“ท่าน ว.” งานเข้าอีก กรมป่าไม้เตรียมสอบ “ไร่เชิญตะวัน” ส่อบุกรุกป่าสงวน สร้างเกินพื้นที่อนุญาต

อธิบดีกรมป่าไม้สั่งป่าไม้จังหวัดเชียงรายตรวจสอบ “ไร่เชิญตะวัน” ศูนย์วิปัสสนาของ “ท่าน ว.” หลังพบสร้างเกินพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตถึง 47 ไร่ ส่อบุกรุกเขตป่าสงวน หากผิดจริง มีโทษคุกสูงสุด 20 ปีปรับ 2 ล้าน ด้าน ประธาน กมธ.สิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ชี้แค่ยื่นคำขอไว้ยังไม่อนุมัติ แต่สร้างก่อน

วันนี้(19 ต.ค.) มีรายงานว่า นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ จะสั่งการให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่ จ.เชียงราย เข้าไปตรวจสอบศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน ที่ตำบลห้วยสัก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ของพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือ ว.วชิรเมธี ในวันที่ 21 ต.ค.นี้ กรณีมีข้อสงสัยว่า ได้ทำการก่อสร้างเกินพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต จากที่ทางมูลนิธิวิมุตตยาลัย ได้ขออนุญาตก่อสร้าง 113 ไร่ และทางสำนักพุทศาสนาขอใช้อีก 30 ไร่ รวมเป็นพื้นที่ 143 ไร่ แตมีการใช้พื้นที่จริงถึง 190 ไร่ ถือเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 47 ไร่

ทั้งนี้ หากตรวจสอบพบว่ามีการใช้พื้นที่เกินอนุญาตจริงและพื้นที่ที่เกินมาอยู่ในเขตป่าสงวน ก็จะให้แจ้งความเอาผิดฐานบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ม.54 มีโทษจําคุก 1 ถึง 20 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 200,000 บาท ถ้าได้กระทําเกินเนื้อที่เกินกว่า 25 ไร่ จําคุกตั้งแต่ 4 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 บาทถึง 2,000,000 บาท

มีรายงานอีกว่า ศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน ก่อตั้งโดยพระ ว.วชิรเมธีนั้น ตั้งอยู่บนพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดอยปุย โดยทางสำนักงานพระพุทธศาสนาเป็นผู้ขออนุญาตให้ตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) พ.ศ.2562 ที่ให้หน่วยงานราชการที่มีพื้นที่อยู่ในป่าสงวนแห่งชาติยื่นคำร้องขอก่อสร้างต่อกรมป่าไม้ได้

ซึ่งในเรื่องนี้ นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ประธานคณะกรรมาธิการสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา อดีตรองอธิบดีกรมป่าไม้ และอดีตหัวหน้าชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร เปิดเผยว่า มีหน่วยงานราชการยื่นขออนุญาตเพื่อสร้างสิ่งก่อสร้างในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติทั่วประเทศ ตามมติ ครม.ดังกล่าว ประมาณ 1 แสนคำขอ และหลายพื้นที่ยื่นไปแล้ว ยังไม่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ แต่ก็ได้ก่อสร้างไปก่อน หรือหลายพื้นที่ยื่นไปแล้วก็จริงแต่สร้างเกินกว่าพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต

นายชีวะภาพ กล่าวอีกว่า กรณีของศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน เป็นกรณีเดียวกับพระใหญ่ บนเขานาคเกิด จังหวัดภูเก็ต ที่สร้างในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขานาคเกิด และมีฝนตกดินโคลนถล่มจนมีผู้เสียชีวิตไป 13 คน ก็อยู่ระหว่างการขออนุญาตจากกรมป่าไม้ และมีการก่อสร้างนอกเหนือพื้นที่ที่ขออนุญาตเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการขออนุญาตก่อสร้างอย่างถูกต้องก็จริง แต่สำหรับวัดหรือสถานวิปัสนา ที่อยู่ในป่าควรสร้างแบบสมถะ ไม่ใช่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสบายและมีเนื้อที่มากเกือบ 200 ไร่ แบบนี้ถือว่าไม่เหมาะสม กรมป่าไม้ต้องออกมาตอบคำถาม อนุญาตได้อย่างไร