xs
xsm
sm
md
lg

คุณอ้อยจ่อฟ้องซ้ำตั้ม เปิดข้อมูลส่วนตัว ทำชีวิตไม่ปลอดภัย เลขาฯ ไม่ได้ยุ ย้ำมีสมอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คุณน้อย เลขานุการส่วนตัวของคุณอ้อย เผยจ่อฟ้องทนายตั้มอีกคดี เรื่องเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว หลังเปิดภาพทำให้ครอบครัวอยู่ลำบาก ชีวิตไม่ปลอดภัย ทั้งที่ต่างประเทศเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ไม่กลัวจะถูกฟ้องแจ้งความเท็จ พร้อมสู้ทุกอย่าง ย้ำทำตามหน้าที่ มีสมองเป็นของตัวเอง ไม่ได้ยุให้ทะเลาะกัน ถามเบี่ยงเบนประเด็นหรือเปล่า

วันนี้ (30 ต.ค.) เฟซบุ๊ก "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" หรือ Sondhitalk เผยแพร่วิดีโอคลิป น.ส.ปัทมพร แสงฤทธิ์ หรือคุณน้อย เลขานุการส่วนตัวของ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย เศรษฐินีเจ้าของธุรกิจที่ประเทศฝรั่งเศส ที่แจ้งความดำเนินคดีต่อนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ในข้อหาฉ้อโกงจากการชักชวนให้ลงทุนธุรกิจลอตเตอรี่ออนไลน์ จำนวน 2 ล้านยูโร หรือประมาณ 71 ล้านบาท ให้สัมภาษณ์ต่อ นายนพรัตน์ พรวนสุข บรรณาธิการข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ ที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่ง เป็นตอนที่ 2 หัวข้อ "ตั้มผยอง ตีหมาไม่ดูเจ้าของ" และตอนที่ 3 หัวข้อ "ให้มากก็เจ็บมาก เจ๊อ้อยเพิ่มข้อหา ตั้มปูดข้อมูลส่วนตัว!" หลังจากเมื่อวานนี้เผยแพร่คลิป "จากปากเลขาฯ เจ๊อ้อย ทนายตั้มพูดไม่จริง"

อ่านประกอบ : เลขาฯ คุณอ้อยยันทำตามคำสั่ง ไม่ได้ยุยงปลุกปั่น เผยทนายตั้มเคือง ไม่อยากร่วมทริปฟินแลนด์ 

ในตอนที่ 2 คุณน้อยกล่าวว่า พอคุณอ้อยไปรับที่สนามบินแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี คุณอ้อยไม่เห็นตน ก็ถามว่าแล้วน้อยไปไหน ทำไมน้อยไม่มา พอกลุ่มนายษิทราบอกว่าพี่น้อยยกเลิกเที่ยวบินทุกอย่าง ไม่มา คุณอ้อยถามว่า เรื่องอะไร ก่อนจะร้องไห้ เสียใจมากว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้ ที่ผ่านมาเรื่องรถเบนซ์ตนรายงานคุณอ้อยตลอด

เมื่อถามว่า นายษิทราพลาดตรงที่ตีหมาไม่ดูเจ้าของ คุณน้อยหัวเราะกับสำนวนเบาๆ กล่าวว่า ตนยอมเขาทุกอย่าง ดูแลเขาอย่างดีทุกเรื่อง พอไปถึงคุณอ้อยบอกว่า "ใครออกจากชีวิตเขาได้ทุกคน ยกเว้นน้อย" ภรรยานายษิทราก็แชตมาเลย "พี่น้อยคะ หนูขอโทษ" โน่นนี่นั่นเต็มไปหมด ตนไม่อ่านแล้ว มันหมดเวลาที่เราจะคุยกันแล้ว ถ้าคุณแยกแยะเรื่องงานไม่ออก เราก็ไม่คุยแล้ว

ถามว่า จากเรื่องรถเบนซ์ คุณอ้อยไม่ไว้ใจแล้วใช่หรือไม่ ถึงสั่งให้ไปหาทนายความคนใหม่ คุณน้อยกล่าวว่า ใช่ คุณอ้อยเริ่มไม่โอเคแล้ว ทำไมไม่ตรงไปตรงมา ไม่โปร่งใส ติดขัดอะไรก็บอกคุณอ้อยไปตรงๆ ก็จะได้รู้ ไม่ใช่ถามอะไรก็ไม่ให้ข้อมูลอะไรสักอย่าง แล้วเอกสารพวกนี้ตนก็ทำไปตามระบบของที่ว่าจ้าง ตนก็ทำตามหน้าที่ตัวเอง ต้องทำงานให้มีประสิทธิภาพ ในการทำงานอย่าให้ใครมาว่าเราได้ คือเงินเขาบาทหนึ่ง สลึงหนึ่ง แม้แต่เงินบริจาค ตนมีเอกสารครบหมดทุกอย่าง ใส่แฟ้มไว้ทุกเรื่อง ทุกรายการมีครบหมด

แม้แต่การท่องเที่ยวที่ตนออกให้ทนายตั้ม ทุกอย่างใส่เอกสารหมด แล้วแคปฯ หน้าจอทุกอย่างแปะไปว่ายอดเท่าไหร่ ตนจะไม่ให้คุณอ้อยมาบอกว่า น้อย เงินฉันหายไปไหน อะไรยังไง เราต้องชี้แจงเขาทุกยอด ไปกินอะไรตนบอกว่าให้ตั้มจ่ายไปก่อนเลย เพื่อที่ไม่ให้แฟนคุณอ้อยรู้สึกไม่ดีว่าทำไมทุกคนไปรุมกินกับเขา ให้เขาจ่าย ตนบอกว่าตั้มจ่ายไปก่อนเลยนะ เดี๋ยวกลับมาตั้งเบิกที่พี่ แล้วตนยังดีไม่พอเหรอ กลับมาเบิกยอด 400,000-500,000 บาท ก็ให้หมด ตั๋วเครื่องบิน 1 ล้านบาท ไม่ทอน ค่าตั๋วเท่าไหร่ ใบเสร็จตนไม่เคยได้ แล้วก็เรื่องค่าแบบ ขอแบบก็ไม่ได้ ขอแบบบ้านเดวิดก็ไม่ได้ ตนก็ตาม คุณอ้อยกับแฟนก็บอกว่า คุณพูดภาษาไทยได้ ทำไมคุณตามไม่ได้ มันก็เลยเป็นปัญหา

เมื่อถามว่า ใครเป็นคนบอกเลิกสัญญานายษิทรา คุณน้อยกล่าวว่า คุณอ้อยบอกให้ทำหนังสือบอกเลิกจ้าง ตนไม่ได้เป็นคนคิดอะไรทั้งนั้น คุณอ้อยเป็นคนสั่งตนทั้งหมด ตนไม่เคยทำอะไรนอกเหนือคำสั่งหรือโดยพลการ อันนี้ต้องไปถามคุณอ้อยเอง

เมื่อถามว่า ทำไมนายษิทราถึงมาโยนความผิดให้คุณน้อยว่าเป็นต้นเหตุของการยุยงปลุกปั่นให้เกิดการทะเลาะกัน และทวงเงินที่ให้มาโดยเสน่หาคืน คุณน้อย กล่าวว่า เบี่ยงเบนหรือเปล่า หรือว่าหาคนรับผิดชอบหรือเปล่า ตนก็ไม่รู้ ก็มีประเด็นกันอยู่ ประเด็นที่มีปัญหาไม่ใช่เรื่องส่วนตัว เป็นเรื่องงาน เรื่องของคุณอ้อย คุณอ้อยดูแลคุณ คุณก็ทำตามหน้าที่คุณไป เราทำหน้าที่เราไป คุณอ้อยจะเอาเล่ม (ใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์) ตนก็ต้องไปหาเล่มมา

เมื่อถามว่า ถ้านายษิทราจะฟ้องคุณอ้อยในข้อหาแจ้งความเท็จ คิดว่าเป็นยังไง กลัวไหม คุณน้อยกล่าวว่า ไม่กลัว ก็สู้ด้วยหลักฐาน ตนก็ชี้แจง ตั้งแต่รู้จักนายษิทราในวันแรกที่ไปตามหา ตนมีข้อมูลทุกอย่าง ไม่ได้กล่าวอ้างลอยๆ ว่าไม่ถูกกันแล้วจะมาทำแบบนั้น เมื่อถามว่า ถ้านายษิทรามาขอคืนดี กราบขอขมาคุณอ้อยแล้วจะใจอ่อน ถอนฟ้องแล้วเรื่องก็จบไปไม่ต้องคืนเงิน เป็นไปได้ไหมจะยอมความกัน คุณน้อยถามว่า "ไม่ค่ะ" ถามว่าพูดเองหรือคุณอ้อย คุณน้อยตอบว่า คุณอ้อยพูด

