วันนี้ (15 ตุลาคม 2567) นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง เป็นประธานเปิดงาน SWAP to ZERO: Innovating for Carbon-free future ร่วมด้วย ดร.อารักษ์ พรประภา ประธาน บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด ประกาศความร่วมมือใน “โครงการร่วมมือศึกษาความเป็นไปได้ทางธุรกิจ และทดลองการให้บริการสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ ระหว่างการไฟฟ้านครหลวง กับ บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด ที่ได้ร่วมกันพัฒนาแนวทางความเป็นไปได้ และรูปแบบการศึกษาวิจัยทดลองเพื่อผลักดันให้เกิดการใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยอย่างยั่งยืนในอนาคต ณ สถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ การไฟฟ้านครหลวง (สำนักงานใหญ่) คลองเตย
ผู้ว่าการ MEA กล่าวว่า MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ได้ให้ความสำคัญในการร่วมขับเคลื่อนไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) โดยได้สนับสนุนการสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า EV Ecosystem วางนโยบายที่จะผลักดัน และสนับสนุนในด้านการศึกษาวิจัย รวมถึงต่อยอดขยายโอกาสทางธุรกิจสำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น จึงได้ร่วมมือกับ บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด บริษัทผู้ผลิต และจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ในประเทศไทย ลงนามบันทึกความเข้าใจ “โครงการร่วมมือศึกษาความเป็นไปได้ทางธุรกิจ และทดลองการให้บริการสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ ระหว่างการไฟฟ้านครหลวง กับบริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด” ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวจะร่วมกันศึกษาทดลองให้บริการสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ เพื่อใช้สำหรับเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงเทคนิคด้านการใช้พลังงานไฟฟ้า และพฤติกรรมการใช้งานสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ของกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ภายใต้สถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ของฮอนด้า ณ ที่ทำการของ MEA จำนวนทั้งสิ้น 2 แห่ง ได้แก่ การไฟฟ้านครหลวง (สำนักงานใหญ่) คลองเตย และการไฟฟ้านครหลวงเขตบางนา
ทั้งนี้ ความร่วมมือดังกล่าวเป็นไปเพื่อสนับสนุน และผลักดันนโยบายของภาครัฐ ในการสร้างการรับรู้และผลักดันให้เกิดสังคมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon Society) รวมทั้งยังเป็นการสนับสนุน และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยการมีส่วนช่วยในการลดต้นทุนค่าพลังงานน้ำมัน ตลอดจนยังเป็นการสร้างกระบวนการเรียนรู้ และประสบการณ์ใช้งานที่ดี เพื่อเพิ่มทางเลือกการใช้งานจากรถจักรยานยนต์เครื่องยนต์สันดาปมาเป็นการใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งจะทำให้เกิดการต่อยอด และผลักดันโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ร่วมกันในอนาคต
ด้านประธาน บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวเสริมว่า “นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของไทยฮอนด้า ที่ได้ร่วมมือกับ MEA ในการร่วมกันส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด และขับเคลื่อนการใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยไทยฮอนด้ามีความมุ่งมั่นที่จะขยายระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า EV Ecosystem ในประเทศไทยอย่างยั่งยืน ด้วย Honda BENLY e: ที่เราได้พัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานในอนาคต ใช้พลังงานสะอาดลดการปล่อยมลพิษ พร้อมตู้สับเปลี่ยนแบตเตอรี่มาตรฐานฮอนด้า Honda e: Swap Station ที่สามารถสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ภายใน 1 นาที และตู้ควบคุมอุณหภูมิตลอดการชาร์จเพื่อให้แบตฯ ปล่อยพลังงานที่เสถียรและปลอดภัย ภายใต้มาตรฐาน World Class Safety UNR136 รวมทั้งสิ้น 44 แห่ง ที่พร้อมให้บริการทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวม 2 แห่งนี้ ซึ่งเป็นพื้นที่ให้บริการสำคัญ คือ ที่การไฟฟ้านครหลวง (สำนักงานใหญ่) คลองเตย และที่การไฟฟ้านครหลวงเขตบางนา ขอขอบคุณ MEA ในการสนับสนุนขยายสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอร์รี่ Honda e: Swap ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ในอนาคตเรามีแผนที่จะขยายเพิ่มอีกอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับตลาดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปีนี้เราตั้งเป้าส่งมอบรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าให้กับผู้ (เช่า) ใช้จำนวน 850 คัน”
อย่างไรก็ตาม ด้วยความร่วมมือที่ครอบคลุมนี้ ไม่เพียงแค่ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด แต่ยังเป็นการสนับสนุนการเติบโตของ EV Ecosystem ที่มีความยั่งยืน และพร้อมรองรับการใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าได้อย่างเต็มรูปแบบในอนาคตต่อไป