xs
xsm
sm
md
lg

แพทย์อังกฤษแนะใช้ข้อมูลวิทยาศาสตร์วางแนวคุมบุหรี่ไฟฟ้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



(ลอนดอน, 9 ธันวาคม 2567) - ศาสตราจารย์ด้านพิษวิทยาเผยบุหรี่ไฟฟ้าเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการช่วยลดหรือเลิกการสูบบุหรี่ จึงต้องเน้นที่การป้องกันการเข้าถึงของเด็กและผู้ที่ไม่สูบบุหรี่มากกว่าย้ำเรื่องความเป็นพิษ ชี้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ช่วยสนับสนุนการพิจารณาด้านนโยบายได้

ศาสตราจารย์ อลัน บูบิส ศาสตราจารย์กิตติคุณด้านพิษวิทยาและประธานคณะกรรมการด้านพิษวิทยาของสหราชอาณาจักร มหาวิทยาลัยอิมพีเรียล ลอนดอน ได้กล่าวในงานประชุมประจำปี E-Cigarette Summit ว่า “แม้การสูบบุหรี่จะไม่ได้เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญอันดับต้นๆ ของสหราชอาณาจักรอย่างที่เคยเป็นมาในอดีต แต่ก็คิดเป็น 15% ของการเสียชีวิตทั้งหมด และสร้างภาระทางการเงินมหาศาลถึง 1,350 ล้านปอนด์ต่อปี จึงจำเป็นที่จะต้องสนับสนุนการเลิกสูบบุหรี่อย่างถาวร แต่สำหรับผู้สูบบุหรี่ที่เลิกด้วยวิธีอื่นไม่ได้ โดยเฉพาะกรณีการบำบัดด้วยนิโคติน (NRT) ล้มเหลว บุหรี่ไฟฟ้าอาจเป็นตัวช่วยลดอันตรายหรือช่วยเลิกบุหรี่ได้”

การบรรยายดังกล่าวมีขึ้นในการประชุมประจำปีบุหรี่ไฟฟ้าโลก หรือ E-Cigarette Summit ครั้งที่ 12 ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยมีวัตถุประสงค์ในการนำเสนอข้อมูลอย่างรอบด้านเพื่อช่วยสนับสนุนการตัดสินใจด้านนโยบายและกฎระเบียบเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศต่างๆ ซึ่งยังคงเป็นประเด็นที่มีความเห็นต่างและถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง

ศ.บูบิสกล่าวถึงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของบุหรี่ไฟฟ้าต่อสุขภาพว่า “งานวิจัยจำนวนมากชี้ว่าสารแต่งกลิ่นในบุหรี่ไฟฟ้าส่วนใหญ่ไม่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพอย่างมีนัยสำคัญ และสารดังกล่าวมักพบได้ในอาหารทั่วไป ดังนั้น สิ่งที่ควรให้ความสำคัญคือจะทำอย่างไรไม่ให้บุหรี่ไฟฟ้าโดยเฉพาะแบบที่มีการแต่งกลิ่นสร้างความดึงดูดแก่ผู้ไม่สูบบุหรี่ไฟฟ้าและกลุ่มเด็กและเยาวชน มากกว่าที่จะมาพูดถึงการเป็นพิษของบุหรี่ไฟฟ้า เพราะหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ชี้ไปว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีความเป็นพิษน้อยกว่าการเผาไหม้ของบุหรี่”

ศ.บูบิสยังได้ย้ำถึงการผลักดันนโยบายด้วยข้อมูลและความสำคัญของการสื่อสารข้อมูลด้านสาธารณสุขที่ถูกต้องเพื่อหลีกเลี่ยงความตื่นตระหนกที่อาจส่งผลต่อการกำหนดนโยบาย โดยยกตัวอย่างวิกฤตด้านสุขภาพในอดีตกรณีการระบาดของโรคปอดอักเสบ EVALI ที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา “บุหรี่ไฟฟ้ามีใช้กันมานานแล้วในสหรัฐฯ แต่สิ่งที่ต้องวิเคราะห์คือทำไมจึงเกิดการระบาดในช่วงปี 2018 เท่านั้น และไม่พบการระบาดดังกล่าวในสหภาพยุโรปเลย ซึ่งกรมควบคุมโรคสหรัฐฯ ได้พิสูจน์แล้วว่า EVALI เกิดจากการใช้อุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้ากับการสูบกัญชา แต่ไม่พบปัญหาจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้ากับน้ำยานิโคตินตามปกติ

“เราไม่ควรมองบุหรี่ไฟฟ้าเพียงแค่ในแง่ของความเป็นพิษ แต่ต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ เช่น การป้องกันผู้ไม่สูบบุหรี่และเยาวชนจากการดึงดูดของบุหรี่ไฟฟ้าที่มีรสชาติหลากหลาย การสร้างนโยบายที่ผิดพลาดจากความเข้าใจผิด อาจนำไปสู่ผลลัพธ์เชิงลบได้” ศ.บูบิสย้ำ


กำลังโหลดความคิดเห็น