“สนธิ” เผยมีขั้นตอน ไม่รีบร้อน หลังนายกฯ ไม่ยอมเปิดเวทีสาธารณะถกปม MOU 44 ตามที่เรียกร้อง ครบ 15 วันจะไปทวงถาม ยันหากดันทุรังเดินหน้าจนทำให้ไทยเสียดินแดนลงถนนแน่โดยไม่ต้องระดมคน ซัดรัฐบาลโกหก อ้างเขมรไม่สนใจเกาะกูดเพราะเป็นของไทยอยู่แล้ว แต่ล่าสุด “ฮุน มาเนต” นายกฯ กัมพูชา และ “ฮุน เซน” ยืนยันว่ายังไม่ได้เป็นของไทย อยู่ระหว่างเจรจาและจะไม่ยอมเสียให้ไทย
ในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” หรือ “สนธิทอล์ก” เมื่อวันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม 2567 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการได้กล่าวถึงความคืบหน้าหลังจากยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม เพื่อเรียกร้องให้ยกเลิก MOU 2544 และ JC 2544 ระหว่างไทย-กัมพูชา ที่ทำขึ้นในสมัยนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี โดยให้เวลา 15 วันจะไปทวงคำตอบ คือวันที่ 24 ธันวาคม 2567
ทั้งนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เห็นหนังสือดังกล่าวแล้ว แต่จะไม่เปิดเวทีสาธารณะตามข้อเรียกร้องเพื่อรับฟังความเห็นฝ่ายต่างๆ ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย คนที่ให้คำปรึกษา น.ส.แพทองธาร ก็บอกว่าให้ทุกฝ่ายใจเย็นๆ ประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ ส่วนการเปิดเวทีสาธารณะไม่จำเป็น เพราะว่าไม่ได้ไปเน้นที่ใครคนเดียว มีหลายคนที่ต่อต้าน
"ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณภูมิธรรมเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า การที่ผมเสนอให้เปิดเวทีสาธารณะนั้นไม่ได้เปิดเพื่อผม เปิดเพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้รับทราบความจริง เพราะพวกคุณหมกเม็ดไว้หลายเรื่อง จนวันนี้คุณภูมิธรรม แล้วก็กระทรวงการต่างประเทศ ท่านอธิบดีกรมสนธิสัญญา ก็ยังไม่ยอมพูดถึงพระบรมราชโองการในปี 2516 ไม่เคยพูดถึงเลย หรือไม่กล้าพูด"
“ผมอยากจะเตือนไว้อย่างนี้นะครับ ผมอยากจะเตือนไว้ว่าผมได้เตือนแล้วนะ ผมไม่ใจร้อน ทุกอย่างในวันนี้เป็นไปตามขั้นตอน ถ้าเมื่อใดก็ตามคุณยังเดินหน้าต่อด้วย MOU 2544 โดยไม่แก้ไขหรือยกเลิก คุณรับผิดชอบไปก็แล้วกัน แต่ผมมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าถ้าคุณยังรักษา MOU 2544 โดยไม่คำนึงถึงพระบรมราชโองการ 2516 ประเทศไทยจะสูญเสียดินแดนให้กับเขมร ถ้าเรื่องนี้ขึ้นไปสู่ศาลโลกแล้ว ไทยจะแพ้อย่างแน่นอน เหมือนกับคุณนพดล ปัทมะ เคยพูดเรื่องเขาพระวิหาร แล้วเราก็แพ้คดีที่ศาลโลก เราเสียพื้นที่เขาพระวิหารไปเรียบร้อยแล้ว เรากำลังจะเสียพื้นที่้ทางทะเล”
นายสนธิได้ย้อนคำพูดของนายภูมิธรรมเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 ที่เบี่ยงประเด็นพื้นที่พิพาทหลายหมื่นตารางกิโลเมตรอ้างว่าเกาะกูดเป็นของไทยอยู่แล้ว ไม่มีประเด็นจะต้องเจรจา
ขณะที่ นางสุพรรณวษา โชติกญาณ อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ เข้าร่วมบรรยายเพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับข้อตกลงใน MOU 2544 ยืนยันว่าเกาะกูดยังเป็นของไทยตามสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส MOU ดังกล่าวไม่ได้ทำให้ไทยเสียดินแดนแต่อย่างใด
“น่าเสียดายคุณอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ คุณได้เห็นพระบรมราชโองการปี 2516 หรือยัง ผมเชื่อว่าคุณได้เห็น แต่คุณไม่ยอมพูดถึง เพราะถ้าคุณพูดถึง มันจะเข้าตัวคุณ
“คุณสุพรรณวษา โชติกญาณ ไม่ต้องเปิดเวทีสาธารณะก็ได้ คุณพร้อมไหมที่จะบอกว่า MOU 2544 ไม่ทำให้เสียดินแดน คุณมาเจอกับคนของผม อาจารย์ปานเทพ คุณพร้อมหรือเปล่า คุณต้องรู้นะ คุณเป็นอธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ คุณเป็นข้าราชการไทย ถ้าวันหนึ่งข้างหน้า ไทยเกิดทะเลาะกัน เพราะคุณมั่นใจว่าคุณถูกต้อง แล้วในที่สุดศาลโลกตัดสินว่าเขมรถูก พวกคุณพร้อมจะรับผิดชอบไหม”
นายสนธิกล่าวอีกว่า ขณะที่นายภูมิธรรม และ น.ส.แพทองธารบอกว่าเกาะกูดเป็นของไทยอยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับการเจรจาตาม MOU 44 ขอให้คนไทยทุกคนสบายใจได้ว่าไม่ได้เสียเกาะกูด และกัมพูชาไม่ได้สนใจเกาะกูดของเราด้วย
แต่เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้ออกมาโต้ข่าวที่ว่ากัมพูชาเสียเกาะกูดให้ไทย ไม่เป็นความจริง อ้างว่ายังเจรจากันอยู่ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่น รัฐบาลจะไม่ยอมเสียดินแดน โดยนายฮุน มาเนตย้ำว่า "สิ่งนี้คือความรับผิดชอบของเรา และเราจะไม่สูญเสียดินแดนและอธิปไตย โปรดไว้ใจเราเรื่องนี้"
"คุณภูมิธรรม ไหนคุณบอกไงว่าเขมรไม่สนใจในเรื่องนี้ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ลูกชายของฮุน เซน ซึ่งฮุน เซน สนิทกับนายคุณ คือทักษิณ ชินวัตร มาก มีหลักฐานยืนยันเลยว่าจับไม้จับมือ อาจจะทำอะไรร่วมกันหลายๆ เรื่องที่ไม่เปิดเผย ออกมาบอกว่าเกาะกูดเป็นของเขา ไม่ใช่ของไทย แล้วคุณภูมิธรรม คุณอุ๊งอิ๊ง คุณเอามาจากไหน อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ เอามาจากไหนว่าเขมรไม่สนใจ ไม่ใส่ใจแล้ว เฮ้ย! นี่คุณโกหกหรือเปล่าเนี่ย
เรามีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีฯ กลาโหม เรามีนายกรัฐมนตรี และเรามีอธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ ที่โกหกพกลมอย่างนี้ คุณจะให้ประชาชนอย่างผมหรือหลายๆ คนที่คิดเหมือนผม เขาจะยอมรับศักยภาพ เขาจะยอมรับวุฒิภาวะของคุณ ยอมรับปัญญาคุณได้อย่างไร โกหกวันนี้ พรุ่งนี้ฝ่ายเขมรบอกไม่ใช่เป็นของไทย"
"ส่วนนายฮุน เซน ทะลึ่ง พูดบอกว่ารัฐบาลสองประเทศกำลังเจรจากันอย่างสันติเกี่ยวกับปัญหาเกาะกูด อ้าว ทำไมเจรจากันอย่างสันติเรื่องเกาะกูด ก็ในเมื่อคุณภูมิธรรม กับแพทองธาร และอธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ บอกว่าเกาะกูดเป็นของไทยไง แล้วทำไมฮุน เซน พูดอย่างนี้ล่ะ กำลังเจรจากันอย่างสันติเกี่ยวกับปัญหาเกาะกูด แสดงว่าเขมรไม่ยอม ใช่ไหม คุณจะโกหกทั้งที คุณโกหกให้มันแนบเนียนหน่อยได้ไหม
แล้วนายฮุน เซน ทะลึ่งบอกว่า กลุ่มฝ่ายค้านรุนแรงของกัมพูชาในต่างประเทศเรียกร้องให้ชาวกัมพูชาเข้าร่วมชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลฟ้องศาลระหว่างประเทศเพื่อเรียกร้องเกาะกูดคืน
แต่ไม่เป็นไร เมื่อครบ 15 วันแล้ว เดี๋ยวผมจะไปทวงถาม หลังจากนั้นผมจะมีขั้นตอนของผมไป แต่ถ้ากระบวนการไปถึงขั้นเสียดินแดนแล้ว คุณภูมิธรรมครับ ผมไม่จำเป็นต้องระดมใครมาเลย ผมจะลงถนนเอง คุณเชื่อผมมั้ย คนจะลงมากับผมเยอะแยะไปหมดเลย แล้วคุณยุติเอาคนที่ห่วยแตก ไม่ว่าจะเป็นพระเอกลิเก ออกมาท้าผมดีเบต ตลกมาก มีปัญญามากพอจะเข้าใจในเรื่อง MOU 2544 หรืออย่างไร"
"รัฐบาลชุดนี้ ท่านผู้ชมครับ โกหกพกลมไปวันๆ ภูมิธรรมบอกเกาะกูดเป็นของไทย เขมรก็ยอมรับ อุ๊งอิ๊งก็บอกว่าเกาะกูดเป็นของไทย แต่วันนี้ฮุน มาเนต บอกว่าไม่ใช่ เป็นของมัน เกิดอะไรขึ้น มีใครเชื่อถือคุณได้บ้างเนี่ย คุณสะกดคำว่า รักชาติ รักแผ่นดิน ไม่เป็นเลยใช่ไหม แล้วก็มากล่าวหาผมเอะอะอะไรก็ขายชาติๆ ก็ถ้าคุณทำไปแบบนี้ แล้วไทยต้องเสียดินแดน ถ้าไม่เรียกว่าขายชาติ แล้วเขาเรียกว่าอะไร คุณนึกว่าสนุกเหรอที่ผมจะต้องลงถนนในที่สุด แต่ผมยอมไม่ได้ ไม่ได้คลั่งชาติ ก็ในเมื่อมันเป็นของคนไทย พื้นที่อาณาเขตทะเลไทยรอบเกาะกูดก็เป็นของคนไทย แล้วจะมายกให้เขมรได้อย่างไร"
“คุณไปถามทหารเรือทุกนาย ทหารบกทุกนาย ทหารอากาศทุกนาย แล้วหยุดทีได้ไหมว่าผมเชื้อชวนให้ทหารปฏิวัติ ผมไม่เคย พวกคุณเคยคิดหรือเปล่าว่าที่ทหารเขาปฏิวัติ เขาปฏิวัติเพราะใคร ก็เพราะพวกคุณทำชั่วเอาไว้ ไม่ได้เกี่ยวกับผม ผมจะไปสั่งเขาปฏิวัติได้อย่างไร เพราะพอคุณมีอำนาจ คุณก็ลุแก่อำนาจ โอหังมมังการ แค่เปิดเวทีสาธารณะ แล้วเอาความเห็นที่ขัดแย้งกันสองฝ่าย เอามาชี้แจงให้ประชาชน ให้ประชาชนตัดสินกันดีไหม ที่คุณไม่กล้าเปิดเวทีสาธารณะ เพราะคุณกลัว คุณไม่กล้า คุณขี้ขลาดตาขาว เพราะคุณรู้ว่าพื้นฐานของ MOU 2544 นั้นเป็นพื้นฐานที่ผิดมาตั้งแต่ต้น” นายสนธิกล่าว