เปิดสัมภาษณ์ "สนธิ" คุยกับ "คุณอ้อย" คู่กรณีทนายตั้มฟ้องคดีฉ้อโกง 71 ล้านบาท ลั่นสายไปแล้ว ไม่รับขอขมา ไม่มีทางหยุดคดี เตรียมเดินสุดซอย ร้องสภาทนายความถอดออกจากทนาย และร้องสรรพากรสอบเลี่ยงภาษี ปูดเบื้องหลังมีขบวนการฟอกเงิน เตือนไปทำอะไรใครไว้ เวรกรรมกำลังตามอยู่
วันนี้ (30 ต.ค.) เฟซบุ๊ก "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" หรือ Sondhitalk เผยแพร่วิดีโอคลิป นายสนธิ ลิ้มทองกุล พูดคุยกับ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย เศรษฐินีเจ้าของธุรกิจที่ประเทศฝรั่งเศส ที่แจ้งความดำเนินคดีต่อนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ในข้อหาฉ้อโกงจากการชักชวนให้ลงทุนธุรกิจลอตเตอรี่ออนไลน์ จำนวน 2 ล้านยูโร หรือประมาณ 71 ล้านบาท
คำถามแรก นายสนธิถามว่า มีคนสงสัยว่าถ้าทนายตั้มมากราบเท้าแล้วขอขมาคุณอ้อย อาจจะใจอ่อนและยอมถอดเรื่องราว ถามตรงนี้ให้ชัดเจนว่าคุณอ้อยว่ายังไง คุณอ้อยกล่าวว่า "สายไปแล้วค่ะ" ถามว่าไม่มีทางแล้วใช่ไหม คุณอ้อยกล่าวว่า "ไม่มีทาง"
คำถามที่สอง มีคนปล่อยข่าวว่านายสนธิรับเงินรับทอง รับงานคุณอ้อยมา มีความเป็นไปได้ไหมที่นายสนธิรับเงินมาเพื่อจัดการทนายตั้ม นายสนธิกล่าวว่า คุณอ้อยให้ของผมมา ผมยอมรับ และผมก็รับเพียงแค่นี้ ได้แก่ ไวน์ชาโตลาฟิต (Chateau Lafite) ปี 2021 เป็นไวน์ที่ดีมาก แต่เผอิญผมไม่ดื่มไวน์ และช็อกโกแลตอีก 1 ถุง นี่คือทั้งหมดที่คุณอ้อยให้ผม
ผมให้สัจจะปฏิญาณเลยกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ผมจะไม่มีวันที่จะขอตังค์คุณอ้อย ถ้าผมผิดคำพูด ผมขอให้พินาศฉิบหายไปเลย เพราะผมทำงานชิ้นนี้ ผมอยากจะให้คุณอ้อย ผมเล่าให้ฟังแล้วกันและคุณอ้อยสามารถยืนยันได้ว่าสิ่งที่ผมพูดจริงหรือไม่จริง ผมนั่งอยู่เฉยๆ ก็มีคนมาบอกผม ว่ามีคนที่อยู่ต่างประเทศคนหนึ่งถูกทนายตั้มฉ้อโกงไปด้วยเงินประมาณ 2 ล้านยูโร 70 กว่าล้านบาท แล้วเจ้าทุกข์เขาแจ้งความแล้ว ก็เลยจะมาปรึกษาผม เห็นว่าผมเป็นขาใหญ่ในวงการที่ไม่มีใครซื้อตัวผมได้ นั่นคือทนายของคุณอ้อยเข้ามาเล่าให้ฟัง
นายสนธิถามว่า ผมไม่เคยเจอและไม่เคยรู้จักคุณอ้อยเลยใช่ไหม คุณอ้อยกล่าวว่า "ใช่ค่ะ ไม่เคย" นายสนธิกล่าวว่า ผมพูดกับทนาย บอกว่า โอเค รับเรื่องไว้ แต่ผมต้องเจอคุณอ้อยให้ได้ ผมบอกว่าถ้าคุณอ้อยไม่สะดวกที่จะมาเมืองไทย ผมจะส่งคุณนพรัตน์ พรวนสุข (บรรณาธิการข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ) ไปที่ฝรั่งเศส พร้อมทีมงานเพื่อไปสัมภาษณ์คุณอ้อย ให้รู้ชัดเจนว่าสิ่งที่กล่าวหานั้นมาจากปากคุณอ้อย เผอิญคุณอ้อยก็เดินทางมาที่ประเทศไทย มาปากช่อง ปีหนึ่งมา 3-4 ครั้ง ก็เลยได้นัดกันโดยที่เขาแวะมาหาผมที่บ้านพระอาทิตย์ ทั้งหมดนี้ใช่ไม่ใช่ คุณอ้อยตอบว่า "ใช่ค่ะ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น"
นายสนธิกล่าวว่า ผมเคยพูดไปแล้ว ผมเป็นคนปฏิบัติธรรมทุกวัน ผมก็ถามคุณอ้อยว่า พี่อ้อยห้อยพระอะไร คุณอ้อยบอกว่า ไหว้ท้าวเวสสุวรรณอยู่องค์เดียว แต่ไหนแต่ไรมาแล้ว เผอิญในห้องพระมีมุมมุม หนึ่ง ซึ่งผมบูชาท้าวเวสสุวรรณ ผมก็นึกเออใช่ ผมก็กราบท้าวเวสสุวรรณ ผมก็เลยให้คุณอ้อยขึ้นไปกราบท้าวเวสสุวรรณ ใช่ไม่ใช่คุณอ้อย คุณอ้อยตอบว่า "ใช่ค่ะ" นายสนธิกล่าวว่า คุณอ้อยเข้าไปกราบแล้ว คุณอ้อยบอกว่าขนลุกซู่เลย เพราะว่าท่านรับทราบแล้ว ผมเห็นความศรัทธาที่คุณอ้อยมีต่อท้าวเวสสุวรรณ ผมก็เลยแบ่งท้าวเวสสุวรรณองค์หนึ่งให้คุณอ้อยตามรูปที่เราลงไป ใช่ไม่ใช่ คุณอ้อยกล่าวว่า "ใช่ค่ะ" นายสนธิกล่าวว่า ทั้งหมดนี้มีอยู่แค่นี้ใช่ไหม คุณอ้อยกล่าวว่า "ใช่ค่ะ"
นายสนธิกล่าวว่า ทนายตั้มแกว่งเท้าหาเสี้ยน หาเรื่องหาราว ผมไม่ใช่คู่กรณีกับมัน เป็นคุณอ้อยกับมัน มิหนำซ้ำแล้วยังมีทีมงานของหมาตัวไหนก็ไม่รู้ โทรศัพท์ไปข่มขู่พยาน 2 คน ข่มขู่แบบรู้นะว่ามีลูกเรียนอยู่โรงเรียนอนุบาล 2 คนใช่ไหม ทั้งหมดนี้เป็นข้อเท็จจริง ถ้าผมพูดอะไรไม่จริงให้คุณอ้อยตอบเลยว่าไม่จริง ผมเชื่อว่าคุณอ้อยตอบว่าทุกอย่างตรงนี้จริงหมด จริงไหมครับคุณอ้อย คุณอ้อยตอบว่า "จริงค่ะ"
ทีมงานถามว่า อยากให้คุณอ้อยพูดถึงตอนเจอนายสนธิครั้งแรก คุณอ้อยกล่าวว่า มากับทีมของทนายเอง เข้ามาพบคุณสนธิ ไม่ได้ผ่านคุณสนธิบอกให้มานะ ไม่มี มาด้วยความประสงค์ของตัวเองตรงๆ นายสนธิ ถามว่า แล้วผมเคยรีดไถอะไร คุณอ้อย กล่าวว่า "ไม่ค่ะ ใจดีมาก" นายสนธิกล่าวขอบคุณเรื่องไวน์และช็อกโกแลต ทั้งหมดนี้คือค่าจ้างที่คุณอ้อยให้ผม ถามว่าพี่อ้อยให้อะไรผมไหม ให้ ให้ไวน์ 1 ขวด และช็อกโกแลต 1 ถุง
