xs
xsm
sm
md
lg

“สายหยุด” แจงปมเหตุถอนตัว หลังกล่อม “ตั้ม” สารภาพคดี 39 ล้าน แต่ไม่ยอม ซ้ำมีเรื่องเอกสารเท็จ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"ทนายสายหยุด" เปิดใจผ่าน "โหนกระแส" หยุดทำคดีให้ "ทนายตั้ม" หลังมีคดี 39 ล้านเพิ่มเข้ามา ซึ่งดูแล้วไม่มีทางสู้ได้ และจะส่งผลถึง 3 คดีแรกด้วย จึงแนะนำให้รับสารภาพ แต่ทนายตั้มไม่ยอม นอกจากนี้ยังเห็นพิรุธเอกสารคดี 71 ล้านที่อาจทำให้ตนมีความผิดด้วยหากนำไปใช้อ้าง

นายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม กล่าวในรายการ “โหนกระแส” วันนี้ (25 พ.ย.) ว่า การทำคดีให้ทนายตั้มที่ถูก "พี่อ้อย" จตุพร อุบลเลิศ ฟ้องฐานฉ้อโกงนั้น เดิมตนรับผิดชอบ 3 คดีหลัก คือ คดี 71 ล้าน, คดีซื้อรถเบนซ์กินส่วนต่าง 1.5 ล้าน และคดีโกงค่าออกแบบโรงแรม แต่ต่อมามีคดี 39 ล้าน ซึ่งตนมองว่าไม่มีทางสู้ได้ จึงแนะนำให้ทนายตั้มรับสารภาพ เพราะจะโยงถึง 3 คดีแรกด้วย เนื่องจากตำรวจรวมกันทำเป็นคดีฉ้อโกงเป็นปกติธุระ

แต่ทนายตั้มยืนยันว่าไม่สารภาพ ยืนยันสู้ทุกคดี อ้างว่าตนเองไม่เกี่ยวข้อง แต่มีหลักฐานที่นายเล็ก คนขับรถที่ไปขนเงินเขารับสารภาพแล้วว่าไปรับเงินเองและเอาเงินมาให้ ตนจึงตัดสินใจไม่ทำคดีนี้ เพราะมองว่าทนายตั้มพูดแบบกำปั้นทุบดินไปหน่อย จะทำดำให้เป็นขาวแบบนี้ ตนรับไม่ได้

นายสายหยุดย้ำว่า จุดที่ให้ตัดสินใจไม่รับว่าความคดีนี้เพราะนายเล็กได้ให้รายละเอียดยิบเลย ซึ่งน่าจะเป็นความจริงทั้งหมด และนายเล็กคงกล้าโกหก เพราะเป็นคนขับรถ

นอกจากนี้ยังมีเรื่องการใช้เอกสารปลอม ที่ตำรวจกำลังจะแจ้งข้อหา เมื่อเช้าตนไปพบทนายตั้มที่เรือนจำแล้ว ได้บอกเขาว่าอึดอัด และบอกไปว่าเอกสารสัญญาจ้างทำแอปพลิเคชันหวยออนไลน์ 71 ล้านที่ทนายตั้มให้มานั้นไม่มีลายเซ็น แตกต่างจากที่นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เคยเอามาโชว์ในรายการโหนกระแส ซึ่งถ้าตนเองเอาไปอ้างใช้กลัวว่าจะมีความผิด เหมือนทนายพัช คดีแอม ไซยาไนด์ ตนจึงได้บอกว่าจะไม่เป็นทนายต่อให้แล้ว ถ้าให้ช่วยเรื่องอื่นอาจจะยังช่วยอยู่ ไม่ได้ทิ้งเขา แต่ว่าในทางคดีมันไปไม่ได้แล้ว

นายอาคม คงสวัสดิ์ หรือ "ทนายอาคม" อดีตทีมทนายความของนายษิทรา กล่าวเสริมว่า สัญญาทำแอปฯ หวยออนไลน์ที่ทนายตั้มทำให้พี่อ้อยมีพิรุธ เพราะมีการเว้นที่ว่างให้ผู้ว่าจ้างกับผู้รับจ้างเซ็นชื่อคนละหน้า และตามปกติตัวสัญญานั้นจะให้ผู้จ้างและผู้ว่าจ้างที่เป็นคู่สัญญาเท่านั้น ทนายความไม่เก็บไว้

นายสายหยุดกล่าวอีกว่า ในขั้นตอนการถอนตัวนั้น ไม่ต้องทำอะไร เพราะใบแต่งทนายยังไม่ได้ยื่นต่อศาล ส่วนจะมีใครเป็นทนายให้ต่อจากนี้ยังไม่ทราบ

ทั้งนี้ นายสายหยุดกล่าวว่า หากย้อนเวลากลับไปได้ถ้าทนายตั้มคืนเงินให้พี่อ้อยตั้งแต่ตอนถูกทวงถาม เรื่องก็น่าจะจบ แต่ทนายตั้มไม่ยอมคืน อย่างไรก็ตามโอกาสสุดท้ายของทนายตั้มคือในขั้นตอนการตรวจพยานหลักฐานซึ่งอัยการทนายฝ่ายโจทก์จะให้ดูเอกสารหยานหลักฐานทั้งหมด ถ้าทนายตั้มเห็นแล้วเปลี่ยนใจยอมรับสารภาพก็อาจจะยังไม่สาย 

"แต่ ณ วันนี้ ผมยุติบทบาทการเป็นทนายให้เขาแล้ว เพราะความคิดเห็นไม่ตรงกันอย่างที่กล่าวมา และได้บอกไปแล้วเมื่อ 9 โมงครึ่งเมื่อเช้า แต่ในฐานะเพื่อนกัน เวลาไปเยี่ยมผู้ต้องหารรายอื่นก็อาจจะแวะไปเยี่ยม ไปคุยปรับทุกข์กันในเรื่องทั่วไป เรื่องทางคดีไม่เกี่ยว" นายสายหยุดกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น