ท่าอากาศยานหลัก 6 แห่งของ ทอท.เริ่มใช้ระบบไบโอเมตริกซ์แก่ผู้โดยสารระหว่างประเทศ อำนวยความสะดวกสแกนใบหน้าขึ้นเครื่องบิน ไม่ต้องโชว์พาสปอร์ตและบัตรโดยสาร
วันนี้ (1 ธ.ค.) เป็นวันแรกที่ท่าอากาศยานหลัก 6 แห่งของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ได้นำระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล หรือไบโอเมตริกซ์ (Biometric) มาให้บริการแก่ผู้โดยสารระหว่างประเทศ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ หลังจากได้นำร่องแก่ผู้โดยสารภายในประเทศเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา
บริการนี้อำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร สามารถเข้าจุดตรวจค้น และขึ้นเครื่องผ่านช่องทาง Biometric โดยไม่ต้องแสดงหนังสือเดินทางและบัตรโดยสารอีกต่อไป แต่ยังคงมีขั้นตอนตรวจสัมภาระ และขั้นตอนตรวจหนังสือเดินทางตามปกติ โดยที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศสามารถใช้ช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ (Automatic Channel) สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Passport) ได้ทุกสัญชาติ
สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการใช้งานระบบ Biometric สามารถลงทะเบียนใช้งานเมื่อมาเช็กอินที่สนามบินได้ 2 วิธี คือ 1. เช็กอินที่เคาน์เตอร์เช็กอินของสายการบิน ผู้โดยสารแจ้งเจ้าหน้าที่สายการบินให้ลงทะเบียนใบหน้าในระบบ Biometric ผ่านเครื่องตรวจบัตรโดยสาร โดยระบบฯ จะดำเนินการบันทึกข้อมูลใบหน้าและข้อมูลเอกสารการเดินทางของผู้โดยสาร
2. เช็กอินที่เครื่องเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (CUSS) ผู้โดยสารสามารถทำการกดปุ่มเลือกสายการบินที่เดินทาง ตามด้วยการกดเลือกให้ความยินยอมลงทะเบียนใบหน้าในระบบ Biometric (Consent Notice) และดำเนินการเช็กอินผ่านระบบจนได้รับบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง (Boarding Pass) จากนั้นทำการสแกนบาร์โค้ดในบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง (Boarding Pass) เสียบหนังสือเดินทาง (Passport) หรือบัตรประชาชน (กรณีผู้โดยสารในประเทศ) และสแกนใบหน้าเป็นขั้นตอนสุดท้าย เป็นอันเสร็จสิ้น
ระบบฯ จะดำเนินการบันทึกข้อมูลใบหน้าและข้อมูลเอกสารการเดินทางของผู้โดยสาร และหากผู้โดยสารมีความประสงค์จะโหลดกระเป๋าสัมภาระ สามารถทำผ่านเครื่องรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (CUBD) ตลอดจนผ่านจุดตรวจค้น และขั้นตอนขึ้นเครื่อง โดยผู้โดยสารไม่ต้องแสดงหนังสือเดินทางและบัตรโดยสารอีกต่อไป ทั้งนี้ ข้อมูลของผู้โดยสารที่ถูกบันทึกไว้จะถูกลบทิ้งภายใน 48 ชั่วโมงนับจากเริ่มลงทะเบียน ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล และข้อกำหนดของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย