“โค้ชเอก” อดีตทีมหมูป่า เผยความรู้สึกนาทีพาครอบครัวหนีวิกฤตน้ำท่วมเชียงราย ยันหนักที่สุดชีวิตนี้ไม่เคยเจอ ต้องนอนบนหลังคา 2 คืนกว่าจะลุยน้ำออกมา เศร้า ตอนนี้สูญเสียแทบทุกอย่าง น้ำมาเร็วเก็บอะไรไม่ทัน เอาออกมาได้แค่ชีวิตและโทรศัพท์เท่านั้น
จากกรณีสถานการณ์น้ำจากลำน้ำสายชายแดนไทย-เมียนมา ทะลักเข้าท่วมเขตเทศบาล ต.แม่สาย เทศบาล ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งแต่ 10 ก.ย.เป็นต้นมา ยังคงสร้างผลกระทบอย่างหนัก มวลน้ำยังคงท่วมและไหลเชี่ยวในหลายชุมชน เช่น ชุมชนสายลมจอย ชุมชนเกาะทราย ชุมชนไม้ลุงขน ฯลฯ และล่าสุดน้ำทะลักไปถึงเขต ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย ที่จะได้รับผลกระทบต่อไปแล้ว
ด้านอุตุนิยมวิทยาภาคเหนือแจ้ง วันนี้ (12 ก.ย.) สภาพอากาศยังครึ้มฟ้าครึ้มฝนและมีฝนโปรยลงมาสลับกัน ระหว่างวันที่ 13-17 ก.ย.นี้ยังจะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่างซึ่งจะทำให้ภาคเหนือมีฝนเพิ่มขึ้นในวันที่ 14-17 ก.ย.นี้ จึงแจ้งเตือนการเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากเพิ่มเติมด้วย ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันนี้ (12 ก.ย.) เพจ “Thai Navy SEAL Foundation” ได้สัมภาณณ์ “เอกพล จันทะวงษ์” หรือ “โค้ชเอก” อดีตทีมหมูป่า หลังต้องเป็นผู้ประสบภัยได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมจังหวัดเชียงราย โดยเผยความรู้สึกว่า ตนเองถือว่าได้รับผลกระทบผู้ประสบภัยครั้งที่ 2 ครั้งนี้โหดมาก น้ำมาเร็วมากแทบจะเอาข้าวของอะไรไม่ทันเลย ตอนแรกไม่คิดว่าน้ำจะขึ้นสูงขนาดนี้ คิดว่าจะเหมือนทุกๆ ปี ที่เคยท่วมก็ประมาณเท่าเข่า แต่ครั้งนี้ปรากฏว่าแค่ชั่วโมงเดียวขึ้นมาขนาดเท่าเอว ตอนนั้นเป็นเวลากลางวันเป็นช่วงเช้าประมาณ 08.00 น. หนีไม่ทันไม่สามารถออกไปได้แล้ว
ตนติดอยู่ 2 คืน และเย็นวันที่ 11 กันยายน 2567 นั้นน้ำสูงมาก จากที่ตนหลบอยู่ชั้น 1 หนีไปอยู่หลังรถกระบะ ช่วง 22.00 น. น้ำเริ่มท่วมกระบะ สุดท้ายต้องพากันหนีไปนอนบนหลังคา โดยนอนกันอยู่ 2 คืน มีขนมอยู่นิดหน่อย ขณะนี้เพิ่งออกมาได้แบบสดๆ โดยลุยน้ำกันออกมา ถามว่าความรู้สึกเหมือนตอนติดอยู่ในถ้ำไหม ถือว่าใกล้เคียง แค่ตอนติดถ้ำนั้นเรามีเด็กที่ต้องคอยช่วยเหลือ ครั้งนี้กลายเป็นผู้ใหญ่ที่ต้องคอยดูแล แต่ความเสียหายนี้หนักมาก โดนกันถ้วนหน้า และไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ซึ่งตอนนี้ตนไม่เหลืออะไรเลย เสียหายแทบทุกอย่าง
คลิกชมคลิปวิดีโอ