แม่เด็กชายวัย 8 ขวบ ที่ถูกกระสุนดับคาบ้าน ลั่น 9 ปีจำไม่เคยลืม "ทนายตั้ม" หลอกว่าจะช่วย มาขอดูจุดเกิดเหตุ แต่สุดท้ายไปอยู่ฝ่ายมือปืน แม้ไม่ได้ให้ขึ้นไปดูแต่ก็ทำจนศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง อาจมีการสร้างหลักฐานเท็จหรือไม่ เผยลูกเกือบต้องตายฟรี แต่คดีพลิกหลังไปขอความช่วยเหลือจาก "อัจฉริยะ" กระทั่งศาลฎีกาพิพากษาให้คนร้ายจำคุก
วันที่ 8 พ.ย.67 เมื่อเวลา 17.00 น. ที่ ต.หลักสาม อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร คุณบ๊วย ( นามสมมุติ ) อายุ 45 ปี ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงกรณีลูกชายวัย 8 ขวบ เสียชีวิต จากกระสุนปืนที่ทะลุข้างฝาบ้าน ขณะกำลังนอนหลับอยู่ในมุ้ง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2558
คุณบ๊วย เล่าว่า คนที่ก่อเหตุชื่อ นายหนุ่ม ซึ่งมีเรื่องกับพี่ชายของตน ในวันที่เกิดเหตุได้บุกเข้ามาที่บ้าน หมายจะยิงพี่ชาย แต่กระสุนพลาดไปโดนลูกชายเสียชีวิต เหตุการณ์นี้ทำให้สุขภาพจิตของคนในครอบครัวย่ำแย่มาก และตลอดระยะเวลา 9 ปีที่เสียลูกยังไม่เคยลืม รวมถึงสิ่งที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ทำไว้กับครอบครัวด้วย
โดยหลังจากเกิดเหตุ ทนายตั้มได้เดินทางมาพร้อมกับ นายเบียร์ อดีตเลขาฯ ทนายตั้ม โดยอ้างว่า จะไปเกลี้ยกล่อมให้ผู้ก่อเหตุรับสารภาพ เพราะเห็นใจครอบครัวที่ต้องสูญเสียลูก และจะขอขึ้นไปดูจุดเกิดเหตุ แต่ตนไม่ยอมให้ขึ้นไปตรวจสอบ เพราะรู้ว่า นายหนุ่ม คนก่อเหตุนั้นมีศักดิ์เป็นพี่ชายของ นายเบียร์ ก็เลยไม่มั่นใจว่า ทนายตั้ม จะช่วยอย่างจริงใจ
และเมื่อวันที่ไปศาล ก็ได้เห็นทนายตั้มไปสนิทสนมกับฝั่งมือปืน จึงเชื่อว่าหากไม่มี ทนายตั้ม เข้ามายุ่งเหยิงกับคดี ผู้กระทำผิดจะได้รับโทษเป็นไปตามกฎหมายตั้งแต่แรก โดยศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกมือปืน แต่การเข้ามาพัวพันของ ทนายตั้ม ในคดีนี้ทำให้ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง ตนก็สงสัยว่า ทนายตั้ม มีการใช้เอกสารหรือสร้างหลักฐานอะไรบางอย่างไปอ้างกับศาลหรือไม่
การไปขึ้นศาลแต่ละครั้งทนายตั้มมากันเป็นทีม 4-5 คน มีคนถือของให้ราวกับเจ้าพ่อมาเฟีย ตนเคยบอกกับทนายตั้มว่า ทนายก็มีลูกเล็กเหมือนกัน น่าจะเข้าใจหัวอกกันบ้าง ที่ผ่านมาตนเป็นฝ่ายสูญเสีย แต่ต้องระแวดระวังในเรื่องการใช้โซเชียลฯ เป็นอย่างมาก เพราะความรู้สึกของคนในโซเชียลฯ ส่วนใหญ่ เห็นว่าทนายตั้มเป็นไอดอล ก็จะเชื่อแต่ทนายตั้ม ครั้งหนึ่งเคยไปออกรายการทีวี ตนเองกลับเป็นฝ่ายที่ถูกโซเชียลฯ รุมด่า
ตนรอคอยเวลานี้มานานแล้ว ทนายตั้มในคราบนักบุญ แต่แท้จริงแล้ว ทำนาบนหลังคน ได้ความร่ำรวย เบียดเบียนมาจากคนจน บนคราบน้ำตาของคนอื่น เพราะทุกคนที่ไปหาทนายตั้ม ก็แบบความทุกข์ไปหาอยู่แล้ว แต่ก็ต้องมาเจอทนายที่เอาแต่เงิน
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวในที่สุดคดีพลิก เพราะตนเองได้ไปขอความช่วยเหลือจาก นายอัจฉริยะ กระทั่งมีสื่อประโคมข่าวนี้ขึ้นมาอีกครั้ง ในที่สุดศาลฎีกาก็ได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ นายหนุ่ม ได้รับโทษจำคุก 25 ปี ในข้อหาฆ่าคนตาย
คุณบ๊วย กล่าวอีกว่า ตนไม่เคยให้อภัยทนายตั้มเลย ที่ผ่านมาเวลาเห็นช่วงที่ทนายตั้มตกเป็นข่าวในทางเสียหาย ก็จะรู้สึกว่า ฟ้ามีตา เวรกรรมมีจริง โดยตนมั่นใจว่าสิ่งนี้มันคือเวรกรรมที่ตามทันในชาตินี้
