วันที่ 29 พ.ย.67 กรณีถูกอินฟูฯ ที่เห็นต่างร้องให้ตรวจสอบการเอารถยนต์และ จยย.ของลูกความไปใช้ นายธรรมราช สาระปัญญา ทนายความ กล่าวว่า ที่มีคนมาร้อง บช.ก.มีสองราย กรณีรถ จยย.ดูคาติ นั้นจบไปแล้ว มีการคืนรถไปเรียบร้อย เขาอาจจะเข้าใจผิดในตัวลูกความ ว่าทำให้เขาเสียหาย หรืออาจจะมีใครบางคนไปใส่ไฟให้เขามาร้อง ตนยืนยันเคสนี้จบ ได้คืนรถไปเรียบร้อย
ส่วนเคสรถกระบะที่มาร้องเรียนตนนั้น ตนได้บอกเขาไปนานแล้วว่าให้เอาเงินไปจ่ายคืนเจ้าหนี้ 4 หมื่นบาทตามที่ยืมเขาไปแล้วเอารถคืน ซึ่งเรื่องนี้ก็ได้มีการคืนรถกระบะกันเรียบร้อยแล้วเช่นกัน
ส่วนที่มีการกล่าวหาตนว่าสนิทกับตำรวจท้องที่หนึ่งนั้น ไม่เป็นความจริง ถ้าตนพบเห็นเคสไหนขณะอยู่ที่บ้าน จ.สระแก้ว ก็จะแจ้งความที่นั่น แต่ถ้าอยู่ กทม.พบเห็นการกระผิดเคสไหนก็จะแจ้ง สน.ท้องที่นั้น เป็นไปตามข้อกฎหมายไม่เคยมีการใช้วิธีการแจ้งความเพื่อกลั่นแกล้งคนอื่น
ส่วนกรณีที่มีสื่อออนไลน์เอาโพสต์ที่ตนลงเฟซบุ๊ก ว่า“ข่าวแว่วมาว่าทนายคนใหม่ของทนายตั้ม จะมีบุคลิกคล้ายๆกับ ดอม(Fast1)สมัยหนุ่มๆ” นั้น ตนเห็นว่า”ทนายสายหยุด“ซึ่งเป็นทนายให้“ทนายตั้มสิทธา”ที่ถอนตัวไป มีคนเรียกขานว่า“ทนายปาเกียว” และยังมีการเรียกขานลักษณะการแต่งกายของ”อาจารย์ปานเทพ“ว่าเป็น“ยิปมัน”
แล้วทนายปาเกียวเปิดเวทีให้ทนายคนใหม่นั้น พอดีเมื่อวานไปที่เรือนจำกลางมา พอดีเห็นทนายท่านนี้ไปยื่นเอกสารน่าจะเป็นใบแต่งตั้งทนายให้ทนายตั้มเซ็น ตนดูแล้วน่าเชื่อว่าจะเปลี่ยนทนายคนใหม่มาเป็นคนที่หัวโล้นๆ คล้ายดอมFast1 สมัยหนุ่ม นั่นเอง“ อยากรู้ก็ลองไปถามเจ้าตัวว่ารับเป็นทนายให้ทนายตั้มหรือไม่