xs
xsm
sm
md
lg

“Brighter Future” เยาวชนผู้ส่งต่อโอกาส มุ่งลดความเหลื่อมล้ำทางด้านการศึกษา มอบหนังสือการเรียนรู้แก่มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย ต่อยอดสู่โรงเรียนทั่วประเทศไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“Brighter Future” ชมรมเยาวชนผู้ริเริ่มห้องสมุดออนไลน์และจัดพิมพ์หนังสือการเรียนรู้ ผนึกกำลังกับ “Brightly Beaming” ส่งต่อโอกาสทางด้านการศึกษาแก่โรงเรียนชนบททั่วประเทศไทย ผ่านการบริจาคหนังสือการเรียนรู้กว่า 1,400 เล่ม มูลค่ารวมกว่า 200,000 บาท ให้แก่มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย ภายใต้โครงการ “จุดประกายความรู้เพื่ออนาคตสดใส” โดยมีรายชื่อผู้ร่วมส่งมอบดังนี้

1.​ นายวชิรวิชญ์ พันธ์รัตนมงคล ผู้ก่อตั้งและประธานชมรม “Brighter Future” จากโรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา
2.​ เด็กชาย ณภัทร งามตระกูลพานิช จากโรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา
3.​ นางสาวเอณิศา งามตระกูลพานิช จากโรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา
4.​ นางสาวอลิสา เสงี่ยมบุตร จากโรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา
5.​ นายธีรเมธ อยู่พูนทรัพย์ จากโรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา
6.​ นางสาวพรนภัส กลีบบัว จากโรงเรียนนานาชาติ ISB

ทั้งนี้ได้รับเกียรติจาก คุณฉัตรชนก ตรีรัตนวาทิน ผู้อำนวยการกลุ่มงานระดมทุนมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย เป็นผู้รับมอบ โดยพิธีส่งมอบจัดขึ้น ณ ชั้น 6 มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย เมื่อเร็วๆ นี้ 
คุณฉัตรชนก ตรีรัตนวาทิน ผู้อำนวยการกลุ่มงานระดมทุนมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ดิฉันขอเป็นตัวแทนเจ้าหน้าที่มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย และเด็กในพื้นที่ห่างไกลในการขอบคุณน้องเยาวชนจากชมรม Brighter Future ที่ได้ผลิตหนังสือและสื่อการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อมอบให้เด็กเปราะบางยากไร้ 
การที่ได้พบน้องๆ ในวันนี้ทำให้ดิฉันรู้สึกว่า การให้นั้นสามารถเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ และขยายไปสู่สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าได้ สมาชิกในชมรมนี้แม้จะมาจากต่างโรงเรียน แต่พวกเขามีจุดร่วมกันอย่างหนึ่ง ก็คือความปรารถนาที่อยากเห็นเด็กเปราะบางยากไร้ในพื้นที่ห่างไกลได้เข้าถึงการศึกษาที่ดีขึ้น น้องๆ ได้ใช้ความสามารถของตนเองในการส่งต่อความรักและความหวังดีให้กับเด็กคนอื่นในชุมชน ซึ่งความตั้งใจและการร่วมมือกันของทุกคนในชมรมได้ช่วยรังสรรค์ให้เกิดผลงานที่ทั้งมีคุณค่าและเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นในสังคม
ดิฉันขอขอบคุณอีกครั้งกับน้ำใจที่น้องเยาวชนมีให้ต่อเด็กๆ ในโครงการของมูลนิธิศุภนิมิต และทำให้เห็นว่า ‘การให้’ ไม่มีขอบเขตของช่วงวัยและวิธีการให้ ขอเพียงมีความตั้งใจที่จะช่วยเหลือ ไม่ว่าใครก็สามารถเป็นผู้ช่วยเหลือเด็กยากไร้รอคอยได้ค่ะ” คุณฉัตรชนก กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับหนังสือที่ได้บริจาคเหล่านี้ ประกอบไปด้วยหนังสือสำหรับอ่านและหนังสือกิจกรรม โดยมีการจัดพิมพ์และแปลเป็นเวอร์ชั่นภาษาไทยและภาษาจีน รวมไปถึงบางเล่มมีการแปลเป็นภาษาฮินดูและภาษาสเปน โดยมูลนิธิฯ ได้นำส่งต่อไปยังโรงเรียนหลายพื้นที่ทั้ง 4 ภาคในประเทศไทย เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ของนักเรียนระดับอนุบาลและประถมศึกษาได้อย่างครอบคลุม


นายวชิรวิชญ์ พันธ์รัตนมงคล หรือ เทอร์โบ ผู้ก่อตั้งและประธานชมรม “Brighter Future” ได้เผยถึงแรงบันดาลใจจากการใช้ห้องสมุดตั้งแต่เด็ก และใช้ความรู้ด้านโปรแกรมมิ่งที่เรียนมาสร้างเว็บไซต์ห้องสมุดเพื่อช่วยเหลือเด็กที่ขาดแคลนทรัพยากร กล่าว่า “ผมเชื่อมาตลอดว่าห้องสมุดและหนังสือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเด็ก ๆ เพราะพวกเขาคืออนาคตของชาติ โดยชมรมของเราเริ่มต้นจากการสร้างห้องสมุดออนไลน์ Brightly Beaming เพื่อสนับสนุนเด็ก ๆ ในพื้นที่ห่างไกล และต่อมาเราขยายไปสู่การจัดพิมพ์หนังสือฉบับจริงสำหรับเด็ก ๆ ในพื้นที่ที่การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตยังคงจำกัด ทั้งนี้เรายังฝังลิงก์และคิวอาร์โค้ดไว้ในหนังสือทุกเล่ม เพื่อให้โรงเรียนสามารถเข้าถึงห้องสมุดออนไลน์ได้ฟรี และสามารถดาวน์โหลดหนังสือได้ไม่จำกัด

สำหรับการจัดพิมพ์หนังสือของชมรมได้รับการสนับสนุนผ่านกิจกรรมระดมทุน อาทิเช่น การขายหนังสือในแคมเปญ​ “Library to Life” การแข่งขันจัดทำหนังสือ “Librarython” และการขายโดนัท โดยได้รับการสนับสนุนจาก Krispy Kreme เป็นต้น เราหวังว่าจะสามารถระดมทุนได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายโครงการและช่วยเหลือเด็ก ๆ และชุมชนได้ในระยะยาว” นายวชิรวิชญ์ กล่าวทิ้งท้าย

นอกจากการสนับสนุนโรงเรียนแล้ว ชมรม “Brighter Future” ยังได้จัดส่งหนังสือให้กับ หอสมุดแห่งชาติ และ ห้องสมุดเนียลสัน เฮส์​ อีกทั้งยังได้ส่งหนังสือให้กับห้องสมุดเด็กของ San Francisco Public Library และ Palo Alto City Library สำหรับเด็กไทยในต่างแดน เพื่อให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงหนังสือได้อย่างทั่วถึง






นอกจากการร่วมมือกับมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทยแล้ว ชมรม “Brighter Future” ยังได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษาร่วมกับองค์กรอื่น ๆ เช่น มูลนิธิคริสเตียนลูเธอรัน ที่ดูแลสถานรับเลี้ยงเด็กบ้านสรรเสริญ ในชุมชนคลองเตย, มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย และ มูลนิธิบ้านเด็กป่า ที่ชายแดนไทย-พม่า โดยความร่วมมือเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างโอกาสที่เท่าเทียมในการเข้าถึงการศึกษาให้กับเด็กทุกคน
ท่านสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Brighter Future: www.brighterfuture.live

p
กำลังโหลดความคิดเห็น