น้ำท่วมเชียงรายผ่านไปหลายวันแล้ว แต่สะท้อนให้เห็นปัญหา “รัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์” ทำงานไม่เป็น “สนธิ” แนะในภาวะวิกฤติต้องไม่รอถามข้าราชการประจำ ไม่ต้องไปถามชาวบ้านเดือดร้อนอะไร ต้องเร่งฟื้นฟูชุมชนแม่สาย พื้นที่เศรษฐกิจชายแดน ให้เงินสร้างบ้านหลังละ 3 แสนถ้าไม่พอก็ให้กรุงไทยปล่อยกู้ ซัดพวกหิวแสง แห่ปรากฏตัวเอาหน้า ถาม“ชัชชาติ” โผล่ไปทำไม แค่งานใน กทม.ยังเอาไม่รอด
ในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” หรือ “สนธิทอล์ก”เมื่อวันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม ที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการได้กล่าวถึงเหตุการณ์น้ำท่วมจังหวัดเชียงราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ทำงานไม่เป็น ซึ่งในการแก้วิกฤตแห่งชาติ ถ้าเป็นภาวะฉุกเฉิน เราแทบจะไม่ต้องไปฟังข้าราชการประจำเลย
“ถ้าเป็นอดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ป่านนี้ลงพื้นที่ตั้งแต่วันแรกแล้ว เพราะเขาเป็นคนไว พอมีเรื่องปั๊บ เขากระโดดทันทีเลย ท่านนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์นี่ มีคนหัวหงอก 5-6 คน ที่พ่อส่งมารายรอบ ไม่ได้ช่วยแนะนำให้ท่านนายกฯ แพทองธารเลยหรืออย่างไร” นายสนธิ กล่าว
จริงๆ แล้ว จังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่แม่สาย เป็นอำเภอเศรษฐกิจ อยู่ติดชายแดน การค้าการขายก่อนน้ำท่วมเจริญรุ่งเรืองมาก เงินหมุนในแม่สายมากมายมหาศาล แต่แม่สายกลับได้รับผลกระทบอย่างแรงที่สุด ภูเขาแหว่งไปเกือบครึ่งลูก เพราะว่าดินที่อยู่บนภูเขาถูกฝนชะลงมาแล้วก็กลายเป็นโคลนเข้าไปในเมืองแม่สาย
ที่อยากจะวิพากษ์วิจารณ์ก็คือว่า คนเราถ้าทำงานเป็น ไม่ต้องลงไปถามประชาชนว่าเดือดร้อนไหม เขาเดือดร้อนแน่นอน ถามไปทำไม รีบแก้ปัญหาให้เขา ปัญหาใหญ่ที่สุดในแม่สายคือ หนึ่ง ไม่มีไฟฟ้าใช้ สอง อาหารสดไม่มี ตรงนี้หน่วยงานรัฐไม่ได้เข้าไปช่วยอะไรเลย นายกรัฐมนตรีต้องเป็นคนสั่ง
“คุณอนุทิน ชาญวีรกูล ท่านดูแลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แทนที่ท่านจะไปทะเลาะกับผู้ว่าฯ เชียงรายที่อีกไม่กี่วัน (ในเวลานั้น) จะเกษียณอายุแล้ว ทะเลาะเหมือนแม่ค้าปากคลองตลาดเลย ไม่สนใจเลยว่าปัญหาของตัวเองต้องแก้อย่างไร ต้องสั่งให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาครีบไปจัดตั้งไฟฟ้าชั่วคราวให้ทุกคนได้ใช้ อาหารการกินตอนนั้น คนที่แม่สายไม่มีอาหารสดกินเลย ต้องช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรจึงจะขนอาหารสดไปให้เขากินได้ ตั้งเตารวมขึ้นมา แจกอาหารให้ทุกคน วันละ 3 มื้อ เช้า กลางวัน เย็น ทำกันไปเลย เอางบประมาณใส่เข้ามา ไม่ต้องไปรอ” นายสนธิกล่าว