ส่วนตอนที่ 3 เมื่อถามว่าถ้าจะขอชดใช้เงิน ทางฝั่งคุณอ้อยจะถอนฟ้องหรือไม่ คุณน้อยกล่าวว่า อันนี้ตนว่าต้องไปถามคุณอ้อยเอง แต่เท่าที่พูดมาแกไม่ถอน เพราะเอาเรื่องครอบครัวแกมาเปิดเผย ทุกอย่างเอาออกสื่อ ซึ่งคนที่ต่างประเทศไม่มีใครรู้ มันกลายเป็นว่าให้คุณอ้อยอยู่ลำบาก แล้วไม่มีใครรู้นอกจากนายษิทรากับตนและคนในครอบครัว

เมื่อถามว่า ได้ข่าวว่าคุณอ้อยจะฟ้องอีกข้อหาหนึ่งในประเด็นเอาข้อมูลส่วนตัวมาเปิดเผยต่อสาธารณชน คุณน้อยกล่าวว่า ใช่ คุณอ้อยสั่งทนายลงไปแล้ว ตอนที่มีภาพออกมา แล้วครอบครัวอยู่ลำบาก เหมือนต่างประเทศความปลอดภัยมันจะไม่มี คุณอ้อยไม่ได้เปิดเผยตอนที่แกอยู่ที่ต่างประเทศ สั่งทุกคนว่าทุกอย่างให้เป็นไพรเวตหมด ห้ามเปิดเผย แม้แต่ล่ามที่ต่างประเทศก็ไม่เคยเอามาเปิดเผยเรื่องนี้ แล้วจู่ๆ นายษิทรามีข้อมูลคุณอ้อย เป็นที่ปรึกษา ก็รู้ทั้งรู้ว่าข้อมูลพวกนี้เอามาเปิดเผยไม่ได้ ทำไมถึงเอามาเปิดเผย มันเป็นเรื่องส่วนตัวนะ

"จริงๆ พี่อ้อยจะจบแค่ 71 ล้านนะ ประเด็นคือแกก็แค่ขอเงินคืน อันนั้นก็มาไกล่เกลี่ยกันสิ ภายใน 7 วันที่ยื่นโนติสไป มาคุยกัน มาเจรจากัน มันจะไม่มีประเด็นมาเลย ทีนี้พอมันมามีปัญหากันขึ้นมาอย่างนี้ คือพี่ถูกมองไม่ดี และพี่อ้อยเขาก็เลยไม่ยอม เขาก็รวบทุกอย่างจะเปิดหมด ... พี่อยากจะบอกนะคะว่า พี่ไม่ได้ยุยงส่งเสริมในทางให้ร้ายตั้มเลยนะคะ พี่อ้อยมีสมองเป็นของตัวเอง ไม่งั้นเขาไม่ผ่านร้อนผ่านหนาวไปอยู่ต่างประเทศได้ อยู่ต่างประเทศมา 30 ปี ไม่งั้นเขาผ่านมรสุมชีวิตไม่ได้หรอกค่ะ"









@sondhitalk เปิดใจพี่น้อย เลขาพี่อ้อย (ภาคต่อ) หลังจากมีเรื่องขัดเคืองใจกันระหว่างพี่น้อยกับทนายตั้ม คุณนพรัฐ พรวนสุข บรรณาธิการอาวุโสเครือผู้จัดการ-News1 สัมภาษณ์จากเซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่ง #sondhix #sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #ทนายตั้ม #ตีหมาไม่ดูเจ้าของ ♬ เสียงต้นฉบับ - sondhitalk


@sondhitalk เปิดใจพี่น้อย เลขาพี่อ้อย (ภาคจบ) รักมาก ก็เจ็บใจมาก พี่อ้อย เพิ่มข้อหาให้ทนายตั้มอีก โดยคุณนพรัฐ พรวนสุข บรรณาธิการอาวุโสเครือผู้จัดการ-News1 #sondhix #sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #ทนายตั้ม #ให้มากเจ็บมาก ♬ เสียงต้นฉบับ - sondhitalk

กำลังโหลดความคิดเห็น