นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช ชี้ไม่ควรยกเลิกการทัศนศึกษาของนักเรียน แต่ควรไปยกเลิกดูงานของนักการเมืองมากกว่า เผยหมดงบเป็นพันล้าน เอามาสนับสนุนการทัศนศึกษาของนักเรียนดีกว่า
จากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้รถบัสนักเรียน เหตุเกิดบนถนนพหลโยธิน ขาเข้า ก่อนถึงอนุสรณ์สถาน เบื้องต้นมีรายงานว่ามีเด็กนักเรียนเสียชีวิต และบาดเจ็บหลายราย ต่อมามีรายงานว่ารถบัสคันเกิดเหตุจดทะเบียนครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2513 โดยรถบัสมรณะใช้มาแล้วกว่า 50 ปี จดทะเบียนกับกรมการขนส่งฯ แจ้งว่าไม่ได้ติดตั้งถังแก๊สเอ็นจีวี แต่ตอนเกิดเหตุพบติดถังแก๊สเอ็นจีวี ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ต่อมาชาวเน็ตออกมาถกสนั่นในหัวข้อ "ยกเลิกทัศนศึกษา" ทำเสียงแตกมองกัน 2 มุม กลุ่มให้ยกเลิกบอกถ้าดูแลไม่ได้ก็ไม่ควรจัด ด้านมุมของกลุ่มไม่อยากให้ยกเลิก เผยการทัศนศึกษาไม่ได้ทำร้ายใครประเด็นมันอยู่ที่คนขับ กับมาตรฐานของสภาพรถ
ล่าสุดวันนี้ (3 ต.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "เทพไท - คุยการเมือง" ในประเด็นทัศนศึกษากับการดูงานของนักการเมือง ควรยกเลิกอะไรมากกว่ากัน โดยเจ้าตัวได้ระบุข้อความว่า
"ยกเลิกโครงการทัศนศึกษาของนักเรียน กับยกเลิกการดูงานของนักการเมือง ควรยกเลิกอะไรมากกว่ากัน
เกิดประเด็นดรามาเรื่องควรจะยกเลิกโครงการทัศนศึกษาของนักเรียนหรือไม่ หลังจากเกิดเหตุโศกนาฏกรรมไฟไหม้รถบัสนักเรียนโรงเรียนเขาพระยาสังฆาราม จังหวัดอุทัยธานี จนนำมาเป็นประเด็นถกเถียงกัน จนเกิดความเห็นออกเป็น 2 ฝ่าย คือ
1. ฝ่ายที่เห็นควรว่ายกเลิกโครงการทัศนศึกษาของนักเรียนจะอ้างเหตุผลเรื่องความปลอดภัยของนักเรียน และการประหยัดค่าใช้จ่าย
2. ส่วนฝ่ายที่สนับสนุนให้มีโครงการศึกษาดูงานต่อไป ก็เห็นว่าเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้เรียนรู้นอกห้องเรียน เป็นการส่งเสริมทักษะของนักเรียน และเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนที่พ่อแม่ไม่สามารถนำไปศึกษานอกสถานที่ได้
ส่วนตัวสนับสนุนให้มีโครงการทัศนศึกษาของนักเรียนต่อไป การยกกรณีตัวอย่างเหตุไฟไหม้รถบัสของนักเรียนมาศึกษาดูงานที่เกิดขึ้นนั้น เป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากสภาพของรถบัส หรือปัญหาของการเดินทาง เปรียบเสมือนการขึ้นต้นไม้เพื่อเก็บผลไม้ เมื่อพลัดตกลงมา จะไปโค่นต้นไม้ทิ้ง ก็เห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล ควรจะแก้ปัญหาต้นตอของปัญหาจริงๆ ไม่ใช่มาแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
ใครก็ตามที่มีแนวความคิดจะยกเลิกการทัศนศึกษาดูงานของนักเรียน ก็ควรไปยกเลิกโครงการศึกษาดูงานต่างประเทศของ ส.ส.หรือ ส.ว. และข้าราชการผู้บริหารระดับสูงให้ได้เสียก่อน เพราะการศึกษาดูงานต่างประเทศของ ส.ส.ผ่านคณะกรรมาธิการสามัญจำนวน 35 คณะ งบประมาณเฉลี่ยคณะละ 8-10 ล้านบาท เป็นเงินงบประมาณ 350 ล้านบาท
ส่วนคณะกรรมาธิการสามัญของสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 21 คณะ งบประมาณเฉลี่ยคณะละ 8-10 ล้านบาท รวมงบประมาณ 210 ล้านบาท รวมแล้วใช้งบประมาณ 560 ล้านบาท ถ้ารวมกับงบประมาณศึกษาดูงานต่างประเทศของผู้บริหารระดับสูงจากกระทรวง ทบวง กรม อีกจำนวนหลายร้อยล้าน รวมๆ แล้วงบประมาณนับ 1,000 ล้านบาท
ซึ่งเป็นจำนวนเงินอย่างมหาศาล น่าจะนำเงินเหล่านี้มาอุดหนุนโครงการทัศนศึกษาของนักเรียน เพื่อปรับปรุงโครงการให้ได้รถบัสที่มีคุณภาพสูงในการเดินทาง ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ถ้าจะยกเลิกโครงการทัศนศึกษาของนักเรียน ต้องไปยกเลิกโครงการทัศนศึกษาดูงานต่างประเทศของ ส.ส., ส.ว. และผู้บริหารระดับสูงของหน่วยราชการให้ได้เสียก่อนจะดีกว่า ถ้ายกเลิกไม่ได้อย่าคิดมารังแกเด็กเลย มันบาปครับ"