“คดีแตงโม” ส่อเป็นฆาตกรรมอำพราง คำพิพากษาศาลยกฟ้องคดี 21 ตำรวจฟ้อง “อัจฉริยะ” ฐานหมิ่นประมาท ระบุชัดการรวบรวมพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่มีพิรุธ มีเงื่อนงำ มีลักษณะเอื้อประโยชน์ให้ผู้กระทำความผิดบนเรือ
ในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” หรือ “สนธิทอล์ก” เมื่อวันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม 2567 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการได้กล่าวถึงคดีการเสียชีวิตของ “แตงโม” น.ส.ภัทรธิดา หรือ นิดา พัชรวีระพงษ์ หลังจากที่เคยพูดถึงเรื่องนี้ ในรายการสนธิเล่าเรื่อง เมื่อวันพุธที่ 11 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งมีประเด็นความไม่ชอบมาพากล ตามที่เคยฟันธงไว้แล้วหลังเกิดเหตุการณ์เมื่อ 2 ปี 9 เดือนก่อน ว่า “แตงโม” เสียชีวิตจากเหตุฆาตกรรมอำพราง ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุตกน้ำและโดนใบพัดปั่นที่ขาระหว่างนั่งปัสสาวะบริเวณท้ายเรือแต่อย่างใด
นายสนธิ กล่าวว่า คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 กระทั่งวันนี้มี พันเอก นายแพทย์ ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า นำเอกสาร หลักฐานชิ้นใหญ่ หลายอย่าง ที่ได้มาจากการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ การหาข้อมูลเชิงเทคนิคตามหลักวิทยาศาสตร์ เข้ามาให้นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ กับทีมงานคุยทุกเรื่องกับสนธิ ช่วยกันพิจารณา
อย่างไรก็ตาม นายสนธิกล่าวว่า รายการคุยทุกเรื่องกับสนธิตอนนี้ คงไม่ได้ทำภาพหลักฐาน หรือคลิปพยานต่างๆ มาฉายซ้ำกับที่นายปานเทพ เคยนำเสนอในรายการ NewsHour เมื่อคืนวันอังคารที่ 10 ธันวาคม 2567 ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่เคยมีสื่อสำนักใดเคยเปิดเผย เช่น
-ลักษณะบาดแผลที่ไม่ได้ถูกใบพัด เรื่องเจ็ทสกี 4 ลำ ที่ขี่นำเรือลำที่เกิดเหตุ ออกจากร้านอาหารบ้านตานิด สามโคก ปทุมธานี
-เรื่องที่ “แตงโม” ปัสสาวะในห้องน้ำร้านอาหารแล้วก่อนลงเรือ
-เรื่องที่น่าสงสัยเกี่ยวกับจีพีเอส ของเรือที่ไม่ตรงตามสำนวนการสืบสวน สอบสวน ของตำรวจภูธรภาค 1
-เรื่องเส้นทางการเดินเรือ การแล่นหักมุม การจอด
-รวมถึงเรื่องสัญญาณโซนาร์ของเรือลำที่เกิดเหตุ ถูกรบกวนจากฟองอากาศใต้น้ำ เพราะมีเรืออีก 1 ลำ ที่ไม่เคยมีผู้ใดเคยมีข้อมูลมาก่อน
ฯลฯ
สามารถย้อนชมได้ในรายการ NewsHour เมื่อวันอังคารที่ 10 ธันวาคมผ่านมา ซึ่งนายปานเทพได้นำเสนอรายละเอียดไปหมดแล้ว
อย่างไรก็ตาม นายสนธิ กล่าวว่า หากย้อนไปดูรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ ใน EP.127 เมื่อวันศุกร์ที่ 4 มีนาคม 2565 ก็จะทราบว่า ตนเคยเปรียบเปรยคดีการตายของ “แตงโม” ว่าคล้ายคลึงกับคดีของ “บอส” วรยุทธ อยู่วิทยา ที่ขับรถชนดาบตำรวจ วิเชียร กลั่นประเสริฐ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2555 หรือเมื่อ 12 ปีก่อน ซึ่งคดีนี้ ท้ายที่สุดมีข้าราชการระดับสูงทั้งตำรวจและอัยการถูกศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง รับฟ้องด้วยการกล่าวหาว่า ใช้อำนาจและหน้าที่ช่วยเหลือ เอื้อประโยชน์ทางคดีอาญาให้กับเครือข่าย ซึ่งผู้ที่โดนฟ้องไม่ใช่ใครที่ไหน นำโดย พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. และ นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด กับพวกรวม 8 คน
โดยสาเหตุที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง รับฟ้องคดีข้าราชการระดับสูงเหล่านี้ ก็เพราะเชื่อว่า มีการเล่นแร่แปรธาตุ นำข้อมูลหลักฐานอันเป็นเท็จ โดยเฉพาะตัวเลขความเร็วของรถสปอร์ตคันที่ก่อเหตุ เข้าสู่กระบวนการสอบสวน จนทำให้ผู้ต้องหาได้ประโยชน์จากการตัดสินของศาลสถิตย์ยุติธรรม
ย้อนกลับมาที่คดี “แตงโม” ตอนจบทิศทางก็น่าจะเหมือนกับคดีของ “บอส อยู่วิทยา” ในเรื่องที่มีข้าราชการระดับสูงผู้รับผิดชอบคดี ทำสำนวนช่วยเหลือกลุ่มผู้ต้องหาบนเรือให้พ้นความผิด
“เราย้อนกลับไปที่คดีน้องแตงโม ผมได้กลิ่นความไม่ชอบมาพากลคล้ายๆ กัน คือ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ในเวลานั้น ออกแอกชันลงมาควบคุมการสอบสวนด้วยตัวเอง แม้แตงโมจะเป็นดาราดัง เป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ แต่ผมได้กลิ่นตุๆ อย่างผิดวิสัย ว่าทำไมระดับ ผบ.ตร. ถึงลงมาทำคดีนี้ด้วยตัวเอง ตำรวจระดับล่างทำไม่ได้หรือ เพราะเป็นกรณี ถ้าคุณมั่นใจว่าเป็นเรื่องคนตกน้ำตาย”
นายสนธิ กล่าวต่อว่า มีสิ่งที่สำคัญกว้่านั้น คือมีตำรวจที่ทำคดีนี้ 21 นาย ฟ้องนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญกรรม เป็นจำเลยที่ 1 นายวัชรไกรศร เกตุจรัส จำเลยที่ 2 นายอนุรักษ์ อมรเมตตาจิต จำเลยที่ 3 ในข้อหาหมิ่นประมาท (คดีดำหมายเลขที่ อ 2549/2566 คดีแดงหมายเลขที่ อ 3431/2567) ซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาให้จำเลยทั้ง 3 คนพ้นผิด เนื่องจากเป็นการแสดงความคิดเห็นด้วยข้อความอันสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรม อยู่ในวิสัยของประชาชนที่สามารถกระทำเช่นนั้นได้ จึงพิพากษายกฟ้อง
ส่วนหนึ่งของคำพิพากษาเชียนว่า ที่ศาลเชื่อว่าโจทก์ ซึ่งหมายถึงพนักงานสืบสวนสอบสวนทั้ง 21 นาย “ปฏิบัติหน้าที่ในลักษณะเอื้อประโยชน์ให้ผู้กระทำความผิดบนเรือ” จนทำให้ถูกนายอัจฉริยะวิพากษ์วิจารณ์การทำงาน
ในสำเนาคำพิพากษา หน้า 49 ศาลระบุว่า “... การร้องเรียน เอกสารหมาย ล.35 เห็นว่า ผู้เสียหายทั้ง 21 เป็นเจ้าพนักงานตำรวจและคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน จะต้องพิทักษ์รักษาสันติราษฎร์ ปฏิบัติหน้าที่ให้ประชาชนเห็นถึงความโปร่งใส แม้ผู้เสียหายทั้ง 21 คน จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตเพียงใด แต่พยานหลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับการตายของผู้ตาย ซึ่งหมายถึง แตงโม ล้วนมีพิรุธ มีเงื่อนงำ”
นี่เป็นข้อความที่ระบุในสำเนาคำพิพากษาศาลจริงๆ ถามต่อว่า แล้วทำไมศาลจึงให้เหตุผล ในคำพิพากษายกฟ้อง นายอัจฉริยะ กับพวก แบบนี้ ?
“หลายๆ คนคงอยากรู้แล้วใช่ไหม เอาเป็นว่าคดีแตงโมนั้นมีพิรุธ มีเงื่อนงำอยู่มากมาย อยากรู้ต้องไปติดตามอาจารย์ปานเทพ อาจารย์ยิปมันของผม แห่งบ้านพระอาทิตย์ สัปดาห์หน้าน่าจะมีคำพูดใหม่ๆ เพียบ ที่คุณไม่เคยรับรู้มาก่อน อาจจะรับรู้แล้ว แต่ไม่เคยสังเกตและตั้งข้อสงสัย แต่ที่ผมพูดวันนี้ ผมพูดจากคำพิพากษาของศาลคดีหมิ่นประมาทว่าทำไมศาลถึงยกฟ้องตำรวจ 21 ที่ฟ้องอัจฉริยะ ที่ยกฟ้องก็เพราะว่า การสืบสวนสอบสวนของตำรวจนั้นมีเงื่อนงำ และมีพิรุธมากมาย” นายสนธิกล่าว