xs
xsm
sm
md
lg

คำต่อคำ : “สนธิ” ถึง “อุ๊งอิ๊งค์” อย่าสติแตก! ต้องทำงานเพื่อชาติล้างบาปให้พ่อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ย้อนชม-อ่านคำต่อคำ “สนธิ” ฝากถึง “อุ๊งอิ๊งค์” ออกมาโอดครวญทำงานแค่ 1 เดือนจะไล่แล้วหรือ แนะฟังให้ดีๆ มี 3 ข้อที่จะทำ อย่าสติแตก ฟังแต่คนรอบข้างมโนใส่หู เตือนคนทั้งประเทศรู้พ่อทำอะไรไว้ ต้องทำงานเพื่อประเทศชาติล้างบาปให้พ่อ แนะลองไปดูกระทรวงคมนาคม เริ่มมีกลิ่นตุๆ ที่ ทอท. นี่แค่ตัวอย่าง




ในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” หรือ “สนธิทอล์ก”เมื่อวันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม ที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการได้นำคลิปวิดีโอที่เคยไลฟ์สดในรายการ "สนธิเล่าเรื่อง" เมื่อวันพุธที่ 2 ตุลาคม มาเผยแพร่อีกครั้ง ซึ่งเป็นการพูดคุยโดยตรงถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่เมื่อวันก่อนโอดครวญว่าทำงานยังไม่ถึงเดือนเลยแต่นายสนธิจะชุมนุมขับไล่

“ผมจะมาไล่ท่านแล้วหรือ ท่านใช้ความเป็นเด็ก ความน่าสงสาร ทำให้ตัวท่านเหมือนกับถูกผู้ใหญ่อย่างผมรังแก ฟังเสียก่อนแล้วจะรู้ว่าผมไม่ได้รังแกอะไรเขา เขาทำตัวเขาเองทั้งสิ้น” นายสนธิ กล่าว

สำหรับรายละเอียดคำพูดของนายสนธิในรายการ "สนธิเล่าเรื่อง" วันที่ 2 ต.ค. 2567 มีดังนี้

วันนี้มีเรื่องที่ต้องพูดยาวนิดหนึ่ง และเป็นเรื่องๆ เดียว คือเรื่องของคุณแพทองธาร ชินวัตร หรือที่เขาเรียกกันว่า "นายกฯ อุ๊งอิ๊งค์" เพราะว่าเมื่อวานนี้ท่านนายกฯ แพทองธารให้สัมภาษณ์ มีนักข่าวป้อนถาม ก็คือว่าถามชี้นำว่า ผมบอกว่าถ้าผมจะลงถนน ท่านจะว่าอย่างไร นายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ก็พูดออกมา น่าจะเป็นการเทรนกันกับคนรอบตัวนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ บอกว่า "ไม่พร้อมจะมีเรื่อง" ท่านพูดอย่างนี้ บอกคุณสนธิอย่าเพิ่งลงถนนไล่ เธอโอดครวญว่าทำงานได้เดือนเดียว คุยกันก่อนได้ เป็นนายกฯ พร้อมคุยทุกภาคส่วนเพื่อให้ประเทศสงบสุข วอนแนะนำว่าจะคุยแบบไหน พูดขำๆ ว่า ถ้าเปลี่ยนนามสกุลตั้งแต่ตอนแต่งงาน คงไม่ถูกไล่ใช่ไหม

ท่านผู้ชมครับ ท่านนายกฯ แพทองธารครับ ถึงเวลาแล้วที่ท่านจะต้องใช้สติปัญญาในการพิจารณาข้อความ เรื่องราวต่างๆ ของท่าน ท่านอย่าไปเที่ยวให้นักข่าวถามท่าน หรือว่าให้คนใกล้ชิดใส่ร้ายป้ายสี


ในรายการ "ความจริงมีหนึ่งเดียว" ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในวันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน ผมประกาศ จริงๆ ผมประกาศมาตั้งนานแล้วว่า อีกไม่นานจะมีเรื่องใหญ่เทียมฟ้าที่ผมจะทำ ทุกคนก็คิดกันต่างๆ นานา ส่วนใหญ่ก็คิดไปในแนวว่าผมคงจะลงถนนไล่นายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ หรือว่าท่านนายกฯ แพทองธาร แต่วันนั้นผมประกาศวันที่ 29 ผมบอกมี 3 เรื่องที่ผมจะทำ

ผมคิดว่าเรื่องนี้ คลิปนี้ คนที่รักนายกฯ แพทองธาร คนที่ใกล้ชิด คุณดูแล้วอย่ามโน คุณเปิดให้เขาฟัง กรุณาฟังนิดหนึ่ง ผมบอกว่าผมจะทำ 3 เรื่อง เรื่องแรกที่ผมจะทำก็คือว่า ไม่เกินสิ้นปีนี้ผมจะไปยื่นขอความเป็นธรรมกับกรณีที่ผมโดนลอบสังหาร เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2552 โดนยิง 200 นัด บาดเจ็บสาหัส จากวันนั้นถึงวันนี้คดีความไม่ไปไหนเลยมีแค่ออกหมายจับคนบางคนเท่านั้นเอง แต่ก็ไม่ได้สามารถจะสืบต่อไปจนถึงผู้ที่เกี่ยวข้องอีกหลายๆ คน เพราะว่ามีปัญหาทางการเมืองเกี่ยวข้อง ตำรวจที่เคยทำคดีนี้เกษียณอายุ คือ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ พอเกษียณอายุปั๊บ คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีดูแลความมั่นคง ดูแลตำรวจ ก็ย้ายคุณธานี สมบูรณ์ทรัพย์ ไปเป็นรองเลขาธิการนายกฯ ทำงานทางด้านการเมือง หลังจากนั้นก็ไม่มีการเดินเรื่องต่ออีก เป็นเวลาตั้ง 12 ปีแล้ว ผมก็เลยอยากให้ท่านนายกฯ ไหนๆ ก็ขึ้นมาแล้ว แล้วก็กำลังจะเปลี่ยน ผบ.ตร.คนใหม่


ท่านนายกฯ ครับ คนๆ หนึ่งโดนลอบสังหารด้วยอาวุธสงคราม 200 นัด บาดเจ็บสาหัส กระสุนเข้าศีรษะผม แล้วการสืบสวนสอบสวนไม่ได้ไปไหนเลย มีข้อพิรุธน่าสงสัยเยอะแยะไปหมด อย่างเช่น กล้องวงจรปิดในสถานที่เกิดเหตุ เกิดเสียหายไปหมดทั้งถนน ด้วยเหตุนี้ผมมีความจำเป็นจะต้องร้องเรียนขอความเป็นธรรม ท่านจะให้ใครทำก็ได้ ไม่เป็นไร เพราะว่าอีก 2-3 ปี มันก็จะหมดอายุความแล้ว เข้าใจว่าอายุความประมาณ 15 ปี นั่นคือข้อแรกที่ผมจะทำ

ข้อที่สองที่ผมจะไปร้องเรียนท่านนายกฯ ต่อจากเรื่องนี้ คือเรื่องปริมาณผู้ลี้ภัยชาวพม่าเข้ามาในเมืองไทยเยอะเหลือเกิน คือเข้าแล้วไม่ได้อยู่เป็นที่เป็นทาง เข้าแล้วก็เที่ยวไปร่อนเร่พเนจร ไปปรากฏตัวที่สุราษฎร์ธานีบ้าง ไปปรากฏตัวที่โน่นที่นี่บ้าง สมุทรปราการ มหาชัย กลายเป็นเมืองพม่า แม่สอดกลายเป็นเมืองพม่า


ผมอยากจะให้ท่านนายกฯ ลองมาดูเรื่องนี้เสียที เพราะหลักๆ แล้วมันมีส่วนที่เกี่ยวข้องกัน 3 ส่วน ส่วนแรก คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ส่วนที่สอง คือ สำนักงานแรงงาน กรมแรงานง หรือกระทรวงแรงงาน ที่คุณพิพัฒน์ คนของพรรคภูมิใจไทยดูแลอยู่ ส่วนที่สาม คือ กระทรวงมหาดไทย เกี่ยวข้องกันหมด ที่ผมพูดนี้เพราะผมยกตัวอย่างให้ฟังว่า พม่าเข้ามาในเมืองไทยนั้น เข้าได้กรณีเดียว ก็คือ มาทำงาน เมื่อมาทำงานแล้วก็ต้องมีใบ ใบใครออกให้ ? กระทรวงแรงงานออกให้ แล้วออกในกรณีใด ? ออกในกรณีที่เจ้าของงานต้องไปรับรอง และยืนยันว่าคนนี้เป็นคนที่จะเข้ามาทำงาน ต้องจ่ายค่าธรรมเนียม แม้กระทั่งบ้านหลังหนึ่งถ้าจะมีพม่าเข้ามาทำงานเป็นแม่บ้าน ก็ต้องติดต่อไปที่กระทรวงแรงงาน เพื่อบอกว่าจะเอาผู้หญิงพม่าคนนี้มาทำงานที่บ้าน ก็ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมไป และลงทะเบียน แล้วก็มีอายุงาน 1 ปี พอครบ 1 ปี ก็ไปต่ออายุ ท่านนายกฯ ครับ มีอยู่แค่นี้เอง

ส่วนที่เข้ามาเยอะแยะในช่วงนี้ก็คือลี้ภัยจากสงคราม คนที่ลี้ภัยจากสงครามนั้น โดยหลักการแล้วเขาไม่ให้เข้ามาในเมืองหรอกครับ เขาให้อยู่ตามตะเข็บชายแดน ก็แน่นอน ประเทศไทยก็ต้องลงทุนในการสร้างค่ายลี้ภัยออกมา ทุกคนจะต้องไปอยู่ที่นั่น ไม่ใช่ไปปรากฏตัวที่สุราษฎร์ธานี ไม่ใช่ไปปรากฏตัวที่นครศรีธรรมราช ไม่ใช่ไปปรากฏตัวที่โน่นที่นี่แล้วก็ตั้งเป็นชุมชนของตัวเองมา พวกลี้ภัยก็เลยติดต่อกัน เอ้า คุณเข้ามาในเมืองไทย จ่ายเงินจ่ายทองให้ตำรวจที่อยู่ตามด่าน เอาเงินยัดสัก 10,000 มีรถตู้มา มีคนเข้ามา 10-20 คน


ปัญหาซึ่งมันมีความต่อเนื่อง เพราะท่านนายกฯ กำลังจะพิจารณาเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ ท่านบอกได้แน่นอน แต่พรรคประชาชนก็บอกว่าต้องให้ได้ทุกคน รวมทั้งพม่าด้วย ซึ่งผมไม่เห็นด้วย เพราะพม่าไม่ใช่คนไทย พม่ามีค่าแรงที่โรงงานต่างๆ เขามีข้อกำหนดของเขาอยู่แล้ว เขาจะได้อยู่ได้ ถ้าไม่ใช่ค่าแรงพม่าต่ำ โรงงานจะจ้างมาทำไม ก็สู้จ้างคนไทยไม่ดีกว่าหรือ แต่เนื่องจากคนไทยค่าแรงสูงกว่า เพราะฉะนั้น 400 บาท จะต้องเป็นของคนไทยอย่างเดียว เป็นของพม่าด้วยไม่ได้

แล้วยังมีต่ออีก ถามว่าพม่าตั้งโรงเรียนได้ไหม ? ตั้งได้ ถ้ามีคนลงทุน แต่คำถามมีอยู่ว่า ถ้าตั้งโรงเรียนขึ้นมาแล้ว ต้องขออนุญาตใคร ? ก็ต้องขออนุญาตกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยก็เป็นเจ้ากระทรวงอีก อย่าลืมนะครับ พรรคภูมิใจไทยมีส่วนเกี่ยวข้อง 3 แห่ง กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน และ กระทรวงมหาดไทย

เมื่อขออนุญาตได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขและกติกา ตามกฎหมาย ระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ เช่นอะไรบ้าง ? เช่น ต้องมีการสอนภาษาไทย ไม่ใช่สอนภาษาพม่าทั้งหมด เหมือนกับโรงเรียนอินเตอร์ทุกวันนี้ก็มีภาคภาษาไทย และภาคภาษาอังกฤษ ที่สำคัญก็คือว่า ต้องปฏิบัติการร้องเพลงชาติไทย เข้าแถวข้างหน้า จะมีธงหรือไม่มีไม่รู้ ก็ต้องมา ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย ไม่ใช่ร้องเพลงชาติพม่า

เรามีโรงเรียนของพม่า ตั้งโดยหน่วย NGO ของต่างชาติมาตั้งให้ เพื่อเอาลูกหลานพม่ามาเรียนหนังสือ ไม่ผิด คำถามคือได้ใบอนุญาตจากกระทรวงศึกษาฯ หรือเปล่า ? ถ้าได้แล้ว ปฏิบัติตามข้อบังคับของกระทรวงศึกษาฯ ได้ไหม ? ไม่ได้

ตอนนี้พม่าพยายามที่จะออกลูกออกหลานในประเทศไทย เพราะระเบียบมีว่า ถ้าออกลูกออกหลานแล้ว ลูกก็จะเป็นคนไทย มีสัญชาติไทย ทั้งหมดนี้ไม่ได้มีการควบคุมอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว


ท่านนายกฯ แพทองธารรู้ไหมครับ ท่านอาจจะไม่เคยเดินเยาวราช เดี๋ยวนี้มีพม่าหลายคนขายอาหารอยู่ในเยาวราช ถามว่าผิดไหม ? ไม่ผิดหรอก เขามีสิทธิจะขายอาหารได้ แต่ ถ้าสถานภาพเขาเป็นคนต่างชาติ เขาจะขายได้อย่างไร พม่าขายกระเพาะปลา

พม่าเริ่มเข้ามาเป็นเจ้าของกิจการหลายกิจการ อันนี้เป็นเรื่องที่อันตรายมาก เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ถ้าเราไม่ดำเนินนโยบายอะไรบางอย่าง แล้วเรามีพรรคการเมือง คือ พรรคประชาชน (พม่า) หนุนหลังพวกลี้ภัยพม่าพวกนี้ทั้งหมดเลย นี่คือความเป็นห่วงที่ผมมีอยู่ นั่นคือจดหมายคำร้องเรียนเรื่องที่สองที่จะตามไป

เรื่องสุดท้าย ผมเป็นคนพูด ในรายการ "ความจริงมีหนึ่งเดียว" ผมบอกว่าผมจะติดตามการทำงานของท่านนายกฯ แพทองธาร ตลอดเวลา แล้วถ้าท่านทำถูกต้อง ผมให้กำลังใจ แต่ถ้าทำอะไรไม่ถูกต้อง มีการฉ้อราษฎร์บังหลวง ที่สำคัญมีการขายชาติ ขายแผ่นดิน ยกเกาะกูดให้กับเขมร ซึ่งท่านนายกฯ แพทองธารก็ต้องรู้ว่า ตระกูล "ชินวัตร" โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณพ่อของท่าน มีความสนิทสนมกับสมเด็จฮุน เซน มาก แล้วเรื่องเกาะกูดกับเรื่องพื้นที่ทับซ้อนในทะเลนั้น มีการคุยกันระหว่างคุณพ่อคุณ กับสมเด็จฮุน เซน และ ฮุน มาเนต ซึ่งเป็นลูกชายของสมเด็จฮุน เซน ที่เป็นนายกรัฐมนตรีทุกวันนี้


ตรงนี้ถ้าท่านนายกฯ ไม่ลงมาจัดการ หรือระมัดระวังตัว แล้วเราต้องยกชาติยกแผ่นดิน ยกพื้นที่ให้กับเขมร ขโมยพื้นที่เกาะกูดไป รวมเบ็ดเสร็จ รวมทั้งฉ้อราษฎร์บังหลวง ช่วยเหลือผู้คนในเครือข่ายตัวเอง ผมบอกว่า ถ้ามันเป็นอย่างนี้ ผมจะขอลงถนนเพื่อที่จะไล่ท่าน แต่ผมไม่ได้บอกว่าทันที ผมบอกจะรอจนถึงปีหน้า


ท่านนายกฯ ครับผมเป็นผู้ใหญ่แล้ว ผมเป็นคนมีเหตุผล ท่านนายกฯ อาจจะได้รับการเสี้ยมสอนให้พูดจาแบบนี้ เพื่อทำให้ผมดูเหมือนเป็นผู้ใหญ่ที่รังแกเด็ก อะไรกัน เข้ามาแค่หนึ่งเดือนเท่านั้นเอง นี่คือข้อเท็จจริง ผมเล่าให้ฟัง นี่คือข้อเท็จจริงที่แท้จริง ถ้าท่านนายกฯ แพทองธาร เข้าใจที่ผมพูดแล้ว จะเห็นว่าผมไม่ได้ใส่รองเท้าผ้าใบแล้วบอก เฮ้ย ไป ไล่นายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ ไม่ใช่

แล้วผมจะบอกอะไรให้อย่างนะ ไอ้คนที่รอบตัวนายกฯ อุ๊งอิ๊งก็รู้ไว้ด้วย ตั้งแต่นายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ขึ้นมาเป็นนายกฯ วันแรก มาจนถึงวันนี้ ผมไม่เคยวิพากษ์วิจารณ์นายกฯ อุ๊งอิ๊งค์เลยแม้แต่นิดเดียว แม้แต่ครั้งเดียวก็ไม่เคย


นอกจากไม่เคยวิพากษ์วิจารณ์แล้ว ลูกน้องท่าน ชื่อนายวิม ยังติดต่อมาที่หลานผม วริษฐ์ ลิ้มทองกุล ขอร้อง เพราะว่ามคอลัมน์ประจำซึ่งเขียนโดยคุณสุรวิชช์ วีรวรรณ พาดหัวข่าวว่า "นายกฯ ฟันน้ำนม" ท่านนายกฯ ควันออกหู โกรธ ตรงคำพาดหัวว่า "ฟันน้ำนม" นายวิมก็วิ่งเต้นมาหาหลานผม อ๊อฟ หลานผมโทรศัพท์มาหาผม ผมยังนึกในใจ ช่างมันเถอะ เปลี่ยนพาดหัวข่าว แต่เนื้อหาไม่ได้เปลี่ยนนะ ไม่เป็นไร ท่านเองที่เป็นคนเข้ามาแทรกแซงการทำงานของสื่อมวลชน และผมจะบอกให้รู้นะ เป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะ

ที่พูดมาให้ฟังนี่ ท่านผู้ชม ท่านนายกฯ แพทองธาร ท่านต้องรู้นะ วันนั้นถึงวันนี้ผมไม่เคยพูดถึงท่านเลย ไม่เคย แต่วันนี้ มาถึงวันนี้แล้ว ต้องพูดล่ะ เพราะว่าลูกน้องท่าน คนรอบตัวท่านทะลึ่ง ฟังไม่ได้ศัพท์ จับไปกระเดียด เอาเรื่องที่ผมพูดอย่างนี้ เอามาแปลความอีกอย่างหนึ่ง

ท่านนายกฯ แพทองธารสังเกตไหมว่าผมแทบจะไม่ได้พูดถึงเรื่องพ่อท่านเลย เพราะอะไร ? ก็เป็นที่รู้กันอยู่แล้ว ท่านนายกฯ ครอบครัวท่านนายกฯ คนที่ใกล้ชิดกับท่านนายกฯ ถ้าไม่โกหกตัวเอง ก็ต้องย่อมรู้ว่าพ่อคุณ ทักษิณ ชินวัตร คดโกงในการติดคุก ไม่ได้ไม่สบายจริง แต่ไม่ต้องการเข้าไปอยู่ในคุก เพียงเพราะเคยลั่นวาจาว่า "วันเดียวก็ไม่ยอมติดคุก"ท่านต้องรู้ว่าเรื่องนี้คุณพ่อท่านผิด แต่ช่วยไม่ได้ เนื่องจากเป็นพ่อนี่ ลูกก็ต้องรักพ่อสิ แล้วเป็นลูกคนเล็ก คนสุดท้อง พ่อแม่ก็รัก แต่ทำไมผมไม่พูด ? เพราะว่าโจทก์เรื่องนี้มีเยอะแยะไปหมด มีคนไปแจ้งความ มีคนไปร้องสิทธิมนุษยชน มีคนไปโน่นไปนี่ ผมไม่สนใจ เพราะผมคิดว่าคุณพ่อคุณต้องรับเวรรับกรรมนี้ตลอดไปจนเขาตาย


ท่านนายกฯ แพทองธารครับ ช่วยถามคุณพ่อท่านหน่อยซิ ว่ามีเงินอีกแสนล้าน สองแสนล้าน มีอำนาจ คุณพ่อท่านหนีกรรมพ้นไหม ก็หนีกรรมไม่พ้น กรรมกำลังไล่ล่าทีละสเตปๆ ผมไม่ต้องไปยุ่งเลย เพราะว่ามีโจทก์อยู่แล้วตั้งเยอะแยะไปหมด ผมไม่อยากเข้าไปให้มันวุ่นวาย เพราะผมรู้ว่ามันเป็นกระบวนการที่คุณพ่อของท่านนายกฯ ถนัดเรื่องนี้ ผมเองตอนแรกที่คุณพ่อของท่านนายกฯ จะกลับมา มีคนที่ใกล้ชิดทั้งพ่อท่านนายกฯ กับตัวผม ถามว่า พี่ครับ ทักษิณจะเอาอย่างไร เขาอยากกลับเมืองไทย ผมบอกว่า ก็กลับมาติดคุกสิ แล้วผมเชื่อว่าด้วยบารมีทักษิณ ด้วยการติดต่อของผู้มีอำนาจ ทักษิณก็จะได้รับพระราชทานอภัยโทษ ส่วนจะได้รับหมดหรือเปล่าผมไม่รู้ แต่ต้องเข้ามาติดคุกก่อน ไม่มีทางเลือกทางอื่นเลย ก็ปรากฏว่ากลับมาจริง ก็ติดคุกจริง แต่ 18 ชั่วโมง แล้วก็ได้รับพระราชทานอภัยโทษจริง แต่ติ่งไว้อีก 1 ปี ไม่ใช่ได้รับหมด


1 ปีตรงนี้ล่ะที่ทำให้เกิดเรื่องเกิดราวขึ้นมา ผมบอกว่าทำไมต้องหาเรื่อง หาเหาใส่หัว ก็ถ้าระดับพ่อของท่านนายกฯ เข้ามาติดคุก อายุเกิน 70 ก็สามารถไปอยู่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้ ทางโรงพยาบาลเขาจัดที่จัดทางให้เป็นพิเศษอยู่แล้ว การเยี่ยมการอะไร ส่งอาหารเข้ามาทาน เขาบริการให้เป็นกรณีพิเศษ พ่อท่านนายกฯ จะตายเหรอ ผมก็เคยติดคุกมา 2 ปี 11 เดือน 27 วัน พ่อท่านนายกฯ จะอยู่ได้อย่างสบายมากกว่าผมหลายร้อยเท่า ทำได้แม้กระทั่งสามารถโทรศัพท์จากข้างในไปเยี่ยมคนโน้นคนนี้ได้ ทำได้แม้กระทั่งใช้อภิสิทธิ์ในการที่จะมีการเยี่ยมได้ตลอดเวลา เสาร์-อาทิตย์ก็เยี่ยมได้ แต่ขอให้ติดคุกได้ไหม พ่อท่านนายกฯ ยังไม่ยอมเลย วันเดียวก็ไม่ยอม แล้วก็ไปปั้นเรื่องปั้นราวขึ้นมา ไม่ใช่ผมไม่เคยพูด

แล้วพอออกมา วันดีคืนดีหลุดปากออกมาว่า เดี๋ยวจะหาทางให้อาปูกลับมาอีกทีหนึ่ง

ท่านนายกฯ ครับ ลำพังพ่อท่านนายกฯ คนเดียวก็ทำสังคมเขาป่วน วุ่นวายไปหมด ไปถามผู้ที่รู้กฎหมายซิ ผู้ที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นผู้พิพากษา อัยการ หรือทนายความ ทุกคนเขาส่ายหัวกับพ่อของท่านนายกฯ เพราะฉะนั้นแล้ว จากวันนี้เป็นต้นไปไม่ควรจะพูดเรื่องหาทางให้อาปูกลับมา อาปูจะกลับมา อาปูต้องมาติดคุกจริงๆ นะคราวนี้ และผมไม่รู้ว่าอาปูจะได้รับพระราชทานอภัยโทษหรือเปล่า แต่ถ้าฝีมือของพ่อท่านนายกฯ แล้ว เขาคงหาทางที่จะทำให้ได้รับพระราชทานอภัยโทษ แต่ต้องเข้ามาติดคุก


เอาล่ะ ท่านนายกฯ เข้าใจแล้วใช่ไหมว่า ผมไม่ได้ใส่รองเท้าผ้าใบลงมาไล่ท่านนายกฯ แต่ผมบอกว่าผมจะจับตาดูการทำงานของท่าน ไปฟังคำพูดของผม ผมบอกไม่ใช่ตอนนี้ อาจจะเป็นปีหน้า ต้นปี หรือกลางปี หรือปลายปี ขึ้นอยู่กับการกระทำของท่านนายกฯ ว่า หนึ่ง ท่านทำงานเพื่อชาติหรือเปล่า ที่ผมต้องการคือท่านต้องทำงานเพื่อชาติ เพื่อส่วนรวม ท่านสามารถจะทิ้งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับท่าน พ่อท่าน แม่ท่าน พี่ท่าน โน่นนี่นั่น คนใกล้ชิด ไว้ข้างๆ ตัว แล้วท่านก็บอก ถ้าท่านนายกฯ ทำงานเพื่อชาติจริงๆ ท่านจะล้างบาปให้กับพ่อท่าน

แต่ท่านยังรักพ่อมากกว่ารักชาติ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นผมก็ไม่ประหลาดใจ ทิศทางมันน่าจะไปทางด้านนั้น แต่ผมบอกท่านนายกฯ แล้วนะ หลายเรื่องนะ การคอร์รัปชัน ความไม่โปร่งใสในการทำงาน ความที่ประชาชนไม่ได้รับความยุติธรรมที่ควรจะได้รับ เหมือนผมโดนยิงไปแล้ว 12 ปี ไม่ได้รับความยุติธรรม ผมกำลังจะทดสอบท่านว่าท่านจะหาความยุติธรรมให้ผมได้หรือเปล่า มีที่ไหน โดนลอบสังหารด้วยอาวุธสงคราม 200 นัด 12 ปีแล้ว เรื่องราวไม่ได้ไปไหนเลย ท่านนายกฯ นี่คือสิ่งที่ผมบอก

แต่ที่สำคัญที่สุด นอกเหนือกว่าสิ่งอื่นใด แม้กระทั่งการยิงผม คือ ท่านต้องไม่ขายชาติ ท่านต้องไม่ยกแผ่นดินเกาะกูดให้กับเขมร เพื่อแลกกับสิทธิในการขุดน้ำมันด้วยกัน พื้นที่ทับซ้อนในทะเล ชอบพูดนักว่าที่เท่ากับแมวดิ้นตาย ทะเลาะกันอยู่ได้ ไม่ใช่ปัญหาเรื่องทะเลาะ ปัญหาเรื่องยอมรับ เขมรยอมรับว่าที่นี้่เป็นที่ของไทย ไม่รุกเข้ามา เมื่อยอมรับแล้ว การเจรจาเพื่อที่จะลงทุนร่วมกันในที่นั้นย่อมเป็นไปได้ ถูกไหมท่านนายกฯ แต่ไม่ใช่มาตัดให้เขมรเพื่อให้เขมรมีสิทธิ์ นี่คือสิ่งที่ผมจะยอมให้ไม่ได้


ท่านนายกฯ ไม่สังเกตหรือว่า วันนี้พรรคพลังประชารัฐเริ่มออกมาแถลงข่าวโดยคุณไพบูลย์ นิติตะวัน เสนอให้ยกเลิก MOU 2524 ท่านนายกฯ ยังเด็กไป ไม่รู้ ผมอ่านข่าวแล้วผมหัวเราะ เพราะว่ามันเป็นตลกร้าย เพราะสมัยก่อนพวกผมสู้เพื่อยกเลิก MOU 2524 มาตั้งแต่สมัยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว แล้วคนที่หนุนหลัง MOU 2524 อยู่ ไม่ยอมยกเลิก ก็คือท่าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แต่วันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ถูกกับคุณพ่อท่าน แล้วเห็นว่าพ่อของท่านายกฯ กำลังเจรจาอะไรกับฮุน เซน อยู่ ก็เลยหาเรื่องนี้มายัน พวกนี้ทำงานมีวาระซ่อนเร้นทั้งนั้น แต่ผมไม่มี ท่านนายกฯ


ท่านนายกฯ ขึ้นมาเป็นนายกฯ ครั้งนี้ แม่ไม่ต้องการให้เป็น คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร พูดกับคนใกล้ชิดหมดเลย ขอร้อง อย่าเอาอุ๊งอิ๊งค์มาเป็นนายกฯ ขอร้อง แต่ปรากฏว่าพ่อคุณ ท่านนายกฯ ต้องการให้ท่านเป็น แต่ก็ขัดแม่ไม่ได้ ทั้งสองคนผัวเมียเลยตัดสินใจว่าให้ลูกสาวตัดสินใจก็แล้วกัน ใช่หรือเปล่า อย่าโกหกผม

ท่านนายกฯ ไปตัดสินใจคืนหนึ่ง แล้วตอนเช้าท่านแจ้งให้แม่ทราบเลยว่าหนูอยากเป็นนายกฯ เอาล่ะ ท่านนายกฯ เข้าใจใช่ไหม คำว่า "หนูอยากเป็นนายกฯ" มันไม่ใช่แค่คำพูดนะ มันต้องตามด้วยการกระทำของตัวเอง นายกฯ ที่แท้จริงต้องทำอะไรบ้าง

เมื่อท่านนายกฯ ตัดสินใจจะก้าวเข้าสู่สนามสงครามแล้ว ท่านนายกฯ ต้องยอมรับหอก ดาบ ง้าว กระสุนปืน ที่ถั่งโถมหาท่านนายกฯ ท่านนายกฯ ต้องเข้มแข็ง ต้องอดทน อย่าควันออกหูเพียงเพราะว่าหนังสือพิมพ์ คอลัมน์ประจำคอลัมน์หนึ่งของนายสุรวิชช์ วีรวรรณ พาดหัวข่าวว่า "นายกฯ ฟันน้ำนม" ท่านสติแตกเลย นี่ไม่ใช่คุณสมบัติของคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี


ที่ผมต้องการย้ำท่านนายกฯ นะ ท่านไปใช้ใครก็ได้ ประธานที่ปรึกษาท่านก็ได้ นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ทีมงานอย่างเช่นหมอเลี้ยบ ธงทอง จันทรางศุ ศุภวุฒิ สายเชื้อ ซึ่งพ่อท่านตั้งมาเพื่อเอามาประกบท่าน ช่วยเหลือท่าน แล้วที่เวลาท่านถ่ายรูปทีไร ก็ต้องมีแถวคนประมาณ 8 คน ยืนด้วย มันเป็นอะไรท่านนายกฯ ท่านไม่เป็นตัวของตัวเองเลย ท่านให้ทุกคนไปเช็กว่า ตั้งแต่วันที่ท่านขึ้นเป็นนายกฯ จนถึงวันนี้ สนธิ ลิ้มทองกุล เคยพูดถึงท่านหรือเปล่า ไม่เคย เพราะผมเห็นใจ ผมอยากให้ท่านนายกฯ ทำงาน ทำงานแสดงผลงานออกมา ที่ท่านบอกว่ายังไม่ทันไร แค่เดือนเดียวจะมาไล่เหรอ ท่านพูดผิด ผมบอกว่าผมจะจับตาดูการทำงาน


ท่านนายกฯ รู้ไหม ถ้าท่านนายกฯ เป็นผู้บริหารจริง ท่านต้องมีความกล้าหาญ ท่านต้องอ่อนโยนแต่ท่านต้องไม่อ่อนแอ ท่านต้องแข็งแรงแต่ท่านต้องไม่แข็งกร้าว ท่านต้องบริหารกระทรวงเป็น เหมือนกับวันนี้ท่านหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย อนุทิน ชาญวีรกูล ทะเลาะกับผู้ว่าฯ เชียงรายที่เกษียณอายุไปแล้ว จะตั้งกรรมการสอบ ท่านนายกฯ ต้องบอกเขาว่า พี่อนุทิน ช่างมันเถอะพี่ ปล่อยเขาไปดีกว่า เดี๋ยวเขาจะหาว่าพี่อนุทินเหมือนแม่ค้าปากคลองตลาด เที่ยวไปทะเลาะกับเขาทั้งๆ ที่เป็นรัฐมนตรีว่าการฯ ไปจนถึงเป็นรองนายกรัฐมนตรี

แล้วท่านนายกฯ รู้ไหม สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งสนิทกับคุณพ่อท่าน ท่านนายกฯ ลงไปดมดู จะรู้ว่ามีความไม่ชอบมาพากล ไม่โปร่งใสในกระทรวงคมนาคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ที่มีการทำมาหารับประทาน มีเจ้าประจำอยู่แค่เจ้าเดียว งานอะไรก็ตามก็เข้าสู่ไอ้หมอนี่ ท่านนายกฯ อยากรู้ชื่อใช่ไหม ชื่อ "บอย สกาย" นี่ผมยกตัวอย่างให้ฟังนะ ยังมีอีกเยอะ สิ่งนี้ต่างหากที่ท่านนายกฯ ต้องลงไปจัดการ ทำให้เกิดความโปร่งใส ใช่ไหมท่านนายกฯ


สมัยหนึ่งที่ท่านอดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ ประชาชนก็แดกดันเศรษฐา ทวีสิน ใส่ถุงเท้าแดงบ้าง เอาผ้าขาวม้ามาคลุมตัวบ้าง ไปโน่นไปนี่บ้าง แต่ท่านอดีตนายกฯ เศรษฐาท่านทำงานเร็ว ท่านตัดสินใจได้ ท่านนายกฯ แพทองธาร ท่านกล้าตัดสินใจหรือเปล่า เขาบอกว่าเรื่องน้ำท่วมที่เชียงราย ถ้าท่านนายกฯ เศรษฐาอยู่ เรื่องจบไปนานแล้ว


ท่านนายกฯ ครับ ขออนุญาต ทุกคนเขารู้ว่าท่านนายกฯ รวย คุณหญิงพจมานก็รวย พ่อก็รวย ท่านนายกฯ อย่าลืมตัว ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ท่านไม่ใช่คนเดินแฟชั่นโชว์ที่ต้องเปลี่ยนชุดถือกระเป๋าราคาแพง นาฬิการาคา 10-20 ล้าน ก็แล้วแต่ เปลี่ยนชุดเช้งวับ ท่านแต่งตัวเหมือนชาวบ้านเขาแต่งได้ไหม ขรึม เท่ได้ ใช้กระเป๋าเหมือนชาวบ้านเขาใช้ได้ไหม ท่านไม่ต้องโชว์หรอกครับ Hermes ใบละ 1-2 ล้าน ท่านใช้กระเป๋าใบละ 10 ล้าน เขาก็ไม่ว่า เพราะเขารู้ว่าท่านมีปัญญา แต่การเป็นนายกรัฐมนตรีนี้ แต่งตัวออกมาเหมือนเดินแฟชั่นโชว์นั้น เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของคนมากมายตลอดเวลา ท่านต้องกล้าตัดสินใจ


ท่านนายกฯ ครับ การที่พ่อท่านเลือกท่าน ท่านรู้หรือเปล่าว่าเพราะอะไร ง่ายนิดเดียว พ่อท่านไม่เคยไว้ใจใครเลย ไม่เคย ไม่เคยไว้ใจใครเลยแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นลูกสาวตัวเอง โอเค ได้ แต่ความที่แม่ คือคุณหญิงพจมาน ขัดขวาง ไม่ยอมให้เป็น เพราะรู้ว่าจะมีปัญหา ก็เลยต้องตัดสินใจว่าโยนให้ท่านนายกฯ แพทองธารเป็นคนตัดสินใจ

ท่านครับ ท่านมีลูก 2 คน ผมรู้ท่านรักลูก คิดถึงลูก ท่านอยากจะใช้ชีวิตวันเสาร์-อาทิตย์อยู่กับลูก ในฐานะที่เป็นแม่ ไม่ผิด ถ้าเป็นอย่างนั้น ท่านอย่ามาเป็นนายกฯ เพราะประเทศไทยปัญหาชาติบ้านเมืองไม่มีวันหยุด ไม่มีวันหยุด ท่านนายกฯ ท่านนายกฯ ต้องรู้จักตัวเองบ้างว่าท่านสวมหมวกอะไรอยู่ในขณะนี้ ผมรู้ว่าคุณพ่อคุณเป็นห่วงท่าน ส่งทีมงานมา ตั้งคณะที่ปรึกษา ที่ผมเล่าให้ฟังแล้ว ประธานคือพันศักดิ์ วิญญรัตน์ เข้ามาล้อมรอบ นั่งคุยด้วย ออกมาหมอเลี้ยบก็ให้สัมภาษณ์ทันทีเลยว่าจะอยู่จนครบ 4 ปี จะทำให้ประชาชนร่ำรวยขึ้น ประเด็นไม่ใช่ปัญหาประชาชนจะร่ำรวยหรือไม่ร่ำรวย ประเด็นปัญหาอยู่ที่ว่า ท่านนายกฯ เป็นตัวของตัวเองได้ไหม


แต่เผอิญการเป็นตัวของตัวเองนั้น ท่านนายกฯ ต้องมีปัญญา คำถามคือ ท่านนายกฯ มีสติและมีปัญญามากพอที่จะเป็นนายกฯ ได้ไหม ไม่ใช่ที่ท่านผิดพลาดไปในเรื่องของค่าเงินบาทแข็ง พอค่าเงินบาทแข็ง ท่านก็บอกว่า ดี ทำให้การส่งออกดีขึ้น นี่คือข้อผิดพลาดที่เรือหายไปแล้วนะ ท่านพูดมาแล้วหลายครั้งเรื่องนี้ ตั้งแต่ต้น แต่ผมไม่เคยวิพากษ์วิจารณ์ท่านเลย ผมเฉย ผมคิดในใจว่าท่านคงไม่รู้ ไม่เข้าใจเรื่องเศรษฐศาสตร์ น่าเห็นใจ

ท่านนายกฯ มันหมดยุคแล้วที่ท่านนายกฯ ไปที่ไหนแล้วต้องมีการจัดอีเวนต์ แล้วให้ทุกอย่างไปเป็นศูนย์กลางที่ตัวท่าน ท่านจำไม่ได้หรือที่ท่านไปผัดอะไรก็ตามแล้วไม่ได้เปิดเตาแก๊ส คือทุกคนพยายามจะโปรโมตตัวท่านนายกฯ วันนี้ท่านภูมิใจใช่ไหมว่าคนบอกว่าอุ๊งอิ๊งค์เหมาะเป็นนายกฯ คนที่หนึ่ง ท่านนายกฯ อย่าเพิ่งดีใจ เขาเชียร์ท่านเพราะอะไร ? เพราะท่านแจกเงินเขา ท่านต้องรู้ นิสัยคนไทยเป็นอย่างนี้ แล้วพ่อคุณก็รู้ดีว่านิสัยคนไทยเป็นอย่างนี้ ถึงเที่ยวเอาเงินเอาทองไปให้เขา ก็เลยทำให้ชื่อ "พรรคเพื่อไทย" มีชื่อเสียงขึ้นมา


ท่านนายกฯ ครับ การศึกษาบ้านเราจะไปอย่างไร อนาคตบ้านเราจะเป็นอย่างไร คุณพิชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ทะเลาะกับคุณเศรษฐพุฒิ ท่านต้องบอกคุณพิชัยให้หยุดพูด ไม่ต้องพูดอะไรทั้งสิ้น คุณเศรษฐพุฒิท่านจะว่าอย่างไรก็ว่าไป ตั้งใจทำงานไป แล้วท่านนายกฯ ยอมรับใช่ไหมว่าที่คนมาเชียร์ท่านก็เพราะว่างานที่ท่านอดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน เตรียมเอาไว้ในเรื่องเงินดิจิทัล 10,000 บาท เป็นงานที่เขาทำมาตลอด แล้วมาได้ใช้ตอนที่ท่านขึ้นมา

ท่านนายกฯ ครับ ผมเป็นคนที่มีเหตุมีผล ผมไม่ใช่นักเลงหัวไม้ ผมไม่รังแกคน แต่ผมจะไม่ยอมให้ใครมารังแกผม ท่านไม่ต้องกังวล ท่านทำงานไป ท่านตรวจสอบ จบวันนี้ถ้าท่านฟังออก ท่านรู้เรื่องดี ท่านลองยกหูโทรศัพท์หาคุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ซิ อาสุริยะ คุณสนธิเขาพูดถึงเรื่องกระทรวงคมนาคม การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ช่วยถามท่านประธานบอร์ด AOT หน่อยสิ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ว่าที่คุณสนธิพูด เป็นไปได้ไหม ตรวจสอบหน่อย หนูจะได้ชี้แจงได้ถูก แต่ถ้าท่านไม่ทำ ก็แสดงว่าท่านเอื้อประโยชน์ต่อการวิ่งเต้น


ท่านนายกฯ ครับ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว อธิบายให้ฟังอีกนิด ท่านรู้ใช่ไหมว่าการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย เวนคืนที่ดินชาวบ้านเขา เสร็จเรียบร้อยแล้วค้างเงินเขา 15-16 ปีแล้วยังจ่ายไม่หมด นี่จะทำแบบเดียวกันอีกที่เชียงใหม่ ประชาชนเขาประท้วงกันเรือหายวายป่วง แล้วท่านนายกฯ คุณพ่อท่านก็เป็นคนเชียงใหม่ ท่านลองคิดดู

ผมขอเถอะท่านนายกฯ ท่านตั้งใจทำงานเพื่อชาติ ท่านทำได้หรือเปล่า เพื่อชาติจริงๆ ท่านต้องบอกพ่อ พ่อ หนูขอทำงานเพื่อส่วนรวมได้ไหม พ่ออย่ามายุ่งกับการงานของหนูได้ไหม พ่อหาคนมาแนะนำหนูได้ แต่พ่ออย่าสอดแทรกอะไรเข้ามาให้หนูทำ เป้าหมายของหนูต้องการให้ประเทศชาติไปรอด เอาส่วนรวมเป็นตัวตั้ง เมื่อส่วนรวมเป็นตัวตั้งแล้ว หนูถือว่าหนูทำงานได้สำเร็จแล้ว

ผมไม่เคยสนใจท่านนายกฯ เลย เรืองไกรไปฟ้อง บอกว่าท่านนายกฯ ถือหุ้นอยู่อัลไพน์ และโอนหุ้นไปทีหลัง พอมาเป็นนายกฯ แล้วค่อยโอนหุ้น ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ท่านนายกฯ ต้องรับด้วยตัวเอง ถามว่าทำผิดไหม ผมไม่รู้ แต่ถ้าผิดก็เป็นเวรกรรมที่ท่านนายกฯ ต้องรับไป แต่ที่สำคัญที่สุด ท่านนายกฯ ท่านอย่าลืมตัวท่านเอง ท่านตัดสินใจจะเข้าสู่สงครามนี้ด้วยตัวท่านเอง ท่านนายกฯ ถ้าท่านรับไม่ไหว ท่านก็ถอยออกมา แต่ท่านเข้าไปแล้ว ท่านต้องสู้

ท่านอย่ามาโอดครวญบนพื้นฐานที่ไม่ใช่ความจริง บอกว่าเพิ่งทำงานได้เดือนเดียว บอกคุณสนธิอย่าเพิ่งมาเดินถนนไล่ ท่านนายกฯ ท่านโกหก ถ้าท่านอ่านเรื่องที่ผมพูด เอาข้อความที่ผมพูดไป ผมทำ 3 เรื่องเท่านั้นเอง เรื่องแรก ผมโดนยิง เรื่องที่สอง เรื่องพม่า และเรื่องที่สาม ผมจะจับตาดูการทำงานของท่าน ถ้าท่านทำงานไม่โปร่งใส ปล่อยให้การทุจริตเกิดขึ้นทั่วทุกแห่ง จากคณะรัฐบาลของท่าน แล้วก็ขายชาติ ขายบ้านเมือง ยกแผ่นดินให้เขมร เมื่อนั้นล่ะผมจะเจอท่านบนถนน เพราะว่าผมไม่มีอะไรเสีย ความเป็นความตายโดนยิง 200 นัด ผมก็ผ่านไปแล้ว คุกตะรางผมก็ติดมาแล้ว 2 ปี 11 เดือน 27 วัน


ท่านนายกฯ สมัยที่ท่านยังเป็นเด็กๆ อยู่ ท่านคงไม่รู้ว่าผมไล่พ่อท่านเรื่องอะไร พ่อท่านนายกฯ เป็นคนกลับคำพูด สัญญาว่าจะทำอะไรแล้วไม่ได้ทำตามสัญญาเลย ผมถึงเข้ามาช่วยตอนแรกพ่อท่านนายกฯ ไปกินก๋วยเตี๋ยวกับผมที่บ้านผม แล้วผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ คนหัวขาว นั่งอยู่ที่ศาลานอกตัวบ้าน พ่อท่านนายกฯ บอกว่า คุณสนธิ ผมจะเล่นการเมือง ผมรวยแล้ว ผมไม่ต้องการอะไร คุณสนธิช่วยผมหน่อยได้ไหม ผมบอกว่า คุณทักษิณ ถ้าคุณรวยแล้ว คุณจะมาเล่นการเมืองผมยินดีช่วยคุณเต็มที่ เวลาผ่านไปไม่นาน คุณพ่อของท่านนายกฯ ก็เปลี่ยน เปลี่ยนทุกอย่าง นี่ผมพูดตามประสบการณ์จริงที่เจอ

จตุพร พรหมพันธุ์ เขามาว่าพ่อของท่านนายกฯ เขาว่าไม่ผิดหรอก เพราะสิ่งที่จตุพรพูดนั้น ก็คือนิสัยของพ่อท่านนายกฯ จริงๆ เป็นอย่างนั้นจริงๆ ท่านนายกฯ ท่านอย่าโกรธผม ผมใช้ธรรมนำหน้า "ธรรม" คืออะไร ? ธรรมคือความจริง และท่านเข้าใจอย่างนะว่าผมมไม่ได้คิดที่จะออกมาไล่ท่านวันนี้ พรุ่งนี้ ผมเป็นผู้ใหญ่ ผมมีเหตุมีผล ท่านต้องกระทำอะไรที่มันผิดพลาดมากขึ้น แล้วท่านไม่แก้ไข สั่งสมมาเรื่อยๆ จนกระทั่งสังคมเริ่มรับไม่ได้แล้ว เมื่อเริ่มรับไม่ได้แล้ว สังคมต้องการให้มีคนนำ ผมจะนำเอง

ท่านนายกฯ รู้อะไรหรือเปล่า วันที่ผมออกมาไล่คุณพ่อท่านนายกฯ ผมไปหาหลวงตามหาบัว เรียนท่านว่า ผมจะออกมาไล่ทักษิณ ชินวัตร ท่านนายกฯ รู้ไหมว่าคุณพ่อท่านนายกฯ นี่ หลวงตาพูดอย่างไร หลวงตาบอกต่อหน้าคนที่ศาลาที่วัดป่าบ้านตาด หลวงตาบอกว่า ทักษิณก็เหมือนแขนขวาเรา สนธิก็เหมือนแขนซ้ายเรา คนก็ถามว่า ถ้าแขนขวาใช้ไม่ได้ล่ะ ท่านก็พูดหน้าตาเฉยว่า ถ้าแขนขวามันเน่าก็ต้องตัดมันทิ้ง


ท่านนายกฯ ท่านเป็นคนรุ่นใหม่ ท่านอาจจะไม่เข้าใจเรื่องของกฎแห่งกรรม ผมอายุ 78 แล้ว ผมแก่กว่าคุณพ่อท่านนายกฯ 2 ปี เขาเกิด 2492 ผมเกิด 2490 จริงๆ แล้ว โดยวัยวุฒิตามสังคมไทย ผมต้องเป็นลุงท่านนายกฯ แต่ผมไม่กล้าไปนับญาติกับท่านนายกฯ ไม่กล้า ผมอยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว แต่ถ้าเป็นเรื่องชาติบ้านเมือง ท่านนายกฯ ครับ ผมไม่เจียมเนื้อเจียมตัวหรอก ท่านนายกฯ ผม 78 แล้ว พฤศจิกายนนี้ 78 ผมตายเมื่อไรก็ไม่รู้ แต่ถ้าจะตายทั้งทีให้มันลือลั่นไปทั่วในประวัติศาสตร์ ให้มันลือลั่นไปเลย ท่านนายกฯ ไม่ต้องกังวล และให้รู้ด้วยว่าถ้าผมประท้วงท่านนายกฯ ในอนาคต ไม่ใช่ตอนนี้ ไม่มีใครอยู่เบื้องหลังผม ไม่ต้องมาหาเลยว่าจะเป็นทหารคนไหน ไม่มี ผมไม่ใช่สุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้นำ กปปส. ที่มีกองทัพอยู่ข้างหลัง ไม่ใช่ ทหารยิงผมน่ะ ท่านนายกฯ ศาลจำคุกผม ท่านนายกฯ ผมตัวคนเดียว แต่ผมมีประชาชนที่รักความเป็นธรรม และเขารักผม และเขารู้ว่าผมทำงานโดยไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง แต่ทำงานให้ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทำงานให้ชาติจริงๆ

วันที่ผมออกไปสู้กับคุณพ่อท่านนายกฯ ผมบอกกับทุกคนเลย เฮ้ย ถ้าจะมีกูคนเดียว กูก็จะไป เพราะกูเชื่อของกูอย่างนี้

ก่อนจะจบ ท่านนายกฯ ครับ สั้นๆ ถ้าผมจำเป็นต้องประท้วงท่านนายกฯ ในอนาคต ซึ่งผมไม่รู้ว่าเมื่อไร สุดแล้วแต่การทำงานของท่านนายกฯ ผมมีทางเลือกอยู่ทางเดียว ผมต้องชนะ ไม่อย่างนั้นผมยอมตาย หวังว่าสิ่งที่ผมพูดนี้จะเป็นประโยชน์ ถ้าท่านนายกฯ เปิดใจรับฟังความเห็นของผม นี่กล่าวจากความจริงใจในใจ เพราะโดยวัยวุฒิแล้วท่านก็เหมือนหลานผม แต่ผมไม่กล้านับลุงนับหลานกับท่าน แต่ผมแก่กว่าพ่อท่านนายกฯ 2 ปี ผมอยู่อีกไม่กี่ปีก็จะตายแล้ว


ท่านนายกฯ ก็ต้องตายสักวันหนึ่ง คุณพ่อท่านนายกฯ ก็ต้องตายสักวันหนึ่ง คำถาม ถ้าคุณพ่อท่านนายกฯ ตายไปวันนี้ พรุ่งนี้ หรือมะรืนนี้ ตายอย่างมีสง่าราศีหรือเปล่า ? ไม่มี ท่านนายกฯ ต้องเข้ามากู้ศักดิ์ศรีของคุณพ่อท่านนายกน ด้วยการทำความดี ทำงานเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่าไปใส่ใจพวกญาติพี่น้องท่าน

ท่านนายกฯ ครับ ผมมีเพียงแค่นี้ ท่านครับ ผมยังไม่ได้ลงถนนไล่ท่าน ท่านไปฟังคำพูดผมดีๆ แล้วคนรอบตัวนายกฯ ขอประทานโทษ พวกมึงเอาข้อมูลจริงๆ ให้เขาอ่านหน่อยได้ไหม อย่าไปมโนใส่หูเขา แล้วท่านนายกฯ ต้องไม่สติแตกง่ายๆ ถ้าตัดสินใจมาลงเล่นสงครามแล้ว ต้องพร้อมจะเจ็บ เท่านั้นล่ะครับท่านนายกฯ วันนี้มีอยู่เพียงแค่นี้ สวัสดีครับ


กำลังโหลดความคิดเห็น