ถามกันระงม “ดีเอสไอ” จัดเสวนาแผนประทุษกรรม “สตาร์ค” เพื่ออะไรทั้งที่คดีไม่ได้ซับซ้อน ส่วนคดี Energy EARTH ที่เกิดขึ้นก่อน เสียหายมากกว่า โยงความผิดได้แทบทุกวงการกลับไม่ถอดบทเรียน สอบสวนไม่คืบหน้า แถมตอนนี้ก็รับคดีต่างๆ เข้ามาเต็มไปหมด แต่ไม่เห็นหัวเห็นหางสักคดี
ในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” หรือ “สนธิทอล์ก” เมื่อวันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม 2567 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการ ได้กล่าวถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดย พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ และคณะทำงานศึกษาแผนประทุษกรรมกรณีบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)” ได้จัดงานเสวนาทางวิชาการเรื่อง “แผนประทุษกรรมกรณี บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK)” ขึ้นที่กระทรวงยุติธรรม เมื่อวันจันทร์ที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยอ้างว่างานนี้จัดขึ้นเพื่อกระตุ้นให้เกิดการพัฒนามาตรการป้องกันในเชิงรุกที่ครอบคลุมและทันเหตุการณ์
ทั้งนี้ คณะทำงานศึกษาแผนประทุษกรรมกรณีบริษัท สตาร์ค ตั้งขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 ตามคำสั่งของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โดยมี นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา เป็นประธานคณะทำงาน มีผู้แทนจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงาน ก.ล.ต. สำนักงานอัยการสูงสุด กรมบังคับคดี สภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ ผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านต่างๆ ทั้งทางด้านกฎหมายและด้านตลาดทุน รวมถึงตัวแทนผู้เสียหายจากการลงทุนหุ้นสามัญเป็นคณะทำงาน และมีกรมสอบสวนคดีพิเศษทำหน้าที่เป็นฝ่ายเลขานุการคณะทำงาน โดยบอกว่าวัตถุประสงค์ของคณะทำงานชุดนี้ตั้งเพื่อให้กรณีสตาร์คเป็นกรณีศึกษา และถอดบทเรียน เพื่อกำหนดนโยบายและกรอบการป้องกันและปราบปรามคดีแนวนี้
นายสนธิกล่าวว่า ตนได้พูดถึงเรื่องคดี STARK ไปแล้วหลายตอน และได้ดักคอไว้ล่วงหน้าแล้วในรายการเมื่อ 4-5 เดือนก่อนว่าจริงๆ คดี STARK นั้นไม่ได้มีความซับซ้อนมากมายนัก หากเปรียบเทียบกับคดีอภิมหากาพย์โคตรโกงอย่างคดี Energy EARTH แต่ทำไม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ถึงไม่ถอดบทเรียนคดี Energy EARTH ก่อน ทั้งที่เสียหายมากกว่า และโยงความผิดได้แทบทุกวงการ ทั้งตลาดหุ้น ธนาคารพาณิชย์ ฯลฯ
หรือว่า “บริษัทโคตรโกง” เอาเงินที่โกงมาจ่ายปิดปากปิดตาใครบางคนจนกระบวนการสอบสวนไม่คืบหน้าเท่าที่ควร?
“เพราะฉะนั้น งานเสวนาทางวิชาการเรื่อง STARK ที่จัดขึ้นนั้น ถ้า DSI จะทำเพื่อเร่งสร้างผลงานก็ทำไปผมไม่ได้ว่าอะไร แต่ช่วยทำให้ถูกจุด เพราะคดีความต่างๆ ที่อยู่ในมือ DSI เต็มมือไปหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Forex3D, Energy Earth, GCC, ผู้บริหาร ปตท. เกี่ยวข้องกับการโกงปาล์มน้ำมันอินโดฯ ไม่นับกับกรณีกลุ่มฟอกเงินเว็บพนัน-ค้ามนุษย์ และล่าสุดที่ DSI ก็รับไปอีกคือ กรณีดิไอคอน เมื่อไหร่จะเห็นหัวเห็นหางสักที
“ไม่ใช่พายเรือวนอยู่แต่ในอ่าง ออกข่าวมา หรือออกแถลงการณ์มาก็มีแต่เรื่องตั้งกรรมการ จัดเสวนาให้ความรู้ไปวันๆ เพราะ “ความรู้” น่ะคนเขามีอยู่แล้ว แต่ที่เขาสงสัยคือทำไมคดีความไม่คืบหน้า กระบวนการยุติธรรมทำไมล่าช้าดังคำกล่าวที่ว่า Justice delayed is justice denied หรือความยุติธรรมที่ล่าช้าก็คือความไม่ยุติธรรม
“ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เสียงของคนที่บอกว่า “DSI มีก็ได้ไม่มีก็ได้ แต่ไม่มีจะดีกว่า” นั้นจะดังขึ้นทุกที
“ท่านผู้ชมครับ ถ้าเราเดินหน้าเสนอให้ยุบดีเอสไอ แล้วผมเล่าที่มาที่ไปดีเอสไออยู่แล้วว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ดีเอสไอมันไม่ใช่หน่วยงานที่จะมาปราบปรามอาชญากรรม แต่เป็นหน่วยงานที่นักการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งระดับนายกรัฐมนตรี ตั้งขึ้นมา เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการจัดการกับคู่ต่อสู้ทางการเมืองฝั่งตรงกันข้าม คนแรกที่ตั้งดีเอสไอขึ้นมาเผอิญชื่อ ทักษิณ ชินวัตร” นายสนธิกล่าว
