

ประเทศไทยมันอยู่ในลูปเดิม วงจรเดิม นายกรัฐมนตรีคนหนึ่งก็เป็นห่วงว่าแล้วตัวเองจะได้อะไรจากการเอ็นวิเดียเข้ามาลงทุน ถ้าไทยลงทุนด้วย นายกฯ อีกคนหนึ่งก็บอกว่าไม่รู้ว่าเอ็นวิเดียคืออะไร รู้อย่างเดียวว่าชิปที่เขารู้จักนั่นคือชิปที่อยู่ในไอแพดแค่นั้นเอง

“พอเขาไปเวียดนาม พบผู้นําเวียดนามเขามีความรู้สึกแตกต่างกว่าไทย กับเวียดนามเขามีความรู้สึกว่า ประเทศเวียดนามเขาทําทุกอย่างเพื่อชาติและประชาชนชาวเวียดนาม ไม่ใช่ผลประโยชน์ของกลุ่มนายทุนอย่างทักษิณ


“เขาได้ตัดสินใจ ท่านผู้ชมครับฟังให้ดีๆ ไปลงทุนตั้งศูนย์อาร์แอนด์ดี รีเสิร์ชแอนด์ดีเวลลอปเม้นท์ วิจัยและพัฒนาในเวียดนาม เขาเชื่อมั่นในศักยภาพและอนาคตเอไอในเวียดนาม

“เขาตัดสินใจเลือกเวียดนามเป็นศูนย์เลยนะ อาร์แอนด์ดี ของเอ็นวิเดียแห่งแรกในอาเซียน คือในประเทศอาเซียนเนี่ย เขามาลงทุนที่เวียดนาม แล้วพัฒนาทั้งคนคิดสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ โดยใช้นักศึกษาชาวเวียดนาม วิศวกรชาวเวียดนาม ตลอดจนของเขาเองมาช่วยประคบประกบเพื่อที่จะให้มันเป็นไปตามเป้าหมายของเขา

“เขามาเจอนายกฯ เรา แล้วเขามาเจอนายกฯ อีกคนหนึ่ง เขาไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อประเทศไทยเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะว่านักธุรกิจระดับนี้ เขามองว่าถ้าเขาจะลงทุนแล้วเอาเทคโนโลยีของเขามาเนี่ย ที่ไหนคุ้มที่สุด

“เขาไปเจอที่เวียดนาม โอ้โห ซื้อกิจการธุรกิจในเวียดนาม 3-4 แห่งที่เกี่ยวพันกับธุรกิจเขาทันทีเลย ไม่ได้คิดเลยแม้แต่นิดเดียว แต่เมืองไทยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ทุกคนก็พูดเข้าหูซ้ายออกหูขวา เพราะว่าเขาไม่ใช่คนโง่ เขารู้อยู่แล้วว่าประเทศไทย ด้วยคนที่บริหารทุกวันนี้ไม่มีทางสู้เวียดนามได้



“เสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาจับมือตกลงเรียบร้อยแล้วจะลงทุนซื้อโน่นซื้อนี่ ท่านผู้ชมรู้มั้ยเข้าไปนั่งกินเฝอกับนายกรัฐมนตรีเวียดนาม ร้านริมถนน เจรจากันสนุกสนาน กินเฝออย่างเอร็ดอร่อย มันต่างกว่าที่เขามาที่ประเทศไทยโดยสิ้นเชิง

“ท่านผู้ชมครับ เขามาเมืองไทยเพื่อลงทุนในไทย เพื่อตอบแทนบุญคุณที่เคยอยู่เมืองไทย แต่ไปๆ มาๆ แล้วเมืองไทยชวดเงินลงทุนเบื้องแรกจํานวน 7,000 ล้านบาท จากยอดเงิน 80,000 ล้านบาท

“หลักๆ เหมือนผมพูด เขาคุยกับลูกสาว ซึ่งเป็นนายกฯ ไทยคนหนึ่ง พบว่าไม่มีความรู้ด้านธุรกิจเลย ไม่รู้ว่าจะเข้าถึงขั้นโง่หรือเปล่า แต่ว่าเอาเป็นว่าไม่รู้เรื่องเลย ยังไม่รู้ว่าชิปเอาไปทําอะไร นอกจากไอแพด

“คุยกับพ่อ ซึ่งเป็นนายกฯ อีกคนหนึ่ง เจอแต่เรียกร้องผลประโยชน์ของตัวเอง แทนที่เป็นผลประโยชน์ของประเทศ รุ่งขึ้นก็เลยบินไปเวียดนามเลย ตัดสินใจลงทุน 7,000 ล้านบาท คุยกับนายกฯ เวียดนามแค่ 7 นาที

“ใหญ่ๆ ก็เป็นอย่างที่ผมบอกนะครับ ที่แนๆ ที่มาไทย มาขายของ ยังไม่ได้มาลงทุนเป็นรูปธรรม มาหยอดคําหวาน แล้วก็มาขายชิป



“ผมไม่ทราบว่ากุนซือ ขุนพลที่มีประสบการณ์ด้านต่างๆ ทั้งนักวิชาการ นักกฎหมาย มีข้าราชการไม่ว่าจะเป็น พันธุ์ศักดิ์ วิญญรัตน์ ประธานที่ปรึกษา สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานที่ปรึกษา นายศุภวุฒิ สายเชื้อ นายธงทอง จันทรางศุ พงศ์เทพ เทพกาญจนา ธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาสนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โอ้โห แต่ละคนระดับขุนพลแนวหน้าของทักษิณ เกิดอะไรขึ้น

“อย่าไปคิดอะไรมากนะครับ เพราะประเทศไทยมันมีนายกฯ 2 คน คนหนึ่งคือนายกฯ ออกแขก ชื่อแพทองธาร ชินวัตร อีกคนคือนายกฯ สั่งการอยู่ข้างหลัง ชื่อทักษิณ ชินวัตร

“ตามพิธีการเขาก็ต้องไปเจอนายกฯ ที่เป็นทางการ แต่เขาฟังแล้ว ผมคิดว่าถ้าเขาอาเจียนได้ก็คงอาเจียนไปแล้ว แต่เขายังมีมารยาทพอ แล้วไปเจอนายกฯ ตัวจริงที่สั่งการ คุยไปคุยมา อะไรๆ ก็ต้องโยงกลับเข้ามาตระกูลชินวัตร เจนเซน หวง บอกกูไปดีกว่า” นายสนธิกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น