xs
xsm
sm
md
lg

มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ร่วมแสดงความยินดี “ดร.อมรรัตน์ โสธารัตน์” ในโอกาสย้ายมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ สพม.นนทบุรี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ร่วมแสดงความยินดี “ดร.อมรรัตน์ โสธารัตน์” ในโอกาสย้ายมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ สพม.นนทบุรี พร้อมร่วมขับเคลื่อนการศึกษาของจังหวัดนนทบุรี เพื่อให้นักเรียนได้รับความเสมอภาค ความปลอดภัย และการเข้าสู่เส้นทางอาชีพแบบไร้รอยต่อทางด้านการศึกษา

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พงษ์ภิญโญ แม้นโกศล คณบดีวิทยาลัยครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) เป็นผู้แทนของ ดร.ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ นำดอกไม้ร่วมแสดงความยินดี ดร.อมรรัตน์ โสธารัตน์ ในโอกาสย้ายมาดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานนทบุรี (ผอ.สพม. นนทบุรี) เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2567 ณ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ นนทบุรี

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พงษ์ภิญโญเปิดเผยว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้กลับมาร่วมงานกับ ดร.อมรรัตน์ โสธารัตน์ อีกครั้ง เนื่องจากวิทยาลัยครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ได้เคยทำบันทึกข้อตกลง (MoU) เพื่อสนับสนุนส่งเสริมงานวิชาการในสมัยที่เป็นรองผู้อำนวยการ สพม. นนทบุรี โดยในอนาคตอันใกล้นี้จะจัดโครงการสนับสนุนวิชาการให้แก่บุคลากรครูทั้ง 18 โรงเรียนในสังกัด สพม.นนทบุรี และต่อไปจะมีโครงการความร่วมมือกันมากขึ้น เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและยั่งยืนในการร่วมขับเคลื่อนการศึกษาของจังหวัดนนทบุรี

“วิทยาลัยครุศาสตร์ DPU ตระหนักว่าการบริการวิชาการเชิงพื้นที่เป็นพันธกิจสำคัญอย่างหนึ่ง เราจึงร่วมดำเนินการกับเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานนทบุรี เพราะถือว่าเป็นชุมชนเป้าหมายในการเข้าไปมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการศึกษา โดยเราทำงานในลักษณะนี้มานานหลายปีแล้ว เช่น อบรมเชิงปฏิบัติการให้แก่ครูโรงเรียนต่างๆ ในจังหวัดนนทบุรี ทั้งระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ของทุกสังกัดไม่ว่าจะเป็น สพฐ. องค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะมองว่านักเรียนเหล่านี้จะเติบโตและเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยต่อไป ฉะนั้นในฐานะที่เราอยู่ในอุดมศึกษา เราจึงต้องมีส่วนร่วมในการพัฒนาเด็กของจังหวัดนนทบุรีด้วยเหมือนกัน”


ด้าน ดร.อมรรัตน์ โสธารัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานนทบุรี กล่าวว่า รู้สึกดีใจและเป็นเกียรติที่ได้เข้ามารับตำแหน่งผู้อำนวยการในวันนี้ เพราะก่อนหน้านี้เคยดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานนทบุรีมาก่อน จึงทำให้รู้ถึงการบริหารจัดการและการต่อยอดเปลี่ยนแปลงการศึกษาในพื้นที่อย่างไร โดยเฉพาะโรงเรียนในสังกัดทั้งหมด 18 แห่ง เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างเป็นระบบ 

ส่วนการดำเนินงาน นโยบายแรกจะมุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัยเด็กนักเรียน คุณครู บุคลากรทางการศึกษา เป็นหลัก รวมไปถึงเรื่องของโอกาสความเสมอภาคในการเรียน พร้อมขานรับนโยบายของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ว่าเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา Anywhere Anytime เรียนฟรีมีงานทำ “ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง” มุ่งสู่สังคมการเรียนรู้ตลอดชีวิต มาดำเนินการ โดยประเด็นหลักที่สำคัญ จังหวัดนนทบุรีต้องมุ่งเน้นเรื่องคุณภาพสู่ความเป็นเลิศในทุกด้านที่เป็นความสามารถของนักเรียนตามบริบทศักยภาพ พหุปัญญาของนักเรียน

