พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดการประชุมวิชาการนานาชาติ “จากการพัฒนาทางเลือกมุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน : เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับการพัฒนาทางเลือก เพื่อรับมือการท้าทายทุกประเด็นของโลก” และทรงเปิดงานโครงการหลวง 2567 “Hats on Hills ห่มเขาด้วยเงาไม้ ใต้ร่มพระบารมี 55 ปี โครงการหลวง” ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
วันนี้ 1 ธ.ค.67 เวลา 17.45 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี
เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดการประชุมวิชาการนานาชาติ “จากการพัฒนาทางเลือกมุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน : เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับการพัฒนาทางเลือก เพื่อรับมือการท้าทายทุกประเด็นของโลก” (The Royal Project International Conference : From Alternative Development to Sustainable Development Goals : Empowering Alternative Development to Address Global Challenges) และทรงเปิดงานโครงการหลวง 2567 “Hats on Hills ห่มเขาด้วยเงาไม้ ใต้ร่มพระบารมี 55 ปี โครงการหลวง” ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีพลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง ประธานกรรมการอำนวยการจัดการประชุมวิชาการนานาชาติ ฯ นายอำพน กิตติอำพน องคมนตรี กรรมการที่ปรึกษาพิเศษสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) คณะกรรมการจัดงาน ข้าราชการ และประชาชน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ
จากนั้น เสด็จเข้าห้องราชพฤกษ์ อาคารนิทรรศการ 1 พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายวิรัตน์ ปราบทุกข์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตร แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และนางสาวพัชรินทร์ เก่งกาจ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานมูลนิธิโครงการหลวง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตร แด่สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี
ต่อจากนั้น พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง ประธานกรรมการอำนวยการจัดการประชุมวิชาการนานาชาติ ฯ กราบบังคมทูลรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดงาน ฯ เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดำรัสเปิดการประชุมวิชาการนานาชาติ ฯ
จากนั้น ทอดพระเนตรนิทรรศการ ฯ ได้แก่ ผลสัมฤทธิ์การพัฒนาพื้นที่สูงของประเทศไทย : สู่ความท้าทายโลก ซึ่งแบ่งนิทรรศการออกเป็น 5 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 ปฐมบท การพัฒนาทางเลือกที่ยั่งยืน : พระราชปณิธาน ช่วยชาวเขา ช่วยชาวเรา ช่วยชาวโลก
ส่วนที่ 2 สืบสานพระราชปณิธาน เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ส่วนที่ 3ขับเคลื่อนการขยายผล บนพลังประสานความร่วมมือ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ส่วนที่4 55 ปี องค์ความรู้ และนวัตกรรม นำการพัฒนา และส่วนที่ 5 ประสานพลังความร่วมมือ เส้นทางสำเร็จจากอ่างขางสู่เลอตอ
ทั้งนี้การประชุมวิชาการนานานาชาติ ฯ จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28กรกฎาคม 2567 ระหว่างวันที่ 1-4ธันวาคม 2567 ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงตั้งพระราชปณิธานที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอด ตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จนเกิดผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ เกิดประโยชน์อเนกอนันต์ ต่อเนื่องมาจนครบ 55 ปี โดยมีผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และผู้ปฏิบัติงานจากหลากหลายภูมิภาคเข้าร่วม จำนวน 450 คน รวมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้สนใจเข้าร่วมรับฟังผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งผลการประชุมจะนำไปเผยแพร่ในการประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติดของสหประชาชาติ ณ กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย ในเดือนมีนาคม 2568
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ประทับรถไฟฟ้า
พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังลานราชพฤกษ์ ครั้นเสด็จพระราชดำเนินถึง พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายพีระชาติ เรืองประดิษฐ์ หัวหน้าฝ่ายสถานีวิจัยและศูนย์พัฒนาโครงการหลวง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตร แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และนางสาวสาริศา เมฆมงคล หัวหน้าฝ่ายบริหารผลิตผลและผลิตภัณฑ์ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตร แด่สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ต่อจากนั้น พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง ประธานกรรมการจัดงานโครงการหลวง 2567 กราบบังคมทูลรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดงานโครงการหลวง 2567 “Hats
on Hills ห่มเขาด้วยเงาไม้ ใต้ร่มพระบารมี 55 ปี โครงการหลวง”
เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดงาน “โครงการหลวง 2567 จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการแสดงสื่อผสม แสง สี เสียง ประกอบบทเพลงชุด “ลำนำห่มเขาด้วยเงาไม้ ใต้ร่มพระบารมี
55 ปี โครงการหลวง” ซึ่งเป็นการถ่ายทอดเรื่องราวของโครงการหลวงที่มีจุดเริ่มต้นจากพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อช่วยชาวเขา เพื่อมนุษยธรรม และสืบสานมาจนถึงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยทรงมีพระราชปณิธานแน่วแน่ในการสืบสาน รักษา และต่อยอด เพื่อสร้างประโยชน์แก่อาณาประชาราษฎร์อย่างต่อเนื่อง โดยการร้อยเรียงเรื่องราว สื่อสารผ่านบทเพลงจากคณะนักร้องประสานเสียงเยาวชน และจิตอาสาจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับวงดนตรีจิตอาสา รวม 200 คน ประกอบการฉายภาพประวัติศาสตร์ และการแสดง แสง สี เสียง บนฉากเขาจำลอง ประกอบด้วย
องก์ที่ 1 ปฐมบท : รำลึกพระมหากรุณาธิคุณ องก์ที่ 2 พระมหากรุณา แก้ปัญหาวิกฤตฝิ่น องก์ที่ 3ภารกิจ
โครงการหลวง และองก์ที่ 4 สืบสานพระราชปณิธาน เพื่อประโยชน์สุขของชาวเขา ชาวเรา ชาวโลก เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรนิทรรศการโครงการหลวง 2567 “ชุมชนอยู่ดีมีสุข สิ่งแวดล้อมยั่งยืน” และทรงเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ซึ่งเป็นราษฎรที่ได้รับประโยชน์จากการพัฒนาโครงการหลวง รวมทั้งชนเผ่าต่าง ๆ อาทิ ลาหู่ (มูเซอ) ไทลื้อ คะฉิ่น อาข่า และดาราอั้ง ที่มาจากพื้นที่สถานีวิจัยและพัฒนาโครงการหลวงในจังหวัดต่าง ๆ ทางภาคเหนือ พร้อมใจแต่งกายด้วยชุดประจำชนเผ่าอย่างสวยงามมาร่วมเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จด้วยความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณา
โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ กองแพทย์หลวง สำนักพระราชวัง ร่วมกับโรงพยาบาลต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ มอบพิมเสนน้ำและผ้าเย็นแก่ประชาชน พร้อมทั้งพระราชทานอาหารแก่ราษฎรที่มาร่วมเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จในพื้นที่ด้วย
งานโครงการหลวง 2567 “Hats on Hills : ห่มเขาด้วยเงาไม้ ใต้ร่มพระบารมี 55 ปี โครงการหลวง” กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-10 ธันวาคม 2567 ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีการจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ฯ นิทรรศการผลสำเร็จทางวิชาการ
การจำหน่ายผลิตผลและผลิตภัณฑ์ การจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์แปรรูปของมูลนิธิ ฯ การแสดงการสาธิตการประกอบอาหาร และศิลปะประดิษฐ์จากเยาวชนและประชาชน โดยใช้ผลิตผลและผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิโครงการหลวง