"สนธิ ลิ้มทองกุล" เผยอดีตลูกสะใภ้ "นพ.บุญ วนาสิน" ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี ร้องทุกข์โดนหมอบุญสร้างเรื่อง ปลอมลายเซ็นเพื่อกู้เงินผ่านเอเยนต์ อ้างให้ผลตอบแทน 15% เสียหายกว่า 8 พันล้านบาท ไม่นับรวมคนอื่นๆ ยังไม่ได้มีเรื่องมีราวเพราะอับอาย คาดสูงถึง 1 หมื่นล้านบาท แฉเจ้าตัวหนีไปต่างประเทศสักพักแล้วเพราะไม่มีเงิน
วันนี้ (18 พ.ย.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ กล่าวในรายการสนธิเล่าเรื่อง ผ่านยูทูบ Sondhitalk ว่า นพ.บุญ วนาสิน อายุ 86 ปี อดีตประธานกรรมการ และเป็นผู้ก่อตั้ง บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เจ้าของโรงพยาบาลธนบุรี มีวีรกรรมตั้งแต่สมัยโควิด-19 ซึ่งตนเคยเปิดโปง นพ.บุญ ทำมาหากินกับวัคซีน ต้องการเป็นตัวแทนจำหน่ายวัคซีนไฟเซอร์ เพื่อนำไปจำหน่ายแก่โรงพยาบาลต่างๆ แต่โดนขัดขวาง ที่ผ่านมาก็มีเรื่องมีราวตลอด ตอนนี้ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย หนีไปต่างประเทศ
มีข่าวในแวดวงนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และวงการปล่อยเงินกู้ให้กับบริษัทต่างๆ ว่า นพ.บุญไปฉ้อโกงเอาตัวเองไปกู้เงิน มีสัญญาเงินกู้เอาหุ้นไปค้ำประกัน โดยมีตัวแทน หรือเอเยนต์ไปหาเงินกู้ เหมือนกับว่าชื่อ นพ.บุญ เป็นชื่อที่มีศักดิ์ศรี มีกิจการใหญ่ เป็นเจ้าของโรงพยาบาลธนบุรี และแอบอ้างชื่อมหาวิทยาลัยธนบุรีว่า นพ.บุญเป็นเจ้าของ ซึ่งไม่ใช่แต่ชื่อธนบุรีเหมือนกัน จึงมีเอเยนต์ไปหาเงินกู้ให้ โดยให้ดอกเบี้ยสูงถึง 15% ทำให้คนที่มีเงินเย็นอยากปล่อยเงินกู้ ทั้งการนำหลักทรัพย์ไปค้ำประกัน
แต่ที่หนักกว่านั้น คือ ไปปลอมลายเซ็นในหนังสือค้ำประกันเงินกู้อดีตลูกสะใภ้รายหนึ่ง นามสกุลเดิม กุญชร ที่หย่ากับลูกชาย นพ.บุญ ตั้งแต่เดือน ก.ย. 2566 ปรากฏว่ามีลายมือชื่อเซ็นในเอกสารด้านหลังทุกอย่าง ทั้งเอกสารเรื่องหุ้น เงินกู้ และสัญญาต่างๆ เป็นลายเซ็นปลอม ทั้งที่อดีตลูกสะใภ้ไม่เคยรู้เรื่องและไม่เคยลงนามใดๆ ในชีวิตทั้งสิ้น โดยมีวงเงินที่เริ่มทวงถาม มีหมายจากตำรวจ และหมายศาลมาถึง เกือบ 8,000 ล้านบาท
นายสนธิกล่าวว่า เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อดีตลูกสะใภ้ของ นพ.บุญมาพบตนและหลานของตน บอกว่า ไม่เคยเซ็นอะไรแม้แต่นิดเดียว พร้อมกับนำเอกสารมาให้ดูก็ตกใจ ตนเห็นว่าคนที่มีลูก 2 คนจากสามีที่หย่าไปแล้ว ตนไม่พูดดีกว่า แต่ถ้าไม่ถึงที่สุดจริงๆ ไม่ขอหย่าหรอก วันนี้ นพ.บุญไม่ได้อยู่ในประเทศไทยแล้ว หลายคนบอกว่าออกไปสักพักหนึ่งแล้ว เพราะไม่มีเงิน ครอบครัวและอดีตลูกสะใภ้ยังงง ยังมีผู้ให้กู้อีกหลายเจ้าที่ยังไม่ได้มีเรื่องมีราวเพราะอับอาย รวมกันแล้วกว่า 1 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ อดีตลูกสะใภ้ยืนยันว่าไม่ได้เซ็น และไม่เคยเซ็นด้วย เอาลายเซ็นไปพิสูจน์ที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นนิติเวชหรือพิสูจน์หลักฐาน จะรู้ว่าไม่ใช่ลายเซ็นเขา เพราะฉะนั้น นพ.บุญคือผู้สร้างเรื่องทั้งหมด สมัยก่อนตั้งคณะกรรมการโควิด-19 นพ.บุญมีชื่อ และดิ้นรนเพื่อเอาวัคซีนไฟเซอร์มา เป็นคนที่เห็นว่าตรงไหนมีผลประโยชน์ก็ไปขอมีส่วนร่วมด้วย
"ระหว่างโจรที่มาเป็นทนาย กับนายแพทย์ที่จบแพทย์ ผมไม่รู้ว่า นพ.บุญจบแพทยศาสตร์ที่ไหน แต่รู้อยู่ว่าความชั่วเหมือนกันเลย นี่คือบทเรียนข้อหนึ่งว่า คนเราอย่าเอาวุฒิภาวะหรือวุฒิการศึกษา คุณวุฒิมาวัดกันว่าคนเรียนสูงไม่โกง คนเรียนต่ำจะโกง ไม่ใช่ คนจิตใจชั่วต่างหาก ซึ่งจะเรียนสูงหรือต่ำ ถ้าจิตใจชั่วโกงได้ทุกคน นี่เป็นการฉ้อโกงประชาชนครั้งยิ่งใหญ่ ไม่มีใครกล้าเปิด ผมเปิดเป็นคนแรกที่นี่ และผมจะทำเรื่องนี้ต่อ" นายสนธิกล่าว