“เบนซ์ เรซซิ่ง” เผยขณะอยู่ในเรือนจำ “ทนายตั้ม” เคยให้คนติดต่อมาว่าจะดูแลคดีให้ แต่เรียกค่าวิชาชีพ 10 กว่าล้านบาท อ้างเป็นคดีใหญ่ ต้องเข้าหาผู้ใหญ่ มีค่าใช้จ่ายประมาณนี้ แต่ตนไม่ตกลงเพราะต้องการสู้คดีด้วยข้อเท็จจริง
วันนี้(8 พ.ย.) นายอัครกิตติ์ วรโรจน์ หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง อดีตสามีของนักแสดงสาว “แพท ณปภา ตันตระกูล” ได้โฟนอินในรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทางช่อง 8 กรณีเคยถูกนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เรียกเงินหลักสิบล้านบาทแลกกับการช่วยเหลือทางคดีในอดีต ว่า เรื่องนี้ตนไม่ได้คุยกับทนายตั้มเป็นการส่วนตัว เพราะตอนนั้นก็สู้คดีอยู่ข้างใน แต่ที่ได้ยินมาก็มีการติดต่อกันว่า จะมาดูแลคดีให้ และอาจจะเรียกค่าวิชาชีพที่ในราคาค่อนข้างสูง ประมาณสิบกว่าล้านบาท แต่ตนไม่ได้คุยกับทนายตั้มโดยตรง เป็นการคุยผ่านบุคคลอื่นมา แต่ตอนนั้นมีทนายวิ่งมาหาหลายคน แต่ก็ไม่ได้ตกลงที่จะว่าจ้างทนายดังกล่าว
ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล หรือทนายแก้ว ผู้ร่วมรายการได้ถามว่า ค่าจ้าง 10 ล้านนั้น เขาการันตีเลยหรือ เบนซ์ เรซซิ่ง ตอบว่า เขา(ทนายตั้ม)บอกว่าคดีเป็นคดีค่อนข้างใหญ่ อาจจะต้องมีการไปหาผู้ใหญ่ มีค่าใช้จ่ายประมาณนี้ แต่โดยส่วนตัวตนต้องการสู้คดีด้วยข้อเท็จจริง เพราะฉะนั้นเอกสารหมาย จ.ที่นำไปให้เขาดู เขาไม่ได้เลือกดูเลย เขาเลือกที่จะเรียกค่าวิชาชีพมาก่อน
พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ หรือ ผู้การแต้ม ผู้ร่วมรายการอีกคน กล่าวเสริมว่า พฤติกรรมหลายคนพูดถึงทนายคนนี้ ชอบอ้างผู้ใหญ่ทุกครั้ง
ผู้การแต้มยังกล่าวอีกว่า ทนายบางคน เวลามีคดีดังๆ ในประเทศ คนจะเข้าไปทุกที พอเขารู้ช่อง จะเข้าไป และทนายบางคน ก็จะอ้างผู้ใหญ่ เรียกแพง และจะใช้เทคนิคในการต่อสู้คดี คือไม่ใช่ว่าความตามเนื้อคดี ก็จะใช้แบบนี้ร่วมทุกครั้ง แล้วถ้าไม่จ้างเขา เขาจะเอามาตีแผ่ทางทีวีเลย แล้วให้สื่อมวลชนไปล้อมแล้วพูด นี่คือวิธีการ และทนายบางคนมีอีก มีคนส่งข้อมูล และมาแถลงข่าว แถลงวันเดียว พรุ่งนี้ก็จบ เพราะอะไรไม่รู้มันหล่นทับปาก ก็หยุด ทนายบางคนก็เป็นแบบนี้