กทม.จ่อบังคับฝังชิปสุนัข แมว ทุกตัว หวังแก้ปัญหาสัตว์จรจัด พร้อมเพิ่มหน่วยเคลื่อนที่ทำหมันสัตว์จรจัด รวมถึงมีมาตรการควบคุมสุนัขที่ดุเป็นพิเศษ หรือมีประวัติทำร้ายคน
เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ประชุมสภากรุงเทพมหานครมีมติเห็นชอบร่างข้อบัญญัติ เรื่องการควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. … โดย นายนภาพล จีระกุล สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตบางกอกน้อย ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร
โดยระบุเหตุผลว่า เพื่อกำหนดเขตควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ และเป็นการป้องกันเหตุเดือดร้อนรำคาญและอันตรายจากเชื้อโรคที่เกิดจากสัตว์ กทม.สมควรปรับปรุงข้อบัญญัติว่าด้วยการควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.การสาธารณสุข (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560 ประกอบกับมาตรา 97 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 จึงจำเป็นต้องตราข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครนี้
การควบคุมการเลี้ยงสุนัขและแมว โดยให้กทม.เป็นเขตห้ามเลี้ยงสุนัขและแมวเกินจำนวนที่กำหนด เช่น พื้นที่อาคารชุดหรือห้องเช่า 20-80 ตารางเมตรขึ้นไป เลี้ยงได้ไม่เกิน 1 ตัว หากเกินเลี้ยงได้ไม่เกิน 2 ตัว ที่ดินไม่เกิน 20 ตร.ว. เลี้ยงได้ไม่เกิน 2 ตัว เนื้อที่ดิน 20-50 ตร.ว. เลี้ยงได้ไม่เกิน 3 ตัว เนื้อที่ดิน 50-100 ตร.ว. เลี้ยงได้ไม่เกิน 4 ตัว เนื้อที่ดิน 100 ตร.ว.ขึ้นไป เลี้ยงได้ไม่เกิน 6 ตัว
รวมทั้งใบรับรองการจดทะเบียนต้องดำเนินการ เจ้าของต้องนำสัตว์เลี้ยงไปทำเครื่องหมายระบุตัวอย่างถาวรจากสัตวแพทย์ โดยการฝังไมโครชิปตามมาตรฐานที่ กทม.กำหนด พร้อมนำใบรับรองไปแจ้งเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุขสำนักอนามัยหรือสำนักงาน
นอกจากนี้ยังมีการกำหนดสุนัขควบคุมพิเศษ ประกอบด้วย พิตบูลเทอร์เรีย บูลเทอร์เรีย สเตฟอร์ดเชอร์บูลเทอร์เรีย รอตไวเลอร์ ฟิลาบราซิเลียโร รวมถึงสุนัขที่มีประวัติทำร้ายคนหรือพยายามทำร้ายคน เมื่อออกนอกสถานที่เลี้ยงต้องใส่อุปกรณ์ครอบปาก ใช้สายจูงที่มั่นคงแข็งแรง และจับสายจูงห่างจากคอสุนัขไม่เกิน 50 เซนติเมตรตลอดเวลา
นายนภาพลกล่าวว่า จะมีการใช้ข้อบังคับให้สุนัขและแมวต้องมีการฝังไมโครชิป เพื่อให้ทราบเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่ต้องดูแลรับผิดชอบ ซึ่งจะแก้ปัญหาสัตว์เลี้ยงสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ผู้อื่น รวมถึงสำนักอนามัยมีหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการทำหมันสัตว์จรจัดในแต่ละพื้นที่เพื่อลดจำนวนสัตว์จรจัด และในส่วนของสุนัขที่มีความดุร้ายสร้างความเดือดร้อน หน่วยงานจะนำไปไว้ที่ศูนย์ควบคุมและพักพิงสุนัขของ กทม.ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่เขตประเวศ ส่วนกรณีที่ต้องการเลี้ยงเป็นคู่เพื่อผสมพันธุ์สัตว์หรือประกอบธุรกิจนั้น สามารถขออนุญาตเพิ่มเติมได้ตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข
โดยที่ประชุมสภา กทม.มีมติเห็นชอบร่างข้อบัญญัติดังกล่าว และจะเสนอร่างดังกล่าวให้ผู้ว่าฯ กทม.ลงนามประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยจะมีผลบังคับใช้วันถัดไปหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา 360 วัน
หากฝ่าฝืนจะมีบทลงโทษตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 หมวดที่ 8 ข้อ 34 และจะมีการใช้ข้อบังคับให้สุนัขและแมวต้องมีการฝังไมโครชิป เพื่อให้ทราบเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่ต้องดูแลรับผิดชอบอีกด้วย ซึ่งจะลดและแก้ปัญหาสัตว์เลี้ยงสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ผู้อื่น รวมถึงสำนักอนามัยมีหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการทำหมันสัตว์จรจัดในแต่ละพื้นที่เพื่อลดจำนวนสัตว์จรจัด และในส่วนของสุนัขที่มีความดุร้ายสร้างความเดือดร้อน หน่วยงานของกรุงเทพมหานครจะนำไปไว้ที่ศูนย์ควบคุมและพักพิงสุนัขกรุงเทพมหานคร ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่เขตประเวศ ส่วนกรณีที่ต้องการเลี้ยงเป็นคู่เพื่อผสมพันธุ์สัตว์หรือประกอบธุรกิจนั้น สามารถขออนุญาตเพิ่มเติมได้ตาม พ.ร.บ. การสาธารณสุข
“ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. ... ขอขอบคุณสมาชิกสภากรุงเทพมหานครทุกท่าน เมื่อข้อบัญญัติฯ นี้ได้ประกาศใช้ จะสามารถแก้ไขปัญหาสัตว์เลี้ยง สัตว์จรจัด สัตว์ดุร้ายที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญในกรุงเทพมหานครได้ เพื่อทำให้กรุงเทพมหานครมีความปลอดภัยกับประชาชน” นายนภาพลกล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ ร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. ... คณะกรรมการวิสามัญฯ พิจารณาแล้วมีการแก้ไขในข้อต่างๆ จากข้อบัญญัติเดิมเพื่อให้สอดคล้องเหมาะสมกับปัจจุบัน และสภากรุงเทพมหานครมีมติเห็นชอบให้ประกาศใช้ร่างข้อบัญญัติฯ ดังกล่าว และจะส่งให้ฝ่ายบริหารกรุงเทพมหานครพิจารณาดำเนินการต่อไป