xs
xsm
sm
md
lg

เผยผลสอบข้อร้องเรียน PETA กล่าวหาทารุณกรรมช้าง 23 ปีก่อน แฉมีฝรั่งจัดฉากพิธีผ่าจ้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เผยเอกสารตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่แจ้งผลสอบกรณีการทารุณลูกช้างตามข้อร้องเรียนของ PETA เมื่อปี 46 ชี้มีฝรั่ง 2 คนจัดฉากพิธีผ่าจ้านลูกช้างให้ดูคล้ายมีเลือดไหล ไม่ทราบเจตนาเพื่ออะไร ทำลายการท่องเที่ยวของไทย หรือดึงเงินเข้ามูลนิธิ

วันนี้ (14 ต.ค.) จากกรณีที่เฟซบุ๊กเพจ มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand Foundation - WDT โพสต์วิดีโอคลิปหัวข้อ "ความจริงของช้างในสิ่งที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่ทราบ" โดยอ้างว่าเป็นเบื้องหลังการฝึกช้าง เมื่อเดือน ก.พ. 2566 เป็นการแยกแม่ลูกช้างออกมาเพื่อนำลูกช้างไปฝึกเพื่อนำไปใช้ทำงาน

ปรากฏว่าเฟซบุ๊กเพจ The Echo ออกมาเผยข้อเท็จจริงอีกด้าน หัวข้อ "แฉ Fake news จากคลิปเก่ากว่า​ 20​ ปี ​ตำรวจ​ชี้​เกิดจากการ​จัดฉาก" ระบุว่า "ผลการสอบสวนของตำรวจเชียงใหม่ระบุ ภาพการทารุณกรรมลูกช้างในพิธีผ่าจ้านที่จังหวัดเชียงใหม่ในปี​ 2544 เป็นการจัดฉากและแต่งเติมโดยหญิงรายหนึ่งและทีมงาน คาดทำโดยมีผลประโยชน์แอบแฝง อาจมุ่งทำลายการท่องเที่ยวของประเทศไทยหรือเพื่อดึงเงินเข้ามูลนิธิ

ทั้งนี้ เพจ The Echo ได้รับเอกสารผลการสอบสวนของตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งทำถึงวุฒิสภา ลงวันที่ 6 ก.พ. 2546 เพื่อรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการทารุณลูกช้างตามข้อร้องเรียนขององค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) ต่างชาติด้านสวัสดิภาพสัตว์ และกล่าวว่าเหตุการณ์ที่หญิงรายหนึ่งและทีมงานมาถ่ายทำวิดีทัศน์ดังกล่าวเกิดขึ้นในปี 2544 จนถึงตอนนี้ผ่านไป 23 ปีแล้ว

อีกด้านหนึ่ง เอกสารของตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เรื่อง รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการทารุณลูกช้างตามข้อร้องเรียนขององค์กร People for the Ethical Treatment of Animal (PETA) ลงนามโดย พล.ต.ต.เกษร รัตนสุนทร ผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ (ยศและตำแหน่งในขณะนั้น) ลงวันที่ 6 ก.พ. 2546 ระบุว่า ตามอ้างถึงหนังสือของวุฒิสภา ด่วนที่สุด ที่ 5470/2545 ลง 25 พ.ย. 2545 เรื่อง ขอให้ดําเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการทารุณลูกช้าง ตามข้อร้องเรียนขององค์กร People for the Ethical Treatment of Animal (PETA) ความละเอียดแจ้งอยู่แล้ว นั้น

ตํารวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ได้ดําเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้ว และได้สั่งกําชับเจ้าหน้าที่ตํารวจที่เกี่ยวข้องติดตามกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมพานักท่องเที่ยวออกไปถ่ายทําสารคดีเกี่ยวกับสัตว์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางราชการก่อน และขอรายงานข้อเท็จจริงตามประเด็นที่สั่งการ ดังต่อไปนี้

