ย้อนดูพฤติกรรม “อนุทิน” อยากเป็นนายกฯ อย่างแรงกล้า แต่ไม่มีภาวะผู้นำสมกับเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ ยอมคุกเข่าไหว้ “คุณหญิงอ้อ” ฝากเนื้อฝากตัวกับเด็กอย่าง “อุ๊งอิ๊ง” ไม่ใช่วิสัยของคนมีศักดิ์ศรี เหลาะแหละ ไม่พร้อมรักษาผลประโยชน์ของชาติบ้านเมือง
ในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” หรือ “สนธิทอล์ก” เมื่อวันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2567 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการ ได้กล่าวถึงกรณี อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มีความต้องการอย่างแรงกล้าที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป แต่เหตุการณ์ที่ผ่านมา เป็นตัวอย่างให้เห็นว่านายอนุทินไม่มีศักดิ์ศรีมากพอจะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ เช่น
เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 ที่วัดมกุฏกษัตริยาราม ศาลา 10 กทม. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รมว.สาธารณสุข (ในเวลานั้น) และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ลงนั่งคุกเข่า ไหว้ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ หรือคุณหญิงอ้อ อดีตภรรยาของนายทักษิณ ชินวัตร ในพิธีรดน้ำศพ นางพจนีย์ ณ ป้อมเพชร (มารดาคุณหญิงอ้อ)
ในงานนี้ นายอนุทินให้สัมภาษณ์ด้วยว่าได้เจอนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นครั้งแรก ได้เห็นบทบาทของการเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ดูมีพลังความเป็นนักสู้ และมีความพร้อม เมื่อขึ้นเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ก็มองว่าเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ เป็นผู้นำทางการการเมืองคนหนึ่ง
หลังการเลือกตั้ง 2566 เสร็จสิ้น และมีการจัดตั้งรัฐบาลนำโดยพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทยเข้าร่วมรัฐบาลด้วย วันที่ 29 ตุลาคม 2566 นางสาวแพทองธาร พร้อมด้วยคุณหญิงพจมาน ร่วมงานแสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 9 เฉลิมพระเกียรติ ที่บริเวณท้องสนามหลวง
ทันทีที่มาถึง นพ.ชลน่าน และนายอนุทินได้เดินไปรับถึงรถ ซึ่งนายอนุทินได้กล่าวแสดงความยินดีที่ได้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ทำให้ นพ.ชลน่านพูดแซวกับนายอนุทินว่า "ฝากเนื้อฝากตัวด้วย" ก่อนที่นายอนุทินจะชี้กลับไปที่นางสาวแพทองธาร แล้วพูดว่า "ก็ต้องฝากตัวกับคุณอิ๊งด้วย" นางสาวแพทองธารจึงกล่าวว่า "โอ้โฮ เกินไป"
"ทำไมผมต้องเอาเรื่องนี้มาพูด ? หลายๆ คนอาจจะบอกว่าไร้สาระ มันไร้สาระจริงๆ ก็เพราะว่ามันไร้สาระไง ผมก็เลยไม่เข้าใจว่าทำไมคนอย่างคุณอนุทินต้องทำตัวไม่มีวุฒิภาวะของคนเป็นผู้นำพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นพรรคใหญ่รองมาจากพรรคเพื่อไทย คุณอนุทินมักจะลืมตัวว่าตัวเองเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มีเสียงอยู่เป็นอันดับ 3 คุณอนุทินไม่ค่อยจะรักษาศักดิ์ศรีของตัวเองเท่าไรนัก
จริงๆ แล้วชีวิตลั้นลาของคุณอนุทิน กับชีวิตสบายๆ ชิลๆ ของแพทองธาร ชินวัตร นั้น เป็นชีวิตที่คล้ายๆ กัน วันนี้คุณแพทองธารไม่ได้ทำงานเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย เพราะว่ามันมีเรื่องหลายเรื่องที่คุณแพทองธารจะต้องทำ และอาจจะกระทบคุณอนุทินหลายเรื่อง อย่างเช่นเรื่องเขากระโดง แต่แพทองธารก็ไม่ทำ ขณะเดียวกัน คุณอนุทินก็ไม่เคยตั้งข้อสงสัยว่า MOU 2544 มันจะมีโอกาสทำให้ประเทศไทยสูญเสียอธิปไตยไปหรือเปล่า"
"คนที่มุ่งมั่นอยากขึ้นไปเป็นนายกรัฐมนตรีให้ได้ สิ่งแรกที่ต้องมีก็คือศักดิ์ศรี เที่ยวไปคุกเข่าไหว้คนโน้นไหว้คนนี้ แล้วฝากเนื้อฝากตัวกับเด็กอย่างแพทองธาร มันไม่ใช่วิสัยของคนที่มีศักดิ์ศรี หรือต้องการที่จะก้าวต่อไปในการดูแลประเทศไทยทั้งปวง"
“นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงไม่ไว้ใจคุณอนุทิน เพราะเป็นคนเหลาะแหละ เราไม่ต้องการคนเหลาะแหละมาเป็นนายกรัฐมนตรี เราต้องการคนจริงใจต่อประชาชน พร้อมที่จะรักษาผลประโยชน์ของชาติบ้านเมือง พร้อมที่จะรับผิดชอบกับปัญหาต่างๆ ในประเทศไทยทุกปัญหา” นายสนธิกล่าว