xs
xsm
sm
md
lg

พอเถอะลุง! อำนาจหาย บารมีหด คนรอบตัวมีแต่ทำให้เสียหาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สนธิ” แนะ “ลุงป้อม” วางมือ ลาออกจากทุกตำแหน่ง ทั้ง ส.ส. ทั้งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพราะตอนนี้บารมีแทบไม่เหลือแล้ว คนใกล้ชิดรอบตัวล้วนแต่เข้ามาหาประโยชน์ สร้างความเสียหาย ควรเลิกฝันจะเป็นนายกฯ อยู่ไปมีแต่จะบอบช้ำไปเรื่อยๆ อดีตก็เคยเป็นถึง ผบ.ทบ.สร้างผลงานไว้มากแล้ว ควรพักผ่อน ไปเยี่ยมเยียนเพื่อนฝูง



ในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” หรือ “สนธิทอล์ก”เมื่อวันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม 2567 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการ ได้กล่าวถึงกรณีช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมามีข่าวเกี่ยวกับคนใกล้ชิด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือบิ๊กป้อม หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดต่างๆ โดยนายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ ได้พูดในรายการของตัวเองว่าได้ค้นพบความเป็นไปได้ในการฟอกเงิน อย่างไรก็ตาม ในข้อเท็จจริงขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินคดีใดๆ ทั้งสิ้น


นายสนธิกล่าวว่า ส่วน พ.ท.หญิง ชลรัศมี งาทวีสุข หรือ "ทิพย์" นั้นเป็นคนสนิทของลุงป้อมมา 20 ปีแล้ว แต่เท่าที่สืบทราบมา พ.ท.หญิง ชลรัศมีไม่ได้ใช้อำนาจของลุงป้อมไปรีดไถเงินใคร หากแต่ใช้บารมีลุงป้อมในการหางานหาการทำในงานที่ตัวเองถนัด นั่นคือการจัดอีเวนต์ จัดนิทรรศการ แต่ พ.ท.หญิง ชลรัศมี ตอนนี้ยังไม่ได้ถูก ปปง.ตรวจสอบ และยังไม่ถูก ป.ป.ช.ตรวจสอบ แต่ก็เป็นหนึ่งประเด็นภาพรวมคนใกล้ชิดลุงป้อม


“ปีนี้เป็นปี 2567 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อยู่ในอำนาจมา 9 ปี 9 ปีที่ผ่านมานี้ เรียกฝนได้ฝน เรียกลมได้ลม เรียกเมฆได้เมฆ ไม่มีองคาพยพไหนในสังคมไทยที่คนใกล้ชิดของลุงป้อมเอื้อมไปไม่ถึง เมื่อใช้บารมีลุงป้อมแล้ว ก็จะได้สิ่งที่ตัวเองปรารถนา แม้กระทั่งคนที่วิ่งเต้นขอสัมปทานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรือดำน้ำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานที่การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ที่ลงทุนให้ลุงป้อมโทรศัพท์ไปหารัฐมนตรีในขณะนั้นเพื่อของานให้กับคนที่มาวิ่งเต้นกับลุงป้อม

“ปัญหาใหญ่ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นั้นคือปัญหาที่ตัวเองอยากจะช่วยคน ใครใกล้ชิดสนิทสนม ขออะไรมาก็ช่วยให้หมด โดยไม่ดูตาม้าตาเรือ เพราะฉะนั้นคนที่ล้อมตัว พล.อ.ประวิตร ล้วนแล้วแต่มีปัญหาทั้งสิ้น ไม่มีปัญหาทางการเมือง ก็มีปัญหาในเรื่องของการงาน หรือมีปัญหาเรื่องผลประโยชน์


“ท่านผู้ชมอย่าลืมนะครับ สุรเชษฐ์ หักพาล ยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ก็เพราะว่าใช้บารมีของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เลื่อนตำแหน่งจากตำแหน่งตำรวจตำแหน่งไม่เยอะ ไม่ใหญ่ ขึ้นมาเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็ด้วยบารมีของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ส่วนวีรกรรมที่สุรเชษฐ์ หักพาล ทำไว้นั้น ผมไม่ต้องพูด ท่านผู้ชมคงพอจะรับทราบข่าวอยู่แล้ว หรือคนอย่างฟิล์ม รัฐภูมิ หรือคนอย่างนายสามารถ

คนที่ล้อมตัว พล.อ.ประวิตรนั้นล้วนแล้วแต่สร้างความเสียหายให้ พล.อ.ประวิตร ทั้งสิ้น จากความที่ตัวเองใจดีกับคนพวกนี้ เพราะฉะนั้นแล้ว ผมอยากจะเรียนด้วยความสัตย์จริงว่าผมอยากเห็น พล.อ.ประวิตรลงจากเวทีเสียที เชื่อผมสิ นี่ผมพูดด้วยความเคารพนะ ผมพูดด้วยความเคารพ และผมพูดด้วยความหวังดีท่านอายุมากกว่าผม 2 ปี ปีนี้ท่านก็จะ 80 แล้ว ปีนี้ผม 77 ย่าง 78 ท่านก็กำลังจะย่าง 80 ท่านอย่าเลยครับ อย่าไปฝันเฟื่องเมืองแมนว่าตัวเองจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีตามคำเชียร์ของคนใกล้ชิดท่าน เพื่อที่จะหลอกเอาเงินท่านไป


“ท่านผู้ชมจำได้หรือเปล่า สมัยที่นายสามารถ ขึ้นหม้อกับ พล.อ.ประวิตร เอาเงิน พล.อ.ประวิตรไปตั้งกี่ร้อยล้าน อ้างว่าเพื่อเอาไปซื้อ ส.ส.เข้ามาอยู่ในค่ายตัวเอง เพื่อที่เวลาหักหลังพรรคเพื่อไทยก็จะได้มี ส.ส. จำนวนมากเข้ามาหนุน พล.อ.ประวิตรขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นความฝันครั้งสุดท้ายในชีวิต แต่เหตุการณ์ไม่ได้เป็นเช่นนั้น

“ความขัดแย้งระหว่างทักษิณ ชินวัตร กับ พล.อ.ประวิตร ก็เลยมีความรุนแรงเกิดขึ้นมาอย่างสูง ทักษิณก็เลยแก้เผ็ดด้วยการ เมื่อตั้ง ครม.ยุคอุ๊งอิ๊ง ไม่ยอมตั้งน้องชายของ พล.อ.ประวิตร คือ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ให้กลับมาดำรงตำแหน่งเก่า คือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่ง พล.ต.อ.พัชรวาทกำลังมีความสุขกับลูกสาวในการบริหารกระทรวงนั้นอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู และการที่ไม่ได้ตำแหน่งนี้ ก็เลยพลอยทำให้พรรคพลังประชารัฐแตกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งไม่เห็นด้วยกับวิธีการทำงานของ พล.อ.ประวิตร ก็รวบรวมสมัครพรรคพวกในพลังประชารัฐ แล้วมาสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ส่วนนี้นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และในที่สุดแล้ว พรรคเพื่อไทยก็ตัดสินใจเลือกกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ให้เข้ามาร่วมรัฐบาล จัดสรรตำแหน่งแห่งที่ให้

“วันนี้ พล.อ.ประวิตรไม่มีความสุขหรอกครับ อายุท่านก็มากแล้ว วันวานที่หวานชื่นของการมีอำนาจของพี่น้อง 3 ป.มันจบไปแล้ว ท่านต้องยอมรับความจริง ท่านอย่าดิ้นรนต่อไปเลย ท่านถอยไปเถอะ


“บรรดาคนที่ใกล้ชิดท่าน แต่ไม่ค่อยมีผลประโยชน์อะไร ก็ยังรักท่านอยู่ ว่าเป็นผู้ใหญ่ที่ใจดี แต่คนที่มีผลประโยชน์ ป่านนี้ก็เข้าซังเตเป็นแถว ไม่ว่าจะเป็น สามารถ ฟิล์ม รัฐภูมิ ก็จะเร็วๆ นี้ สุรเชษฐ์ หักพาล ก็โดนคดีอยู่ แล้วเรื่องอยู่ใน ป.ป.ช. ออกจากราชการ เพราะฉะนั้นแล้วจะเห็นได้ชัดว่าบารมีท่านไม่มีเหลือแล้ว ท่านอย่าไปคิดอะไรมาก ท่านต้องถอยออกมา ลาออกมาเถอะครับ อย่าไปฝันหวานอะไรกับเรื่องนี้เลย อำนาจที่ท่านต้องการ ตำแหน่งที่ท่านอยากได้ เชื่อผมสิ ไม่มีทางได้หรอกครับ แล้วท่านอยู่ต่อไป ท่านจะมีแต่ความบอบช้ำไปเรื่อยๆ ไปเรื่อยๆ

