ศ.นพ.ชวลิต แพทย์รังสีรักษาและมะเร็งวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เตือนหากมีอาการคันหัวนมผิวหนังแห้ง ลอก หรือแดง มีเลือด น้ำเหลือง เสี่ยงมะเร็ง แนะควรรีบปรึกษาแพทย์เพิ่มโอกาสหายขาดและลดความเสี่ยงของการกลับเป็นซ้ำได้
วันนี้ (9 ธ.ค.) เพจ“ศ.นพ.ชวลิต ศูนย์มะเร็ง รพ.จุฬาลาลงกรณ์“ หรือ ศ.นพ.ชวลิต เลิศบุษยานุกูล แพทย์รังสีรักษาและมะเร็งวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้ออกมาให้ความรู้เรื่องมะเร็ง โดยระบุข้อความว่า ”คันหัวนม ระวังมะเร็ง วันนี้หมอจะเล่าให้ฟังเรื่อง Paget disease ซึ่งโรค Paget ที่หัวนมเป็นอาการที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งเต้านมชนิดหนึ่ง โดยมีลักษณะเฉพาะคือการมีเซลล์มะเร็งอยู่ในชั้นผิวหนังบริเวณหัวนมและปานนม (Nipple-Areolar Complex; NAC)
ซึ่งอาจแสดงอาการดังนี้:
-ผิวหนังแห้ง ลอก หรือแดง
-มีเลือด น้ำเหลือง หรืออาการคันบริเวณหัวนม
ในบางกรณี โรคนี้อาจเกิดร่วมกับมะเร็งในท่อน้ำนมหรือมะเร็งชนิดลุกลาม ซึ่งพบได้ในผู้ป่วยถึง 80-90%
การวินิจฉัย หากสงสัยว่าเป็นโรค Paget ควรตรวจร่างกายอย่างละเอียดและใช้เครื่องมือวินิจฉัย เช่น การถ่ายภาพรังสีเต้านมหรือ MRI
การตัดชิ้นเนื้อจากหัวนมและปานนมเป็นขั้นตอนสำคัญเพื่อตรวจยืนยันว่าเป็นโรคนี้
การรักษาโรค Paget
1. การผ่าตัด หากไม่มีมะเร็งที่ลุกลามหรือพบก้อนในเต้านม การผ่าตัดรักษาอาจเน้นที่การเก็บเต้านมไว้ (breast-conserving surgery; BCS) โดยตัดเนื้อเยื่อบริเวณหัวนมและปานนมที่เกี่ยวข้อง
ในกรณีที่พบมะเร็งลุกลามหรือมีปัจจัยเสี่ยงสูง อาจจำเป็นต้องผ่าตัดเต้านมออกทั้งหมด (mastectomy)
2. การฉายรังสี
หากมีการเก็บเต้านมไว้ การฉายรังสีหลังการผ่าตัดช่วยลดความเสี่ยงของการกลับเป็นซ้ำของโรค
3. การรักษาต่อมน้ำเหลือง
หากพบมะเร็งลุกลามในเต้านม การตรวจต่อมน้ำเหลืองใต้รักแร้จะเป็นสิ่งจำเป็น
ในกรณีที่ไม่มีมะเร็งลุกลาม อาจไม่ต้องทำการรักษาต่อมน้ำเหลือง
4. การรักษาด้วยยา
การรักษาด้วยยา เช่น เคมีบำบัด ยาต้านฮอร์โมน หรือยามุ่งเป้า อาจใช้ในกรณีที่มีมะเร็งลุกลามหรือมะเร็งชนิดที่ตอบสนองต่อยาชนิดดังกล่าว
ข้อสรุป โรค Paget ที่หัวนมต้องการการวินิจฉัยและการรักษาเฉพาะทาง ผู้ป่วยที่สงสัยว่ามีอาการคล้ายโรคนี้ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจและวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม การรักษาในปัจจุบันช่วยเพิ่มโอกาสหายขาดและลดความเสี่ยงของการกลับเป็นซ้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพความรู้เรื่องโรคมะเร็งเต้านมอื่นๆให้ดูในคอมเมนค์
คลิกอ่านโพสต์ต้นฉบับ