นโยบายของนายกรัฐมนตรีแพทองธารในการนำเศรษฐกิจใต้ดินเข้าสู่ระบบ ซึ่งมีมูลค่ากว่า 50% ของ GDP ของประเทศ หรือประมาณ 8 ล้านล้านบาท ถือเป็นก้าวสำคัญในการนำรายได้จากกิจกรรมที่ยังไม่ถูกกฎหมายมาพัฒนาประเทศและดูแลพี่น้องประชาชน แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการเก็บภาษีบาปหรือเงินบาป แต่หากพิจารณามูลค่าเม็ดเงินภาษีที่คาดว่าสูงถึง 4-5 แสนล้านบาทต่อปี การปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดมือย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากปัจจุบันรัฐบาลเองก็ต้องการเงินจำนวนมากในการดำเนินโครงการพัฒนาประเทศ เช่น โครงสร้างพื้นฐาน การศึกษา และระบบสาธารณสุข
มุมมองที่ว่า "ภาษีบาป" เป็นเพียงมายาคติของกลุ่มคนที่เห็นต่างที่พยายามโยงภาพของศีลธรรมกับกิจกรรมการดื่ม กิน บันเทิง เหล่านี้เข้าด้วยกัน ในอีกมุมหนึ่ง การจัดเก็บภาษีจากเศรษฐกิจใต้ดินนี้ถือเป็นทรัพยากรสำคัญที่รัฐบาลสามารถนำมาใช้เพื่อประโยชน์ของประเทศ แทนที่จะปล่อยให้เม็ดเงินเหล่านี้ตกอยู่ในมือของกลุ่มขบวนการใต้ดินหรือผู้ที่ทำผิดกฎหมาย
หลายนโยบายที่รัฐบาลได้ศึกษาและพิจารณามาแล้วคือ การส่งเสริมและปรับปรุงกฎระเบียบเกี่ยวกับสถานบันเทิง Entertainment Complex เซ็กซ์เวิร์กเกอร์ (Sex worker) และการปรับเปลี่ยนกติกาการจำหน่ายแอลกอฮอล์ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะการขยายเวลาปิดสถานบริการและปรับเวลาการจำหน่ายแอลกอฮอล์ให้สอดคล้องกับความเป็นจริง นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีแผนส่งเสริมผลิตภัณฑ์สุราชุมชนให้เป็นสินค้าถูกกฎหมาย ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่นได้อย่างมาก
นโยบายเหล่านี้น่าจะใกล้ที่จะได้ข้อสรุปแล้ว จึงน่าติดตามอย่างใกล้ชิดว่าสุดท้ายแล้วจะออกมาเป็นกฎหมายควบคุมในรูปแบบใด รวมถึงประเด็นเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งก็เคยมีข่าวออกมาเป็นระยะๆ ว่ากำลังมีการศึกษาเพื่อหาแนวทางในการควบคุมให้ถูกกฎหมาย เพราะในแต่ละปีมีรายงานว่ามีการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาในประเทศไทยกว่าปีละ 2,000 ล้านบาท โดยเฉพาะจากกลุ่มทุนจีน
กรณีล่าสุดที่มีการจับบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนกว่า 4 แสนชิ้นในโกดังท่าเรือจังหวัดสมุทรปราการเมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมามูลค่าไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท โดยการสืบสวนครั้งนี้มีการพาดพิงถึงนักการเมืองและขบวนการเบื้องหลังการนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเป็นการยืนยันอีกครั้งว่าบุหรี่ไฟฟ้าที่ยังถูกแบนในปัจจุบัน เป็นหนึ่งในเศรษฐกิจใต้ดินที่กลุ่มผู้มีอิทธิพลและขบวนการอาชญากรรมสามารถสร้างรายได้อย่างมหาศาลเชื่อมโยงกับปัญหาทุจริต คอร์รัปชันที่เกาะกินสังคมไทยมาช้านาน
การจับกุมครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่รัฐบาลควรพิจารณาทบทวนนโยบายการห้ามบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อหาทางออกที่สมดุลในมิติสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคม เพื่อหยุดยั้งการสร้างรายได้ให้ขบวนการผิดกฎหมายและเครือข่ายเศรษฐกิจใต้ดิน
หากรัฐบาลตั้งใจที่จะจัดการกับเศรษฐกิจใต้ดินอย่างเป็นระบบ เพื่อนำรายได้มาสนับสนุนการศึกษา การสาธารณสุข สาธารณูปโภค และอุดหนุนค่าใช้จ่ายขั้นพื้นฐานของประชาชน หากทำด้วยความรอบคอบ รัดกุม เหมาะสม และเกิดสมดุลในทุกด้าน นโยบายนำเศรษฐกิจใต้ดินขึ้นมาบนดินเพื่อเข้าระบบภาษีก็น่าจะได้รับการสนับสนุนจากสังคมได้ไม่ยาก