พรรคพลังประชารัฐกำลังปั่นป่วนไปกับกระแส แชร์ลูกโซ่ฉาว “ดิไอคอน” และการพยายามเขี่ย “จ๊อบ-สามารถ” ออกจากพรรค มันดูลุกลี้ลุกลนผิดปกติ
พรรคพลังประชารัฐ ปั่นป่วนไปกับกระแสแชร์ลูกโซ่ฉาว ดิ ไอคอน กรุ๊ป เพราะดันปรากฎชื่อ สามารถ เจนชัยจิตรวนิช รองโฆษกพรรค ไปพัวพันเป็นผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นเจ้าของเสียงในคลิปสนทนาของนักการเมืองรายหนึ่งสมญา “คนข้างลุงป้อม” กับ “บอสพอล” วรัตน์พล วรัทน์วรกุล ซีอีโอดิ ไอคอน กรุ๊ป
เนื้อหาเป็นการเรียกรับเงินตอบแทนการช่วยในบางคดีที่ “บอสพอล” ประสบอยู่เมื่อราว 2-3 ปีก่อน โยงไปถึง “เทวดา สคบ.” ที่เคยเป็นผู้บริหารระดับสูงในสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ด้วย
และแม้จะยังไม่มีการพิสูจน์ทราบว่า “สามารถ” คือเจ้าของเสียงในคลิปเสียงฉาวจริงหรือไม่ แต่ พรรคพลังประชารัฐ โดย ไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค ก็ได้มีคำสั่งปลด “สามารถ” พ้นจากตำแหน่งรองโฆษกพรรค เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หากแต่ยังไม่สามารถสลัด “สามารถ” ทิ้งได้อย่างเด็ดขาด เพราะ “ไพบูลย์“ ยอมรับว่า พยายามเกลี้ยกล่อมขอให้ ”สามารถ“ ลาออกจากพรรคด้วยตัวเอง แต่ก็ไม่สำเร็จ จึงเตรียมเสนอเรื่องให้คณะกรรมการบริหารพรรคพที่จะมีการประชุมอีกครั้งช่วงปลายเดือน ต.ค.67 พิจารณาการดำเนินการกับ “สามารถ” ในการตั้งกรรมการสอบสวนความผิดก่อนขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรคตามข้อบังคับพรรค
แง่หนึ่งก็มองได้ พรรคพลังประชารัฐ รับรู้ถึงกระแสสังคมที่มีต่อ “สามารถ” ดี จึงออกแอกชั่นปลดจากตำแหน่งรองโฆษกพรรค และพยายามเขี่ยออกจากพรรค เพื่อให้ข้อครหาพ้นตัว
แต่อีกแง่ก็มองได้ว่า เป็นความพยายามที่ดูลุกลี้ลุกลนผิดปกติ ข้ามขั้นตอนการสอบสวนความผิด หรือรอข้อเท็จจริงให้แน่ชัดเสียก่อน
เพราะหากขอร้องแกมกดดันให้ ”สามารถ“ ลาออกจากสมาชิกพรรคได้จริง พรรคพลังประชารัฐ ก็คงคิดจะสามารถลอยตัวจากปัญหาเรื่องนี้ได้ทันที
ขืนหากปล่อยไว้แล้วนำไปสู่การสอบสวนแล้ว อาจพันไปถึง ”บิ๊กพลังประชารัฐ“ ที่ว่ากันว่าเป็นปลายทางของผลประโยชน์ที่ได้จากการรีดไถ “บอสดิ ไอคอน กรุ๊ป“ หรือกลุ่มผู้เสียหายทั้งในเรื่องนี้ และกรณีอื่นด้วย
เมื่อความปรากฎเช่นนี้แล้ว สิ่งที่ พรรคพลังประชารัฐ ควรทำนั้นไม่เพียงแต่ขับ “สามารถ” ออกจากพรรค เพื่อไม่ให้ใช้ชื่อพรรค หรือตำแหน่งใดๆ กระทำพฤติกรรมเหมือนที่ผ่านๆมานั้นยังไม่พอ
ต้องทำการสอบสวนเรื่องที่สังคมครหาให้สิ้นสงสัยด้วย
ซึ่งก็น่าสนใจว่า สถานการณ์ไปไกลขนาดนี้แล้ว เหตุใด “สามารถ” จึงยังกล้ายืนกรานที่จะไม่ลาออกจากพรรค ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่า ทู่ซี้ต่อไปเช่นนี้ไม่เพียงสร้างความเสียหายให้กับพรรคต้นสังกัด แต่ยังทำให้ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ผู้ใหญ่อันเป็นที่รักเคารพของตัวเองต้องแปดเปื้อนเสื่อมเสียไปด้วย
และก็น่าแปลกใจว่า เมื่อมีสัญญาณเข้มขนาดนี้ ทำไม “สามารถ” ยังกล้ารั้นท้าทาย ”ไพบูลย์“ ที่ถือเป็นผู้ใหญ่ในพรรค เหมือนยังมี ”ผู้ใหญ่กว่า“ เป็นแบ็กหนุนหลังอยู่อย่างไรอย่างนั้น
ยิ่งมีความชัดเจนด้วยว่า จริงๆแล้ว “ลุงป้อม” ก็ไม่ได้เป็น “เพื่อนพ่อ” หรือรู้จักกับญาติผู้ใหญ่ใดๆ ของ “สามารถ” ตามที่เขาอ้างเลย แต่กลับสามารถเข้าไปใกล้ชิดอยู่ข้างกาย “ลุงป้อม” แบบชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ ทั้งที่ไม่มีราคาค่างวดอะไรในทางการเมือง
เอาเข้าจริงการจะให้ ”สามารถ“ ลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ ”ลุงป้อม“ เอ่ยปากสั่ง มีหรือ “สามารถ“ จะกล้าขัด
หรือว่าจริงๆ แล้วคนตัวเล็กๆ อย่าง “จ๊อบ-สามารถ” จะกุมความลับอะไรของ “บอสป่ารอยต่อ” อยู่ จนไม่มีใครกล้าแตะต้อง.
--------------------------------
**หมายเหตุ
แอป Sondhi App ดาวโหลดได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
**ขอแนะนำ ThaiTimes โซเชียลมีเดียของคนไทย
ไม่ปิดกั้นเนื้อหา - แชร์รูปภาพและวิดีโอ - ติดตามข่าวสารล่าสุด ได้อย่างอิสระ
มีให้ Download ได้แล้วทั้งในระบบ iOS และใน Android
iOS :https://apps.apple.com/th/app/thaitimes-social/id6502225132
Android :https://play.google.com/store/apps/details...
และhttps://thaitimes.co