ที่สำคัญที่สุด บ้านที่โดนโคลนไหลเข้าไปเต็ม วันนี้อากาศร้อนขึ้นมาแล้ว โคลนที่อยู่ในหลายๆ บ้านจะกลายเป็นซีเมนต์ บ้านหลังไหนมีโคลนเข้าไปเต็ม ซ่อมไม่ได้ต้องทิ้งไป และตรงนี้นายกฯ ต้องตัดสินใจให้เด็ดขาด ต้องสำรวจทันทีเลย แล้วจัดงบประมาณ 3 แสนบาทต่อหลังให้เอาไปสร้างบ้านใหม่ เพราะว่าบ้านในต่างจังหวัดนั้น ที่อยู่นอกอำเภอเมือง แต่อยู่ริมๆ ขอบชายเขตนั้นเป็นบ้านที่ราคาไม่แพง เป็นบ้านไม้ผสมปูน หรือบางแห่งเป็นบ้านไม้เก่าๆ ถ้าบ้านหลังไหนให้ไป 3 แสนแล้วยังไม่พอที่จะสร้างใหม่ ก็ให้ธนาคารกรุงไทย ปล่อยกู้ดอกเบี้ย 1% ผ่อนส่ง 15 ปี ต้องแบบนี้ แค่นี้เอง นักการเมืองคอร์รัปชันกันเป็นแสนล้าน เงินแค่นี้ช่วยเหลือประชาชนไม่ได้หรืออย่างไร จะมีกี่ที่เองที่น้ำท่วมแล้วดินไหลมากองสูงเป็นเมตรๆ ที่หนักๆ มีแค่แม่สาย เพราะแม่สายเป็นเขตเศรษฐกิจ ยิ่งทำให้แม่สายเปิดได้เร็วเท่าไร ยิ่งดี เศรษฐกิจจะได้กลับมาหมุนเวียน
น้ำท่วมเชียงราย รวมพลคนหิวแสง
และที่ตลกที่สุด ที่รับไม่ได้เลย พื้นที่น้ำท่วมคือแหล่งรวมแสงที่คนหิวแสงไปรวมตัวกัน ใครๆ ก็ไปหาแสง มีทั้งดารา นักร้อง อินฟลูเอนเซอร์ ติ๊กต่อกเกอร์ ยูทูปเบอร์
“ถ้าถามถึงเซเบริตี้ที่ไปนั้น ผมขอชมคุณบุ๋ม ปนัดดา เป็นคนจริงใจที่สุด ลงไปช่วยด้วยจิตใจที่เต็มใจที่จะช่วย นอกจากบุ๋ม ปนัดดา แล้ว ยังมีดาราอีกหลายคนที่ลงไปช่วยด้วยความจริงใจ แต่มีพวกหิวแสงบ้าๆ บอๆ อย่างเช่นคุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์
“คุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ไปโผล่ที่แม่สาย ผมเห็นรูปผมตกใจ เฮ้ย ไปทำไมวะ! ผู้ว่าฯ กทม. หรือว่าจะไปเป็นห่วงคนกรุงเทพฯ ที่มีภูมิลำเนาอยู่แม่สาย จะไปช่วยเขา คุณชัชชาติ คุณหิวแสงบ้าบอคอแตกมากเกินไปนะ คุณเว่อร์มาก เรื่องหลายเรื่องใน กทม. คุณเอาให้รอดเสียก่อนได้ไหม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการคอร์รัปชันของเครื่องออกกำลังกาย ไปถึงไหนแล้ว คุณชัชชาติ คุณไม่ยอมรายงานให้ประชาชนทราบเลยว่าลู่วิ่งที่เกือบล้านบาท ที่พวกคุณทำมาหารับประทานกัน ลูกน้องคุณทำกัน คุณบอกมีการตั้งกรรมการสอบสวนแล้ว ไปไหนบ้าง” นายสนธิกล่าว