นอกจากนี้ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานนทบุรียังกล่าวขอบคุณมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ที่ได้ทำบันทึกข้อตกลง (MoU) ร่วมกัน ถือเป็นภาคีที่สำคัญในเชิงวิชาการ เป็นการเชื่อมโยงส่งต่อนักเรียนไปสู่การเรียนในระดับอุดมศึกษา ทั้งเรื่องการพัฒนาครูที่ทางวิทยาลัยครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์จะเข้ามาส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรครู เพราะเชื่อมั่นว่าถ้าครูดีครูเก่ง ปลายทางจะเกิดผลดีต่อนักเรียนอย่างแน่นอน และจะทำอย่างไรเพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสให้แก่เด็กที่อาจไม่มีต้นทุนในการได้มีโอกาสในการศึกษาต่อ ในส่วนนี้คงต้องให้ทางมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์เข้ามาร่วมสนับสนุนให้เด็กนักเรียนได้มีโอกาสเรียนต่อ ถือเป็นการสร้างโอกาสให้แก่เด็กนักเรียน ที่สำคัญการเรียนรู้ไม่ได้ต้องการให้เรียนแค่ภายในห้องเรียนเท่านั้น ทว่าอยากให้เรียนในคณะต่างๆ ของมหาวิทยาลัย เพื่อให้เด็กค้นหาตัวเองให้เจอ สิ่งเหล่านี้อยากให้เป็นความร่วมมือกับทางมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เพื่อเป็นการส่งต่อการศึกษาระหว่างชั้นมัธยมศึกษาไปสู่อุดมศึกษา

“การศึกษาปัจจุบันนี้ไม่ได้ต้องการเพื่อให้เด็กเรียนรู้เพื่อได้เกรดเท่านั้น ปลายทางปัจจุบันนี้ต้องทำให้เด็กนักเรียนสามารถประกอบอาชีพได้ ในเรื่องหลักสูตรของสถานศึกษาทั้ง 18 โรงเรียนในสังกัด ต้องมีหลักสูตรให้เด็กนักเรียนค้นหาตัวเองให้เจอ และมีหลักสูตรที่สามารถสร้างศักยภาพ เป็นทุนให้เขาไปศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา หรือถ้าใครที่อาจจะไม่มีโอกาสเรื่องการศึกษาต่อ แต่เข้าสู่การประกอบอาชีพ เขาก็ต้องมีสมรรถนะในการสร้างอาชีพ" 

"เช่น หลักสูตร Business Startup น้องๆ ก็ทำคุกกี้ เบเกอรี บราวนีไปขาย อย่างเช่น ตอนนี้เราไปจัดเวทีที่เซ็นทรัลเวสต์เกต อีกทั้งเราก็มีช่องทางออนไลน์สร้างรายได้ให้แก่นักเรียน ตรงนี้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ได้จากกระบวนการจัดการเรียนรู้โดยผ่านหลักสูตรสถานศึกษา ในอดีตการศึกษาไทยจะเป็นลักษณะแบบท่อนๆ คือ ประถม มัธยม อุดมศึกษา แต่ตอนนี้โจทย์คือจะทำอย่างไรให้มีการส่งต่อเด็กแบบไร้รอยต่อ เด็กเรียนมัธยมแล้วจะไปต่ออุดมศึกษาอย่างไร โดยมีสะพานเชื่อม ซึ่งมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์จะพาเด็กเหล่านี้ส่งต่อเพื่อไปสู่สายอาชีพ” ดร.อมรรัตน์กล่าวทิ้งท้าย








กำลังโหลดความคิดเห็น