นายสนธิกล่าวว่า เรื่องของทนายตั้มนั้นคุณอ้อยมีจุดเริ่มต้น ตอนนี้ลุกลามเป็นไฟลามทุ่ง มีคนมากมายออกมาร้องเรียนแล้วตอนนี้ ทุกเรื่อง ทุกแง่มุม ทุกมิติ ผมจะเรียนให้คุณผู้ชมทราบ และนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทราบ ผมไม่เคยทะเลาะกับใคร แต่ใครอย่ามาทะเลาะกับผม นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ทะเลาะกับผม รับงานมา ผมไม่หยุดเลย จนกระทั่งนายชูวิทย์หนีไปสกอตแลนด์แล้ว เก็บตัวเงียบ นายษิทราผมเคยพูดว่าเป็นเด็กเมื่อวานซืน มาทะเลาะกับผม แล้วด่าผมใช้คำพูดหยาบคายว่า ไอ้ลิ้ม ผมจะบอกนายษิทราว่า ผมจะเดินสุดซอยกับคุณ ไม่ต้องมาขออะไรกับผมแล้ว และไม่มีใครไปขออะไรผมได้
สิ่งแรกที่ผมจะทำ ผมกำลังจะร้องเรียนสภาทนายความอาทิตย์หน้า ให้ถอดถอนออกจากการเป็นทนาย เพราะผิดจริยธรรมทนายอย่างมาก พ้นอาทิตย์หน้าอีกอาทิตย์หนึ่ง ผมจะเรียบเรียง ร้องเรียนไปที่กรมสรรพากร เรื่องที่หนีภาษีหลายเรื่อง และผมรู้ด้วยว่าเบื้องหลังมีขบวนการฟอกเงินอีกขบวนการหนึ่งอยู่ ผมมีหลักฐานหมดแล้ว นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ภาษาบู๊ลิ้มเขาว่า "คุณมีชีวิตอยู่ มิสู้ตายไปยังจะดีซะกว่า" ยังมีเรื่องอีกเยอะเกี่ยวกับทนายตั้ม หมดจากคุณอ้อยไปแล้วยังจะมีน้องหนึ่ง บางปู ปอ คดีแตงโม แซน คดีแตงโม เรื่องต่างๆ หลายเรื่อง
"นายษิทราเชื่อหรือเปล่า ไม่มีใครในประเทศไทยกล้ากับคุณ ผมก็เลยเปิดคุณก่อน จนกระทั่งตอนนี้เขื่อนมันแตกแล้ว อะไรที่คุณทำเอาไว้กับชาวบ้านเขา มันเริ่มไหลเข้ามาแล้ว คุณอาจจะไม่เชื่อเรื่องเวรกรรม แต่ผมจะพูดอย่างหนึ่งว่า คุณอ้อยทำบุญทำกุศล เขามีเมตตาให้ประชาชน หลายคนติดต่อคุณไป หวังว่าคุณจะช่วย แต่คุณก็ไม่ได้ช่วยเขา แต่คุณเก็บเงินเก็บทองเขาไป เวรกรรมมันกำลังตามคุณอยู่นะ กฎแห่งกรรมหนีไม่พ้นหรอก คุณษิทรา เบี้ยบังเกิด คุณอาจจะไม่เชื่อ แต่ผมเชื่อ" นายสนธิกล่าว
@sondhitalk เปิดใจพี่อ้อย เศรษฐีนีใจดีแต่โชคร้ายเจอทนายเลว สัมภาษณ์พิเศษ โดยสนธิ ลิ้มทองกุล #sondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #ทนายตั้ม #แฉทนายตั้ม #ปม17ล้าน ♬ เสียงต้นฉบับ - sondhitalk