คุณแม่ลูกอ่อนรายหนึ่งโพสต์เตือนอุทาหรณ์หลังลูกน้อยวัย 7 เดือนกลั้นร้องไห้แค่ 30 วินาทีครั้งเดียว สุดท้ายเสียชีวิต พร้อมเตือนอย่าให้ลูกน้อยกลั้นร้อง ถ้าลูกเริ่มร้องให้หาวิธีเบี่ยงเบนความสนใจ หรืออุ้มลูก หรือโอ๋ลูกทันที
เมื่อวันที่ 11 ก.ย. มีคุณแม่รายหนึ่งได้ออกมาโพสต์เตือนอุทาหรณ์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังลูกน้อยวัย 7 เดือนกลั้นร้องไห้แค่ 30 วินาทีครั้งเดียว สุดท้ายเสียชีวิต โดยผู้โพสต์เล่าว่า “ฝากไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับแม่ๆ เลี้ยงลูกอ่อน
วันนี้จะมาขอฝากเรื่องราวของตัวเองไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับแม่ๆ เลี้ยงลูกอ่อนเพียงลำพัง เรื่องนี้มันเกิดขึ้นกับแม่เอง เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัวและไม่สามารถช่วยอะไรลูกได้ มันคงเป็นตราบาปไปตลอดชีวิตแม่คนหนึ่ง
เรื่องมีอยู่ว่า แม่ได้เลี้ยงลูกเองเพียงลำพัง อยู่กับลูกสองคน ส่วนแฟนก็ไปทำงาน วันที่เกิดเหตุ ตอนเช้าน้องตื่นกินข้าว อาบน้ำ เล่นปกติเหมือนทุกวัน ช่วง 15.00 น. น้องก็เล่นกับแม่ปกติตามประสาเด็ก เริ่มเกาะยืน ยิ้ม หัวเราะ เล่นกับแม่ แต่ตอนนั้นมันเริ่มที่จะถึงเวลาทำกับข้าวแล้ว แม่ก็ได้เตรียมของไว้ทำกับข้าวสำหรับตอนเย็น แม่ก็ให้น้องคลานเล่นอยู่บริเวณภายในห้อง
15.30 น. น้องก็เริ่มงอแง ร้องหาแม่ แม่ก็เลยเดินไปล้างมือในห้องน้ำ แล้วน้องก็ร้องตาม แม่ล้างมือไม่เกิน 1 นาที แม่ก็ออกมา น้องก็ร้องจะให้อุ้ม แต่แม่ได้เดินเลยน้องไป น้องก็เกิดการร้องกลั้น กลั้นจนสุดเสียงไม่เกิน 30 วินาที ย้ำ.!! ว่าไม่เกิน 30 วินาที และร้องกลั้นเพียงแค่ครั้งเดียว ย้ำ.!! ว่า แค่ ครั้งเดียว.! (ปกติน้องเป็นคนที่ร้องอ้อนแม่บ่อยอยู่แล้ว และเป็นคนที่ไม่ร้องกลั้น แต่วันนั้นน้องร้องกลั้นเป็นวันแรก)
ก็เกิดการเกร็ง และเสียงหาย แม่ก็เลยรีบไปอุ้มน้องขึ้นมาพร้อมกับเขย่าและเรียกชื่อน้องพร้อมกับลูบหลังและโอ๋น้อง แต่น้องก็ไม่ตอบสนองแม่แล้ว ตอนนั้นแม่ช็อกและสั่นไปทั้งตัว พยายามเรียกน้อง แต่น้องก็ไม่มีการตอบสนอง แม่เลยรีบพาน้องไปส่งที่คลินิกหมอที่ใกล้ที่สุด แต่พอไปถึงน้องก็เริ่มปากเขียว มือ เท้า เริ่มซีด และหมอได้ทำการตรวจและถามอาการ พร้อมกับ CPR ตอนนั้นแม่ได้แต่ภาวนาให้น้องกลับมาหาแม่ ร้องเรียกแต่ลูก แต่สุดท้ายน้องก็ไม่กลับมาหาแม่
แล้วน้องก็จากแม่ไปในวัยเพียงแค่ 7 เดือนรวมๆ ระยะเวลาที่น้องเป็นตั้งแต่เริ่มร้องกลั้นจนถึงมือหมอ ไม่เกิน 5 นาที ย้ำ.!! ว่าไม่เกิน 5 นาทีจริงๆ เเต่มันก็ช่วยน้องไม่ได้
ก่อนหน้านี้ไม่มีอาการที่บ่งบอกว่าน้องเป็นอะไร ไม่มีไข้ ไม่ร้องงอแงเหมือนคนไม่สบายตัว เล่นปกติ กินข้าว กินนมได้ปกติ มันเลยทำให้แม่ไม่สามารถรับรู้ได้ว่ามันเป็นเพราะอะไร
มันก็เลยมีคำถามมากมาย ว่าทำไมถึงปล่อยน้องร้อง ทำไมไม่ทำแบบนั้น ไม่ทำอย่างนี้#วินาทีนั้นแม่เรียกน้องไม่ตอบสนองแล้ว แม่คิดแค่ว่าต้องพาน้องไปหาหมอให้เร็วที่สุด ทำยังไงก็ได้ให้ถึงมือหมอ ถึงมือหมอน่าจะปลอดภัยกว่า แต่ลองคิดกลับกัน ถ้าแม่ไม่เลือกที่จะเดินเลยน้องไปและอุ้มน้องขึ้นมา น้องก็คงไม่ต้องจากแม่ไปแบบนี้
เพราะฉะนั้นเลยอยากให้แม่ๆ ที่เลี้ยงลูกอ่อนเพียงลำพัง พยายามสังเกตและดูอาการผิดปกติต่างๆ โดยเฉพาะ #การร้องกลั้นของเด็ก อย่าให้น้องร้องกลั้น ถ้าลูกเริ่มร้องกลั้น หาวิธีเบี่ยงเบนความสนใจ หรืออุ้มลูก หรือโอ๋ลูก หลายคนบอกว่าลูกฉันก็เป็น ร้องกลั้นเหมือนกัน แต่ไม่เห็นเป็นอะไร ทำอย่างนั้นทำอย่างนี้ ครั้งนี้เราอาจจะเอาน้องกลับคืนมาได้ แต่ครั้งหน้าเราไม่รู้ว่าเราจะเอาน้องกลับคืนมาได้ไหม
แต่สำหรับแม่ มันเป็นครั้งเดียวและไม่สามารถเอาน้องกลับคืนมาได้ #ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ”