เจ้าของร้านคาเฟ่ “กาแฟชมพู่มะเหมี่ยว“ บนอุทยานแห่งชาติภูกระดึง โพสต์เล่าวินาทีเจอเพื่อนของผู้ที่ถูกช้างป่าทำร้าย ยืนยัน เจ้าหน้าที่ทำงานได้ดีตามมาตรฐานและรวดเร็ว
จากกรณี อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งให้ปิดพื้นที่เสี่ยง เปิดเฉพาะพื้นที่ปลอดภัย100% หลังช้างป่าทำร้ายนักท่องเที่ยวภูกระดึงเสียชีวิต พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและช่วยเหลือครอบครัวเต็มที่
ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. เพจ “ร้านกาแฟชมพู่มะเหมี่ยว” ออกมาโพสต์ข้อความเล่าถึงเหตุการณ์ดังกล่าวที่ตนเองได้เจอมา พร้อมพูดในมุมของเจ้าหน้าที่ ที่ถูกชาวเน็ตตำหนิว่าทำงานล่าช้าทำให้มีนักท่องเที่ยวเสียชีวิต โดยผู้โพสต์ได้ระบุข้อความว่า
“11/12/2024:19.00 น.สำหรับเรื่องเหตุการณ์ช้างป่าที่ภูกระดึงนะครับ
..คือตั้งแต่เมื่อวานก็คุยกับกิต น้องที่มาช่วยขายของที่ภูกระดึง ว่าวันนี้เราจะไปถ่ายรูปอัพเดทใบเมเปิ้ลที่โซนน้ำตกกัน เพราะเอากล้องใหญ่มาถ่ายก็เลยไม่รีบเดินกันเท่าไหร่กะให้ถึงสายๆ ให้แสงลงก่อน ก็เลยตกลงกันว่าจะไปเริ่มต้นกันที่น้ำตกเพ็ญพบใหม่ พอเดินมาถึงองค์พระก็สวนกับนักท่องเที่ยวกลุ่มนึงก็ทักว่า พี่ที่อยู่ร้านกาแฟนี่นา แล้วเราก็เดินผ่านองค์พระพุทธเมตตา เพื่อไปน้ำตกเพ็ญพบใหม่ (เส้นทางที่เกิดเหตุ) ช่วงที่เดินผ่านเส้นนี้ก็น่าจะประมาณสัก 08.30 น. พอเดินไปถึงต้นเมเปิ้ลที่บนน้ำตกเพ็ญพบใหม่ ก็มีนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่กำลังถ่ายต้นนี้อยู่ เราก็ถ่ายกับเค้าด้วย สักพักเราก็ลงมาถ่ายต้นใต้น้ำตก เราใช้เวลากันนานพอสมควรกับการถ่ายเมเปิ้ลในบริเวณ เพราะแสงลงพอดี
พอถ่ายไปสักพักดูนาฬิกาจากโทรศัพท์เป็นเวลา 09.19 น.ตอนแรกว่าจะกลับออกมาเลย แต่แสงก็กำลังสวย เลยบอกกิตว่า อีกสิบนาที่เราค่อยออกดีกว่า สัก 09.30 น. พอถึงเวลาเราก็เดินขึ้นมาจากน้ำตกเดินกลับทางเดิน พอเดินใกล้ถึงทางราบ กิตก็ขอถอดเสื้อตัวนอกก่อนเพราะเริ่มร้อนแล้ว เราก็เลยเดินช้าลงรอกิต ระหว่างเดินขึ้นมาก็สวนกับนักท่องเที่ยวหลายกลุ่มที่มาดูเมเปิ้ลแดง พอเดินมาถึงทางแยกที่ลงมาจากน้ำตกวังกวาง ก็เห็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ยื่นอยู่ตรงป้าย เราก็คิดว่าเค้าคงลังเลว่าจะไปดูใบเมเปิ้ลที่ไหนดีระหว่างน้ำตกถ้าใหญ่กับเพ็ญพบใหม่ ก็เลยบอกกลุ่มนี้ไปว่าเมเปิ้ลที่น้ำตกเพ็ญพบใหม่กำลังแดงไปทางนี้ครับ
มีป้าตะโกนสวนมาว่า ไม่ใช่ ช้าง ช้างมันกระทืบคนที่มากับป้าจนสลบเค้าเพิ่งโทรมาหาป้าเมื่อกี้ให้ป้าโทรแจ้ง จนท.ให้ด้วยเสียงเค้าตกใจมาก แต่โทรศัพท์ป้า แบตจะหมดป้าเลยให้กลุ่มนี้เค้าโทรให้ ก็เลยถามป้าไปว่าช้างมาตรงไหน ป้าบอกเค้าบอกว่าตรงองค์พระเลยลวดมาหน่อย ระหว่างองค์พระไปเพ็ญพบใหม่ ก็ถามป้าว่าใช่แน่นะเพราะผมเพิ่งเดินมาเส้นนี้ตอนสองโมงครึ่งไม่มีรอยเท้าช้างรอยขี้ช้างเลย ที่มีพระมีสองที่ลานวัดพระแก้ว ทางไปผานกแอ่น กับองค์พระพุทธเมตตา ที่อยู่ทางนี้ ป้ายืนยันว่า
เค้าบอกว่าองค์พระทางไปเพ็บพบใหม่ ก็เลยบอกป้าว่างั้นก็เส้นนี้ ป้าเลยถามว่า ถ้ามีสองที่จนท.เค้ามาถูกรึเปล่า ก็บอกว่ามาถูกถ้าเป็นองค์พระทางไปเพ็ญพบใหม่ก็ทางนี้แหละครับ แล้วป้าก็ถามว่าจะไปไหนกันก็บอกป้าว่าผมจะกลับไปขายกาแฟ ป้าเลยบอกว่า ป้าขอไปด้วยป้าเป็นห่วงเพื่อน เราก็เลยเดินมากันสามคนกิตของประคองป้ามาตลอด เราก็ค่อยๆเดินช้าๆ แล้วก็มองสองข้างทางตลอด ระหว่างเดินป้าก็เล่าว่าป้ามาคนเดียวแล้วก็เจอกับออเค้า ระหว่างเดินขึ้นก็คุยกันพอรู้ว่าเป็นคนแปดริ้วด้วยกันก็เลยคุยกันสนิทมาก นัดกันมาน้ำตกเพ็ญพบใหม่ป้ามาทางน้ำตกวังกวาง
ส่วนสองคนนี้มาทางองค์พระพุทธเมตา พอเดินมาสักพักก็ได้ยินเสียงรถไถสวนมา เราก็คิดว่าใช่แล้วล่ะต้องมีช้างแน่ เพราะตามแผนเผชิญเหตุของ จนท.ถ้ามีช้างมาจะส่งรถไถมาผลักดัน แล้วก็จะมีรถโฟล์วีลมารับนักท่องเที่ยวกลับ ถ้าจุดที่มีช้างอยู่ไกลจากศูนย์ฯ วังกวาง ก็จะส่งมอเตอร์ไซด์มาดูแลนักท่องเที่ยวก่อน แล้วรถไถ กับ รถโฟลวีลก็ตามมาแล้วแต่สถานการณ์ตามหน้างาน พอรถไถใกล้ถึงเราก็บอกป้าว่าเด๋วป้าาถาม จนท.เลยครับว่าเพื่อนป้าอาการเป็นยังงัย พอรถไถชลอ จนท.ก็แจ้งว่าหนักอยู่ครับ แล้ว จนท.ก็ขอตัวไปทำหน้าที่ก่อน
เราก็เดินต่อไปอีกสักพักก็เห็นรถโฟลวีลจอดอยู่ และก็มี จนท.ยืนอยู่หลายนาย นำโดย หน.ศูนย์วังกวาง พอเดินถึงเห็นสีหน้าของ จนท.ไม่สู้จะดีนักก็เป็นอันว่ารู้ พอมองไปทางขวาก็เห็นผู้ประสพเหตุนอนอยู่แต่ป้าแกไม่เห็น ก็เลยเดินเอาตัวเองมาบังไว้ แล้วก็บอกป้าว่า จนท.ที่นี่เค้าผ่านการฝุกอบรมการดูแลปฐมพยาบาลช่วยชีวิตเบื้องต้นมาแล้ว ให้ จนท.เค้าทำงานกันนะป้า แล้วเราค่อยสอบถามอาการจาก จนท.ทีหลัง จนท.ก็พูดเสริมว่า เด๋วพวกผมดูแลให้ ป้าเดินไปก่อนเลยครับ กิตก็เดินประคองป้ามาจนถึงองค์พระพุทธเมตตา ป้าก็บอกว่าป้าขอไหว้พระก่อนไม่อยากให้เค้าเป็นอะไรมาก แล้วกิตก็แนะนำว่า ป้ากลับไปผักผ่อนในที่พักดีกว่า แล้วก็แนะนำเส้นทางเดินกลับให้ป้า แล้วเราก็เดินกลับมาขายของ
ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องมาเขียนอะไรยืดยาวขนาดนี้ แต่พอเห็นเป็นข่าวแล้ว ชาวโซเชี่ยลก็เอามาโพสก็ให้ความเห็นไปต่างๆนาๆ มีทั้งตำหนิการทำงานของ จนท.ว่า รู้ว่ามีช้างออกหากินแล้วยังปล่อยให้เดินเที่ยวได้ยังงัย ทั้งตั้งข้อสังเกตุว่า ผู้ประสบเหตุเดินนอกเส้นทางที่กำหนดไว้รึเปล่า ทั้งๆที่เหตุที่เกิดนี้สุดวิสัยจริงๆ .. ในทุกๆเช้าก่อนที่นักท่องเที่ยวจะออกเดินเที่ยว ทางอุทยานฯ จะจัดชุด
จนท.ออกลาดตระเวนดูก่อน ถ้าพบเส้นทางไหนมีรอยเท้าช้างใหม่ๆ หรือ ขี้ช้างใหม่ ก็จะประกาศปิดเส้นทางทันที เหตุการณ์นี้ หลังจากได้รับแจ้งแล้ว จนท.ก็มาถึงจุดเกิดเหตุพร้อมให้ให้การช่วยเหลือไวมาก แต่ก็ช่วยไม่ทันอย่างที่ทราบกัน
ระหว่างขายของช่วงเย็นๆ กิตก็อ่านข่าวพอเห็นชื่อก็รู้สึกคุ้นๆ เลยมาดูคนจองบราวนี้วันนี้ ปรากฏว่าเค้าจองบราวนี่ไว้ด้วย ก็เลยจุดธูปบอกเค้าว่า ผมทำบราวนี่ให้แล้วนะครับ“