ปัจจุบันปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ไม่ได้เป็นแค่กระแส แต่กำลังเปลี่ยนแปลงโลกของเราอย่างรวดเร็ว ทั้งในทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรมและชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในภาคธุรกิจได้นำ AI มาใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น ในสหรัฐอเมริกามีการนำ AI มาใช้ในภาคอุตสาหกรรมถึง 25% ในปี 2567 ขณะที่ในประเทศไทย ตัวเลขจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ชี้ให้เห็นว่าการนำ AI มาใช้อยู่ในอัตราที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้มีการนำมาใช้ในสัดส่วน 17% และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 30% ในปีหน้า
“แม้ว่า AI จะมีศักยภาพสูง และสามารถจะนำมาซึ่งโอกาสมากมายในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ จนองค์กรภาคธุรกิจหลายแห่งไม่สามารถมองข้ามและหันมาใช้ AI เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการอย่างจริงจัง แต่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังขาดความเข้าใจและทักษะในการนำ AI มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ที่สำคัญคือ ผู้บริหารส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิดว่า AI จะเข้ามาแทนที่มนุษย์ได้ทั้งหมด ซึ่งเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง เพราะ AI ควรเป็นเครื่องมือที่ช่วยเสริมศักยภาพของคนทำงาน ไม่ใช่ทดแทน เพื่อแก้ไขปัญหาที่เป็นจุดอ่อนของธุรกิจ (Pain Point) นี้ PaM++ และ Connext AI จึงร่วมกันให้บริการปรึกษาด้าน AI Consulting และ AI Solutions เพื่อช่วยให้องค์กรต่างๆ วางแผนการนำ AI มาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านกระบวนการวิเคราะห์ความต้องการขององค์กรออกแบบโซลูชันที่เหมาะสม และให้คำแนะนำในการนำไปใช้งานจริง ซึ่งจะช่วยให้องค์กรสามารถลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และพิสูจน์ผลลัพธ์ที่วัดได้" นางสาวปนัสพร (แพม) นพศรี ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการของ PaM++ และ นายพิชชากร (อาร์ม) จันติ๊บแจ่ม CEO ของ Connext AI เล่าถึงจุดเริ่มต้น
การเปลี่ยน AI ให้เป็นมูลค่าทางธุรกิจที่จับต้องได้
การผสานความเชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์การตลาดของ PaM++ กับความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี AI ของ Connext AI ในการสร้างสรรค์โซลูชัน ที่ไม่เพียงแต่ช่วยให้องค์กรเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าได้ลึกซึ้งขึ้น แต่ยังสามารถนำข้อมูลเชิงลึกเหล่านั้นมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด ส่งผลให้ธุรกิจสามารถเพิ่มยอดขาย ลดต้นทุน และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
“เราเชื่อว่ากุญแจสำคัญในการนำ AI มาสร้างมูลค่าให้ธุรกิจ คือการช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าใจ AI อย่างถ่องแท้ และนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม เราจึงเริ่มต้นด้วยการให้ความรู้แก่ผู้บริหารระดับสูงเพื่อให้เข้าใจว่า AI ไม่ใช่มนุษย์และไม่สามารถทำงานทดแทนคนได้ 100% แต่เป็นเครื่องมือที่จะช่วยเสริมศักยภาพในการทำงาน ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การฝึกอบรม การทำ Workshop ร่วมกับผู้บริหารระดับสูง วิเคราะห์ปัญหาและความต้องการของธุรกิจ เพื่อออกแบบโซลูชัน AI ที่ตอบโจทย์เฉพาะ (AI Customization Solutions) เพื่อช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มยอดขาย ลดต้นทุน หรือสร้างความยั่งยืน” นางสาวปนัสพรกล่าว
ศักยภาพของ AI ในอุตสาหกรรมต่างๆ
นายพิชชากรอธิบายว่า “ปัจจุบันมีการนำ AI มาใช้ทั้งในภาคอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ทั้งการบริการ การค้าปลีก การผลิต ฯลฯ ซึ่งแต่ละอุตสาหกรรมมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ภาคการผลิตอาจใช้ AI ในการควบคุมคุณภาพ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และลดต้นทุนการผลิต ขณะที่ภาคการเงินอาจใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อคาดการณ์ความเสี่ยง การให้บริการที่ปรึกษาด้าน AI Consulting ของเราจะช่วยวิเคราะห์ธุรกิจของคุณอย่างละเอียด เพื่อค้นหาโซลูชัน AI ที่เหมาะสมที่สุด เมื่อ AI เข้ามาทำงานที่ซ้ำซากจำเจ พนักงานของคุณจะสามารถทุ่มเทเวลาไปสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างก้าวกระโดด”
AI สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่