1. การกระทําทารุณช้างตามที่ปรากฏในภาพวิดีทัศน์ เป็นการแต่งเติมเพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นการกระทําที่โหดร้ายทารุณหรือไม่ ขอเรียนว่า การกระทําดังกล่าวเป็นการร้องขอจากทีมงานของ นางแสงเดือน ชัยเลิศ ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ จํานวน 2 คนได้มาถ่ายทําวิดีโอเกี่ยวกับช้าง โดยทีมงานฯ ได้ขอให้ นายแซ่แฮ คีรี ซึ่งเป็นผู้ทําพิธีผ่าจ้านลูกช้างให้ตีหัวช้าง แล้วทีมงานใช้น้ำยาสีม่วงทาที่หลัง และหัวช้างทําให้ดูคล้ายมีเลือดไหลแล้วถ่ายภาพเอาไว้ ซึ่งในการทําพิธีผ่าจ้านนั้นมิได้มีการกระทํารุนแรงหรือทําร้ายช้างแต่อย่างใด เนื่องจากคนเลี้ยงช้างทุกคนมีความรักช้างเหมือนกับเป็นลูกหลานคนหนึ่ง การทําพิธีฯ จะเป็นการทําเพื่อฝึกสอนช้าง และมีการใช้ไม้ตีเบาๆ พอเป็นพิธีเท่านั้น ไม่ถึงกับทําให้เกิดบาดแผลหรือทําให้เกิดการบาดเจ็บแต่อย่างใด จากการที่ได้สอบปากคําผู้ให้ถ้อยคําแล้ว แจ้งว่าภาพวิดีทัศน์เป็นภาพที่แสดงเกินความจริง และมิใช่เป็นพิธีกรรมที่ถูกต้อง ซึ่งเชื่อว่ามีผลประโยชน์แอบแฝง อันไม่อาจคาดเดาได้ อย่างเช่น อาจจะต้องการทําลายบรรยากาศการท่องเที่ยวของประเทศไทย หรือเพื่อดึงเงินเข้ามูลนิธิ

2. ลูกช้างที่ปรากฏในภาพวิดีทัศน์ปัจจุบันมีการเลี้ยงดูอยู่ที่ บ้านห้วยบง ตําบลแม่ศึก อําเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ในสภาพที่ดี มีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง ส่วนข้อบ่งชี้นั้นมี นายชนัตร เลาหะวัฒนะ ผู้อํานวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ เป็นผู้เข้าไปตรวจสอบลูกช้างในกรณีดังกล่าว

3. กระบวนการนําลูกช้างไปกระทําทารุณตามที่ปรากฏ เป็นเพียงกลุ่มบุคคลที่พานักท่องเที่ยวไปถ่ายทําวิดีโอเท่านั้น ส่วนวัตถุประสงค์ในการกระทํายังไม่ทราบแน่ชัดว่ามีวัตถุประสงค์ทําขึ้นเพื่อประโยชน์ใด

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ พร้อมนี้ได้แนบเอกสารการสอบสวนที่เกี่ยวข้องมาด้วยแล้ว จํานวน 13 แผ่น

ขณะที่เฟซบุ๊กของ ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์สาขาวิชาสถิติศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ข้อความระบุว่า "PETA เข้ามาในเมืองไทย ใครพาไปจัดฉากถ่ายวิดีโอ 20 ปีก่อนที่แม่แจ่ม กล่าวหาว่าปราชญ์ปกาเกอะญอทรมานช้างไทยที่เป็นลูกช้าง ตำรวจภูธรภาค 5 สอบสวนแล้วพบว่าเป็นการจัดฉากขายชาติ

ต่อมา PETA ก็มีส่วน กล่าวหาว่าประเทศไทยใจร้าย กินหมา ที่ท่าแร่ สกลนคร ซึ่งก็มีไม่มาก และเป็นคนไทยเชื้อสายเวียดนาม แต่ทั้งหมดทั้งปวงเพื่อให้ส่งผลอะไรต่อประเทศไทย ต่อมาก็เรื่อง ลิงเก็บมะพร้าว PETA ก็เข้ามา ทั้งหมดเพื่อกีดกันทางการค้าหรือไม่ ล่าสุดคือหมูเด้ง หาว่าเป็นการทรมานสัตว์ นี่ก็ PETA

เบื้องหลัง PETA กว่า 20 ปี มีคนไทยคนไหนที่ขายชาติ ทำลายแผ่นดิน พี่น้องคนไทยมีสิทธิ์ตั้งคำถามครับ NGO ไทย มีทั้งดีและเลว แต่ NGO ไทยที่ตอแหล ดรามา ขายชาติ หิวเงิน นั้นมีอยู่จริง ผมขอยืนยัน"










กำลังโหลดความคิดเห็น