สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยสำนักสร้างเสริมระบบสื่อและสุขภาวะทางปัญญา ร่วมกับ We Oneness มูลนิธิสหธรรมิกชน จัดกิจกรรม Spiritual Health Talks ภายใต้หัวข้อ “FLOWER OF LIFE: แด่ดอกไม้ที่กำลังเบ่งบาน แด่ชีวิตที่กำลังเติบโต” ต่อยอดจากโครงการบ่มเพาะอินฟลูเอนเซอร์รุ่นใหม่จำนวน 13 คน ที่มุ่งติดอาวุธ เพิ่มทักษะความรู้ความสามารถด้านสุขภาวะทางปัญญาในทุกมิติ หวังต่อยอดสร้างขยายเป็นเครือข่าย “นักสื่อสารสุขภาวะทางปัญญา” เกิดเป็นพลังของคนรุ่นใหม่ที่ช่วยหนุนเสริม ส่งต่อแรงบันดาลใจและสร้างสรรค์สื่อเพื่อการเยียวยาใจให้กับสังคมที่กำลังเผชิญหน้ากับความทุกข์และการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน
เมื่อวันที่ 4 พ.ย. นางญาณี รัชต์บริรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมระบบสื่อและสุขภาวะทางปัญญา สสส. กล่าวว่า ปัจจุบันสังคมกำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ผันผวนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในหลายๆ ด้าน หลายอย่างบีบรัดให้คนในสังคมเริ่มมีความทุกข์ เกิดความกดดันและความเครียดจากการมุ่งทำสิ่งต่างๆ รวมถึงการแข่งขันกันเพื่อประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วที่สุด เราเผชิญหน้ากับความขัดแย้งและอคติระหว่างกลุ่มคนต่างๆ และการสูญเสียความรู้สึกถึงคุณค่าและความหมายของชีวิตที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ ภายใต้โครงการบ่มเพาะอินฟลูเอนเซอร์รุ่นใหม่ สสส.ส่งเสริมให้เกิดกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ที่มีทักษะในด้านสุขภาวะทางปัญญา นำประสบการณ์ของตนเองไปสื่อสาร บอกกล่าว และสร้างสรรค์สื่อบนโลกออนไลน์ที่จะช่วยลดปัญหาที่รุมเร้าอยู่ในขณะนี้ให้กับคนในสังคมในฐานะนักสื่อสารสุขภาวะทางปัญญา สสส.เชื่อว่าอินฟลูเอนเซอร์ทั้ง 13 คนจะเป็นเมล็ดพันธุ์แห่งสุขภาวะทางปัญญา ที่จะไปเติบโต สานต่อ เป็นเครือข่ายที่เข้มแข็ง สร้างสังคมสุขภาวะที่ดีทั้งในโลกจริงและโลกออนไลน์ต่อไปได้อย่างแน่นอน”
นายอิทธิศักดิ์ เลอยศพรชัย ผู้ร่วมก่อตั้ง/หัวหน้าโครงการ We Oneness ประธานกรรมการมูลนิธิสหธรรมิกชน กล่าวว่า อินฟลูเอนเซอร์ทั้ง 13 คน เป็นคนรุ่นใหม่ที่ทำคอนเทนต์ด้านจิตใจ จิตวิญญาณ และการพัฒนาตนเองมาอย่างต่อเนื่อง ทุกคนมีการทำคอนเทนต์ที่ทำให้ผู้ติดตามและแฟนคลับมีความสุขในชีวิต ทางโครงการจึงร่วมกับ สสส.เชิญมาร่วมเรียนรู้สุขภาวะทางปัญญา เพื่อที่จะช่วยเหลือเกื้อกูลกันในการสื่อสารส่งต่อสุขภาวะทางปัญญาสู่สังคม โครงการบ่มเพาะ Spiritual Health Influencer เพื่อยกระดับเครือข่าย Influencer ที่สื่อสารคอนเทนต์เกี่ยวกับจิตวิญญาณและจิตใจ เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดสังคมสุขภาวะในระดับตนเอง ครอบครัว ชุมชน หน่วยงาน และในระดับประเทศ หลังจากเสร็จสิ้นการจัดกิจกรรมจะมีการส่งต่อสุขภาวะทางปัญญาจากประสบการณ์ชีวิตของน้องๆ อินฟลูเอนเซอร์ไปสู่แฟนคลับที่เป็นคนรุ่นใหม่ และมีการสื่อสารออกไปว่าตอนนี้สังคมไทยเราเริ่มมีเครือข่าย Spiritual Health Influencer ที่สื่อสารคอนเทนต์เกี่ยวกับสุขภาวะทางปัญญาอย่างสร้างสรรค์ และเป็น Community สำหรับอินฟลูเอนเซอร์และบุคคลทั่วไปที่สนใจเรียนรู้สุขภาวะทางปัญญามาเกื้อกูลกันในระดับ บุคคล ชุมชน และระดับประเทศต่อไป
นายนพพันธ์ บุญใหญ่ วิทยากรด้าน Storytelling ของกิจกรรมนี้ กล่าวว่า โครงการบ่มเพาะอินฟลูเอนเซอร์รุ่นใหม่มีความสำคัญกับน้องๆ อินฟลูเอนเซอร์ทุกคนมาก เพราะเป็นประสบการณ์ใหม่ในชีวิตที่ต่างจากเดิม คือที่ผ่านมาเขาได้สื่อสารกับกลุ่มแฟนคลับ กลุ่มผู้ชมเป็นแบบสื่อสารทางเดียว One Way Communication ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลและเครื่องมือการสื่อสารต่างๆ แต่ในกิจกรรมที่จัดขึ้นโดยการสนับสนุนจาก สสส.ครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้พวกเขาได้ขึ้นเวที ได้พูดคุยกับผู้คนที่อยู่ตรงหน้า เป็นการสื่อสารแบบ Two Way Communication เป็นการเพิ่มทักษะการสื่อสารอีกหนึ่งอย่าง ได้เปิดโลกอีกใบให้พวกเขาได้ฝึก ได้เรียนรู้ ไปอีกขั้น และสำคัญที่สุดคืองานที่จัดขึ้นครั้งนี้น้องๆ อินฟลูเอนเซอร์ได้โชว์ ได้ทอล์กบนเวที โดยนำเรื่องราวและประสบการณ์ส่วนตัวมาแชร์ มาเล่า แบบที่มีแฟนๆ มีคนดู ก็เท่ากับว่าทั้งสองฝ่ายได้มีประสบการณ์ดีๆ ร่วมกัน ได้เรียนรู้ ได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน ได้ฮีลใจ สร้างแรงบันดาลใจให้แก่กันและกัน