“เพราะฉะนั้นแล้ว ผม ในฐานะที่เป็นคนมองการเมืองอยู่วงนอก ผมไม่ได้เคียดแค้นอะไรท่านหรอก ผมคิดว่าคนอายุจะ 80 แล้ว สุขภาพก็ไม่ค่อยดี ถึงเวลาถอยได้หรือยัง ท่านเดินเหินก็ลำบาก ไม่เหมือนผม ผมอ่อนกว่าท่าน 2 ปี แต่ผมยังเดินกระฉับกระเฉงอยู่ ไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น

“ท่านคงไม่เชื่อผมหรอกครับ แต่ผมคิดว่าทางออกที่ดีที่สุดของท่าน ท่านไม่เชื่อ ไม่เป็นไร แต่วันข้างหน้าท่านจะช้ำใจมากกว่านี้อีกเยอะ เพราะหมดจากคนอย่างสามารถ หมดจากฟิล์ม รัฐภูมิ ก็จะมีคนหลายคน จะหน้าใหม่ หน้าเก่า เริ่มเข้าไปห้อมล้อมท่านเหมือนเดิม ไปเสกสรรค์ปั้นแต่งให้ท่านได้เพ้อฝันต่อไป ในความฝันที่ไม่มีวันไปสู่จุดสูงสุดได้เลยแม้แต่นิดเดียว สวยมากที่สุด ท่านลาออกเถอะ ท่านลาออกแล้ว ท่านย้ายบ้านออกไปอยู่ที่บ้านของท่านที่ลาดพร้าว อย่าไปอยู่มันเลยที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ที่อยู่ในราบ 1 อย่าไปอยู่เลยครับ


“อดีตท่านเป็นคนที่มีตำแหน่งแห่งที่ มีผลงาน ท่านเป็นถึงผู้บัญชาการทหารบก ท่านได้ทำอะไรไปเยอะ ท่านก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่หรือว่า ส.ส.ที่ท่านคุมอยู่ทุกวันนี้ ทุกคนพร้อมจะไปกันหมดทุกคน ทุกคนอ่านขาดเลยว่าท่านเป็นอะไรต่อไปไม่ได้แล้ว แล้วทุกวันนี้ชื่อเสียงท่านตกต่ำมากก็เพราะว่าคนที่ผมเอ่ยชื่อไปเมื่อกี้นี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ท่านต้องตกต่ำ แล้วยังมีอีกนะ แต่ผมขี้เกียจจะเอ่ยชื่อ คนที่เอาประโยชน์จากความใจดีของท่าน ท่านเป็นคนใจดี แต่ท่านไม่สนใจว่าอะไรเป็นอะไร มาให้ช่วยก็จะช่วย นี่คือนิสัยนักเลง แต่เป็นนักเลงแบบนี้ใช้ไม่ได้ เพราะมันมาให้ช่วยแต่ละเรื่อง วรนุชทั้งนั้นเลย

“ท่านไม่เชื่อผม ไม่เป็นไร แต่สักวันหนึ่ง ถึงเวลานั้นแล้ว ท่านจะบอกว่าสนธิมันพูดถูกเว้ย วันนี้ท่านเพียงแต่ลำบากในการเดินหน้าทางการเมือง แต่ยังไม่พิการทางการเมือง แต่ถ้าวันข้างหน้า ท่านเลิกใฝ่ฝันเลยว่าท่านจะโค่นทักษิณได้ ท่านโค่นเขาไม่ได้หรอก ทักษิณจะต้องรับกรรมของเขาเอง จากการที่เขาทำกับชาติบ้านเมือง ท่านกลับบ้าน ท่านพักผ่อนเถอะ ท่านไปเยี่ยมเยียนเพื่อนเก่าๆ คนเก่าๆ ที่เขายังซาบซึ้งในตัวท่านอยู่ แล้วก็สลายไปเลย ลาออกจากหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ส่วน ส.ส.ที่เหลือจะไปอยู่พรรคไหนก็ปล่อยเขาไป เพราะว่าคนพวกนี้เขาไม่ได้จริงใจอะไรกับท่านเลยแม้แต่นิดเดียว ต้องการเงินเดือนที่ท่านจ่ายให้เขาทุกเดือน ดูอย่างนายสามารถ เอาเงินท่านเป็นร้อยล้าน ว่าจะมี ส.ส.เพื่อไทยมา ปรากฏว่าไม่มีมาสักคน เงินเข้ากระเป๋ามันเองหมด แล้ววันนี้ก็นอนอยู่ในคุก ลาออกเถอะครับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เชื่อผม” นายสนธิกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น