กัญจนา ศิลปอาชา ผู้มีบทบาทอนุรักษ์ช้างไทย เตรียมฟ้องดำเนินคดีบุคคลที่ใส่ร้ายป้ายสี หรือกล่าวหาด้วยถ้อยคำหยาบคาย ลั่นนับวันชักจะมากขึ้นไม่รู้จบ ยันเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างของพฤติกรรมที่ไม่ดีในสังคม พร้อมเผยความคืบหน้า กองทุนกันยารำลึก ล่าสุดได้ถูกเปิดแล้ว พร้อมเผยยอดบริจาค ล่าสุดสูงถึงกว่า 3 ล้านบาท
วันนี้ (11 พ.ย.) เฟซบุ๊ก "NuNa Silpa-archa" หรือ “หนูนา” นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ผู้มีบทบาทอนุรักษ์ช้างไทย ได้โพสต์ระบุข้อความว่า "สัปดาห์หน้าดิฉันจะมีความชัดเจนเรื่องการดำเนินคดีต่อบุคคลที่เข้าข่ายดังนี้นะคะ
- นำข้อมูลอันเป็นเท็จเกี่ยวกับเรื่องช้างเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
- หมิ่นประมาทดิฉันด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย
โดยดิฉันจะบอกช่องทางที่แม่ๆ เพื่อนๆ จะสามารถส่งข้อมูลมาให้ดิฉันได้ ดิฉันจะมีคณะทำงานรวบรวมข้อมูล ช่วงนี้ก็รบกวนทุกท่านที่มีข้อมูล อยากส่งให้ดิฉัน กรุณารวบรวมกันไว้นะคะ อย่างที่ทราบกัน เดิมทีดิฉันไม่คิดจะเอาเรื่องอะไร แต่นับวันชักจะมากขึ้นและไม่รู้จบ ตั้งแต่เรื่องดอกแก้ว ขุนเดช จนมาถึงน้องกันยา พอกันทีค่ะ ไม่ควรมีใครถูกกระทำอย่างเช่นที่ดิฉันถูกกระทำ การดำเนินคดีนี้ก็เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างของพฤติกรรมที่ไม่ดีในสังคม คนอย่างดิฉัน เมื่อทำอะไรแล้วไม่ทำเล่นๆ ทำจริงอย่างเต็มที่เสมอ จะดำเนินคดีจนถึงที่สุด และดิฉันมีปัจจัยมากพอที่จะฟ้องร้องได้แบบไม่จำกัดจำนวนคนด้วยค่ะ ขอบพระคุณทุกกำลังใจที่มีให้ดิฉันเสมอมานะคะ"
พร้อมเผยความคืบหน้า “กองทุนกันยารำลึก” ล่าสุดได้ถูกเปิดแล้ว พร้อมเผยยอดบริจาคล่าสุดคือ 3,260,105.70 บาท พร้อมระบุข้อความว่า "เป็นของดิฉันเพียง 1,000,000 นอกนั้นเป็นของแม่ๆ พ่อๆ ของกันยา ดิฉันจะขอให้ คุณหมอต้อม ทวีโภค (คชบาล) คุณหมอบิ๊ก ฉัตรโชติ (รองคณบดีคณะสัตวแพทย์ มช.) คุณหมอแอ้ม (ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาลัยเขตกำแพงแสน) ช่วยกรุณาเป็นแกนกลางประสานทำโครงการวิจัยเพื่อหาทางต่อสู้กับโรค EEHV รวมทั้งหาวัคซีนป้องกัน เพื่อไม่ให้เราต้องสูญเสียลูกช้างไปเพราะโรคนี้อีกค่ะ ขอให้คุณหมอทำโครงการเสนอมานะคะ
เพราะดิฉันทราบว่าคุณหมอมีโครงการอยู่แต่การขอเงินจากภาครัฐยุ่งยากมาก เงินกองทุนนี้จะถูกบริหารจัดการอย่างโปร่งใส ตามที่ดิฉันเคยแจ้งแล้วว่าเดิมทีดิฉันอยากให้กองทุนนี้อยู่กับคชบาล แต่คุณหมอต้อมบอกว่ายุ่งยากในการเบิกจ่าย ขอให้ดิฉันเปิดบัญชีเอง ดิฉันจึงจำต้องเปิดบัญชีเองทั้งที่ไม่อยากทำ และเมื่อเปิดเป็นกองทุน จำต้องมีมูลนิธิกำกับ เป็นกองทุนลอยๆ ไม่ได้ ดิฉันจึงต้องอาศัยมูลนิธิบรรหารแจ่มใส (เพราะไม่รู้จะใช้มูลนิธิอะไรอื่นที่สะดวกรวดเร็ว)
ให้กองทุนอยู่ภายใต้มูลนิธิบรรหารแจ่มใส ตามกฎหมาย แต่ดิฉันจะทำบัญชีแยกชัดเจนของกองทุน แยกจากของมูลนิธิค่ะ รายรับ รายจ่าย ไม่เกี่ยวกัน สิ้นปีก็รายงานงบการเงินกับสรรพากรตามกฎหมาย และอย่างที่ดิฉันเคยบอก ดิฉันจะรายงานการใช้จ่ายเงิน และการรับเงินของกองทุนนี้ในเฟซฯ ดิฉันเป็นระยะนะคะ เมื่อมีการเคลื่อนไหวค่ะ ขอขอบพระคุณแม่ๆ พ่อๆของน้องกันยาทุกท่าน นี่คืออนุสรณ์รำลึกถึงกันยาที่เป็นประโยชน์ยิ่งค่ะ ขออนุโมทนาสาธุกับทุกท่าน และให้น้องกันยามาอนุโมทนาสาธุด้วยนะลูก…ทุกคนทำเพื่อหนูและเผ่าพันธุ์ของหนูนะคะ กันยาผู้เป็นที่รักยิ่ง"