กระทรวงมหาดไทยประกาศเปลี่ยนแปลงฐานะเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เป็นเทศบาลนครบุรีรัมย์ มีผล 31 ต.ค. 2567 เป็นต้นไป โดยยุบเลิกเทศบาลตำบลอิสาณ และรับพื้นที่บางส่วนของตำบลเสม็ด 4 หมู่บ้าน รวมประชากรกว่า 5 หมื่นคน นับเป็นเทศบาลนครแห่งที่ 31 ของไทย
วันนี้ (8 ก.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า ราชกิจจานุเบกษาตีพิมพ์ประกาศกระทรวงมหาดไทย 3 ฉบับพร้อมกัน ได้แก่ 1. ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ยุบเลิกเทศบาลตำบลอิสาณ รับพื้นที่บางส่วนขององค์การบริหารส่วนตำบลเสม็ดมารวมกับเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ และเปลี่ยนแปลงเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ 2. ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง องค์การบริหารส่วนตำบลเสม็ด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ แยกพื้นที่บางส่วนไปรวมกับเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ และ 3. ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง เปลี่ยนแปลงฐานะเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นเทศบาลนครบุรีรัมย์
โดยประกาศเปลี่ยนแปลงฐานะเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นเทศบาลนครบุรีรัมย์ มีเนื้อหาระบุว่า "โดยที่เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ อําเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ มีความประสงค์ จะเปลี่ยนแปลงฐานะเป็นเทศบาลนคร ซึ่งกระทรวงมหาดไทยพิจารณาแล้วเห็นว่า เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ อําเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ มีความจําเป็นต้องเปลี่ยนแปลงฐานะเพื่อประโยชน์ในการจัดทําบริการสาธารณะแก่ประชาชน ประกอบกับมีราษฎรตั้งแต่ห้าหมื่นคนขึ้นไป ทั้งมีรายได้พอควรแก่การที่จะปฏิบัติหน้าที่ตามที่กําหนดไว้ในพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 จึงเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ตามมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. ๒๔๙๖ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติเทศบาล (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2546 สมควรให้เปลี่ยนแปลงฐานะเป็นเทศบาลนครตามเจตนารมณ์ของประชาชนในท้องถิ่น
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 11 และมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติเทศบาล (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2546 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จึงประกาศเปลี่ยนแปลงฐานะเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ อําเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นเทศบาลนครบุรีรัมย์
ให้เทศบาลเมืองที่ได้เปลี่ยนแปลงฐานะเป็นเทศบาลนครตามประกาศนี้ มีแนวเขตตามคําบรรยาย และแผนที่ท้ายประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ยุบเลิกเทศบาลตําบลอิสาณ รับพื้นที่บางส่วนของ องค์การบริหารส่วนตําบลเสม็ดมารวมกับเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ อําเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ และเปลี่ยนแปลงเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ลงวันที่ 30 สิงหาคม 2567 และให้พ้นสภาพแห่งการเป็น เทศบาลเมืองนับแต่วันที่ได้เปลี่ยนแปลงฐานะเป็นเทศบาลนครเป็นต้นไป บรรดาทรัพย์สิน หนี้ สิทธิ และสิทธิเรียกร้องของเทศบาลเมืองให้โอนไปเป็นของเทศบาลนครที่เปลี่ยนแปลงฐานะในขณะเดียวกันนั้น และบรรดาเทศบัญญัติที่ได้ใช้บังคับอยู่ก่อนแล้วให้คงให้ใช้บังคับต่อไป ตามมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติเทศบาล (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2546
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2567 อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย"