วันที่ 22 กันยายน ที่ผ่านมา นิด้าโพลเปิดเผยผลสำรวจ ปี 67 คนกรุงกลัวน้ำท่วมหรือไม่ ปรากฏว่าผลออกมาว่าค่อนข้างกังวล 33.82% กับกังวลมาก 17.33% รวมกันแล้วห้าสิบกว่าเปอร์เซ็นต์ นายชัชชาติแสดงตัวเพื่อได้แสง ยืนยัน ที่ไปนี่เพื่อให้ได้แสงเท่านั้นเอง ให้มีคนพูดถึง
“คุณชัชชาติครับ คุณกรุณาสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนกรุงเทพฯ เสียก่อน ก่อนที่จะไปหาแสงจังหวัดอื่นๆ ที่ตัวเองไม่ได้มีหน้าที่รับผิดชอบ ผมไม่เข้าใจคุณไปทำไม ให้ตายห่าสิ ท่านผู้ชม ผู้ว่าฯ กทม. ไปถ่ายรูปออกโซเชียลมีเดียว่าได้ไปแล้วนะกับทีมงาน กทม. คุณไม่ต้องกังวล คุณไม่ต้องไปหรอก คุณดูแลกรุงเทพฯ ให้ดี
“เอาเป็นว่า ท่านผู้ชมครับ งาน Car Free Day ช่วงวันที่ 21-22 กันยายน ที่ผ่านมา ถนนบรรทัดทอง คุณชัชชาติ และทีมงาน ก็คุยโม้โอ้อวดจะทำให้ชิลๆ คูลๆ เหมือนชิบูย่า โตเกียว ญี่ปุ่น แต่ไม่ศึกษาให้ดี ปล่อยให้เอาสีทาบ้านมาทาเลอะถนน เละเทะ ลบไม่ออก ลำบากต้องมาล้าง เทยางมะตอยกลบใหม่ นี่มันเป็นการสร้างประโยชน์อะไรให้ชุมชนเหรอ ปิดถนน 2-3 วัน แค่สร้างภาพให้ดูดี ผักชีโรยหน้า แล้วให้เจ้าหน้าที่มาตามล้างตามเช็ด ล้างทำความสะอาดสีไหลลงท่อระบายน้ำ กลายเป็นมลภาวะอีก
“ผมละเหี่ยใจจริงๆ ท่านผู้ชมครับ กับคน กทม. ที่ซื่อบื้อๆ ยังชื่นชมคนแบบนี้ ผมก็เลยไม่ประหลาดใจที่มีคนอย่าง "แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์" หลอกคนไทยได้ง่ายๆ
“จริงๆ แล้วเรื่องน้ำท่วมนี่ผมเวียนหัวกับตรรกะของคนไทยบางคน ยกตัวอย่างครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีที่แล้ว มีน้ำท่วมแถวอ่างทอง ชาวบ้านพื้นที่ติดกันทะเลาะกันแหลกราญเลย ฝั่งหนึ่งน้ำท่วม อีกฝั่งหนึ่งน้ำไม่ท่วม แล้วเขาทะเลาะกันเรื่องอะไร ท่านผู้ชมรู้หรือเปล่า ? นี่คือคนไทย ฝั่งที่น้ำไม่ท่วมไปทำลายคันกั้นน้ำ เพราะอยากให้ท่วมด้วย อยากท่วมด้วยเพราะอยากเป็นผู้ประสบภัย จะได้เงินชดเชย ฝั่งที่น้ำท่วมอยู่ก็ไม่ยอม กลัวน้ำไหลออกไปหมด แล้วบ้านตัวเองจะไม่ได้รับเงินชดเชย มันเป็นตรรกะที่บัดซบและตลกมากเลย นี่คือคนไทย ประเทศไทยเป็นประเทศที่ต้องเยียวยาทั้งปี อุทกภัย น้ำท่วม ภัยแล้ง ภัยหนาว มีทุกอย่างจริงๆ
“คุณชัชชาติครับ ระงับจิตระงับใจไว้บ้าง อย่าหลงแสงมากจนเกินไป มีประชาชนจำนวนไม่น้อยเลยที่คิดแบบผม ว่าคุณเกิดมาเป็นอะไรกันแน่ นโยบายต่างๆ ที่คุณเคยพูด วิสัยทัศน์ต่างๆ หายไปไหนหมดแล้ว คุณชัชชาติ หายไปไหนหมดแล้ว มีอยู่อย่างเดียวคือ คุณได้ถ่ายรูปออกแสง ที่ไหนมีแสง คุณไปถ่ายรูปเพื่อขึ้นโซเชียลมีเดีย จริงๆ แล้วนะ คุณชัชชาติ ให้ตายห่า เนื้อแท้คุณมีอยู่แค่นี้ ไม่มีอะไรมากเลย” นายสนธิกล่าว