• Generative AI (Gen AI) หรือ AI สร้างสรรค์ ที่สามารถสร้างเนื้อหาต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นข้อความ ภาพ หรือแม้แต่โค้ดโปรแกรม เช่น Chat GPT สามารถตอบคำถามและเขียนบทความได้ หรือ AI ในโรงงานสามารถสร้างคู่มือการใช้งานเครื่องจักรได้โดยอัตโนมัติ ส่วนในธุรกิจค้าปลีก GEN AI สามารถสร้างเนื้อหาทางการตลาดที่น่าสนใจ เช่น โฆษณา โปรโมชัน และคำอธิบายผลิตภัณฑ์ได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่ในธุรกิจบริการ สามารถนำข้อมูลลูกค้ามาวิเคราะห์และสร้างเนื้อหาที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละรายได้
• Narrow AI (NAI) เป็น AI ที่ถูกออกแบบมาให้เก่งเฉพาะทาง เช่น ระบบตรวจสอบคุณภาพสินค้าในโรงงานหรือระบบวินิจฉัยโรคจากภาพเอกซเรย์ ต่างจาก Generative AI ที่สามารถสร้างสรรค์เนื้อหาใหม่ๆ NAI มีจุดเด่นคือความแม่นยำและความเร็วในการทำงานเฉพาะด้าน ทำให้สามารถช่วยมนุษย์ในการทำงานที่ซับซ้อนและต้องใช้ความแม่นยำสูงได้เป็นอย่างดี เช่น การตรวจจับความผิดปกติในข้อมูลทางการเงินหรือการวิเคราะห์ภาพทางการแพทย์
• AI Customization หรือ AI ที่ปรับแต่งเฉพาะ คือการนำเอาเทคโนโลยี AI มาปรับใช้ให้เข้ากับความต้องการเฉพาะของธุรกิจโดยตรง ซึ่งจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงเป้าหมายและมีประสิทธิภาพสูงสุด เช่น การช่วยดูแลเรื่องการจัดการคลังสินค้า เป็นต้น นอกจากนี้ AI Customization ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในด้านอื่นๆ ได้อีกมากมาย เช่น ด้านการตลาด - การสร้างแคมเปญโฆษณาที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย หรือการแนะนำสินค้า ด้านการผลิต - การควบคุมคุณภาพ การบำรุงรักษาเครื่องจักร หรือการบริการลูกค้า - แชตบอต การวิเคราะห์ความรู้สึกลูกค้า เป็นต้น
การเอาชนะความท้าทายและอุปสรรคในการนำ AI มาใช้
แม้ AI จะนำมาซึ่งโอกาสมากมายในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายและโอกาสที่แท้จริงในการนำ AI มาประยุกต์ใช้ในธุรกิจ ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจและมีความสำคัญอย่างยิ่ง
นายพิชชากรกล่าวว่า “เนื่องจาก AI เป็นนวัตกรรมใหม่ ผู้คนส่วนใหญ่ยังขาดทักษะและความเข้าใจในการที่จะหยิบ AI มาใช้งาน โดยเฉพาะผู้บริหารระดับสูงยังขาดความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับ AI และวิธีการนำไปประยุกต์ใช้ให้ตรงกับวัตถุประสงค์ของงานได้มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง ขณะเดียวกันก็มีความคาดหวังที่ไม่สมจริง เพราะการคิดว่า AI จะสามารถทดแทนแรงงานมนุษย์ได้ทั้งหมด ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด รวมถึงเรื่องการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและความปลอดภัย ก็เป็นประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการนำ AI มาใช้”
“ดังนั้น การก้าวข้ามความท้าทายไปพร้อมกับการสร้างโอกาส ในยุคที่เทคโนโลยี AI ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำเนินธุรกิจ การมี 'AI Road Map' ที่ชัดเจนจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้ธุรกิจสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก การผนึกกำลังกันระหว่าง PaM++ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์ธุรกิจ และ Connext AI ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI Solution ทำให้เราสามารถมอบโซลูชันที่ครอบคลุมและตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจได้อย่างตรงจุด เราพร้อมที่จะเป็นคู่คิดในการขับเคลื่อนธุรกิจของคุณสู่ความสำเร็จในยุคดิจิทัลในทุกๆ ขั้นตอน ตั้งแต่การให้คำปรึกษาในการปรับใช้ AI ในธุรกิจ (AI Consulting) การทำโปรเจกต์เล็กๆ เป็น Pilot Project การฝึกอบรมบุคลากร (Training) การประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) การวิเคราะห์ข้อมูลและความต้องการของธุรกิจ การออกแบบและพัฒนาระบบ (AI Solution) ไปจนถึงการวางแผน AI Road Map ที่สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจของคุณเพื่อก้าวสู่โลก AI แห่งอนาคตได้อย่างประสบความสำเร็จแบบยั่งยืน” นางสาวปนัสพรกล่าวเสริม
อนาคตของ AI ในธุรกิจและบทบาทในการขับเคลื่อนโลก
นายพิชชากรแสดงความเห็นว่า “AI กำลังจะปฏิวัติวงการธุรกิจและโลกของเรา เช่นเดียวกับที่ไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ต ที่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราไปโดยปริยาย เป็นสิ่งจำเป็นซึ่งไม่มีไม่ได้ และผู้คนก็จะใช้ AI กัน เพราะถ้าใครไม่ใช้ก็จะตกยุค ในอนาคตที่โลกมีการแข่งขันมากขึ้น เราจะเห็น AI เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทุกภาคส่วนในธุรกิจมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการผลิต การบริการ หรือแม้แต่การบริหารจัดการองค์กร ธุรกิจทุกประเภทจะนำ AI มาประยุกต์ใช้เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดต้นทุน และสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากการเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจแล้ว AI ยังส่งผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง ช่วยให้เกิดความเท่าเทียมและลดความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยเฉพาะในด้านการศึกษา เนื่องจาก AI มีราคาไม่แพง ผู้คนสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ง่ายขึ้น จึงทำให้มีโอกาสในการเรียนรู้และเข้าถึงองค์ความรู้จากเทคโนโลยี AI ได้ง่ายขึ้น ส่วนบทบาทของมนุษย์ในยุค AI ในอนาคตนั้น มนุษย์จะทำงานร่วมกับ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ดังนั้น AI จึงไม่ใช่เรื่องน่ากลัว เพราะ ‘คนจะไม่ได้ถูกแทนที่ด้วย AI แต่คนที่ไม่ใช้ AI จะถูกแทนที่ด้วยคนที่ใช้ AI’”
นางสาวปนัสพรแสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า “AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต AI จะกลายเป็นวิถีชีวิตตามธรรมชาติ (Natural Way of Life) จากผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Alexa ที่คอยตอบคำถามและสั่งงานต่างๆ ให้เรา เช่น AI ช่วยวางแผนการเดินทางที่ชาญฉลาด ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย Smart Things AI บ้านอัจฉริยะ ช่วยควบคุมระบบไฟฟ้า แอร์ และอุปกรณ์ต่างๆ ในบ้านให้ทำงานอย่างอัตโนมัติ ไปจนถึงการนำ AI มาประยุกต์ใช้ในภาคธุรกิจ การตลาดและอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ
ในภาคธุรกิจและการตลาดสามารถใช้ AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต วางแผนการผลิตที่เหมาะสม ลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิต หรือใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างตรงจุด และใช้ AI ช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อวางแผนการตลาดที่ตรงเป้าหมายมากขึ้น แม้กระทั่งทางด้านการแพทย์ก็มีการนำ AI ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์เพื่อพัฒนายารักษาโรคใหม่ๆ และวินิจฉัยโรคได้แม่นยำยิ่งขึ้น ขณะที่ทางด้านการเงิน ใช้ AI ช่วยบริหารจัดการเงินทุน แจ้งเตือนเงินเข้า-ออก และช่วยป้องกันการฉ้อโกง
นอกจากนี้ AI ยังมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความยั่งยืนต่อประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลสภาพอากาศและปริมาณน้ำฝน เพื่อช่วยเกษตรกรวางแผนการปลูกพืชที่เหมาะสม ลดการใช้ปุ๋ยและยาฆ่าแมลง ส่งผลให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการนำ AI มาประยุกต์ใช้ในธุรกิจจะช่วยให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน AI สามารถพัฒนาอัลกอริทึมในการจัดการพลังงานในอาคาร ทำให้สามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้ AI ในการพัฒนาพลังงานสะอาด หรือการใช้ AI ในการจัดการขยะ AI สามารถพัฒนาอัลกอริทึมในการจัดการพลังงานในอาคาร ทำให้ธุรกิจสามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
การวางแผนและพัฒนากลยุทธ์ด้าน AI เพื่อให้ธุรกิจสามารถแข่งขันได้ในยุคดิจิทัล
"แม้ว่า AI จะเป็นเทรนด์โลก แต่การนำ AI มาใช้สำหรับภาคธุรกิจในประเทศไทยยังคงเป็นเรื่องใหม่และมีความท้าทายอยู่มาก ในยุคที่เทคโนโลยี AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกอุตสาหกรรม การมี AI Road Map ที่ชัดเจนจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับองค์กร หากคุณต้องการให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างยั่งยืนและมีความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก การลงทุนในการวางแผน AI Road Map ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้าน AI Consulting คือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด" นายพิชชากรกล่าว
"การนำ AI มาใช้ในธุรกิจเปรียบเสมือนการเตรียมบริษัทให้พร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่โลกแห่งอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วย AI ทุกองค์กรจำเป็นต้องมีการวางแผนและเตรียมความพร้อมอย่างรอบคอบ PaM++ และ Connext AI พร้อมเป็นที่ปรึกษาส่วนตัว (Service Consulting) ช่วยให้ธุรกิจของคุณพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เราจะร่วมกันวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน และวางแผนกลยุทธ์ในการนำ AI มาประยุกต์ใช้ เพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างยั่งยืน การมี AI Road Map ที่ชัดเจน เปรียบเสมือนการมีแผนที่นำทางที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณไปถึงเป้าหมายได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็ว" นางสาวปนัสพรกล่าวปิดท้าย
หากมีข้อสงสัยหรือสนใจที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชัน AI ของ PaM++ และ Connext AI ว่าจะช่วยให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จได้อย่างไร? สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.pamplusplus.com | อีเมล: answers@pamplusplus.com หรือพูดคุยกับเราได้ที่ +66 89 2445588