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า การจัดตั้งเทศบาลนครบุรีรัมย์ นับเป็นเทศบาลนครแห่งที่ 31 ในประเทศไทย ต่อจากเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ จังหวัดชลบุรี ได้รับการจัดตั้งเมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2556 โดยเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมืองบุรีรัมย์ ตอนกลางของจังหวัดบุรีรัมย์ มีพื้นที่ทั้งหมด 6.0 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 3,750 ไร่ อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร โดยทางรถยนต์ประมาณ 384 กิโลเมตร ทางรถไฟประมาณ 376 กิโลเมตร มีชุมชนทั้งหมด 18 ชุมชน ส่วนเทศบาลตำบลอิสาณ ห่างจากที่ว่าการอำเภอเมืองบุรีรัมย์ทางทิศตะวันตก ประมาณ 3 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 36.899 ตารางกิโลเมตร มีหมู่บ้านทั้งหมด 18 หมู่บ้าน
ในคำชี้แจงประกอบแบบสำรวจเจตนารมณ์ของประชาชน เรื่อง การยุบ รวม แก้ไขเปลี่ยนแปลงแนวเขต และยกฐานะเป็นเทศบาลนครบุรีรัมย์ ระบุว่า เหตุผลและความจำเป็น เนื่องจากการพัฒนาและการเจริญเติบโตในเขตเมืองบุรีรัมย์ ซึ่งในปัจจุบันได้มีการขยายตัวของเมืองเพิ่มขึ้น และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งสามแห่งมีแนวเขตพื้นที่การปกครองติดต่อกันภายในอำเภอเดียวกัน ประกอบกับประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวมีอัตลักษณ์ทางสังคมวัฒนธรรมร่วมกัน ดังนั้น เพื่อประโยชน์ในการบริหารราชการ การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนโดยส่วนรวม สภาท้องถิ่นทั้งสามแห่งจึงมีมติเห็นชอบให้ยุบ รวม แก้ไขเปลี่ยนแปลงแนวเขตและยกฐานะเป็นเทศบาลนครบุรีรัมย์
การยุบ รวม แก้ไขเปลี่ยนแปลงแนวเขต และยกฐานะเป็นเทศบาลนครบุรีรัมย์ จะทำให้องค์กรมีขนาดใหญ่ขึ้น โครงสร้างการบริหารงานภายในเกิดการบูรณาการทรัพยากรมนุษย์และงบประมาณ ทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีรายได้เพิ่มมากขึ้นทั้งจากการจัดเก็บภาษีได้มากขึ้นและได้รับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลเพิ่มขึ้น อีกทั้งอำนาจหน้าที่ในการให้บริการสาธารณะและศักยภาพของท้องถิ่นในการพัฒนาพื้นที่จะเพิ่มขึ้น และการที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งสามแห่งมีแนวเขตพื้นที่การปกครองติดต่อกัน ประชาชนมีอัตลักษณ์ทางสังคมวัฒนธรรมร่วมกัน เมื่อได้อยู่ภายใต้การดูแลจากองค์กรเดียวกัน ประชาชนก็จะเกิดความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกัน เกิดความรักความสามัคคีส่งผลให้สังคมเกิดความสงบสุขร่มเย็นและส่งผลดีต่อการพัฒนา อีกทั้งเกิดประโยชน์ในการบริหารราชการและการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนโดยส่วนรวม
อีกด้านหนึ่ง จะทำให้จำนวนสมาชิกสภาท้องถิ่นลดลง จากเดิมสภาเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ประกอบด้วยสมาชิกจำนวน 18 คน สภาเทศบาลตำบลอิสาณ ประกอบด้วยสมาชิกจำนวน 12 คน และสภาองค์การบริหารส่วนตำบลเสม็ด ประกอบด้วยสมาชิกจำนวน 19 คน (หมู่บ้านละ 1 คน) ซึ่งกรณีนี้จะส่งผลต่อสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลเสม็ดจำนวน 4 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ 9 บ้านโคกใหญ่ หมู่ที่ 11 บ้านโคกเขา หมู่ที่ 13 บ้านเขากระโดง และหมู่ที่ 16 บ้านศิลาทอง ทำให้จำนวนสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลเสม็ด ลดลงเหลือ 15 คน และเมื่อเป็นเทศบาลนครบุรีรัมย์แล้ว จะประกอบด้วยสมาชิกจำนวน 24 คน แบ่งเขตการเลือกตั้งออกเป็น 4 เขต มีจำนวนสมาชิกสภาฯ เขตละ 6 คน
ข้อมูลจากสถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร (รายเดือน) สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เดือนสิงหาคม 2567 พบว่า เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ มีประชากรรวม 22,939 คน แยกเป็นเพศชาย 10,942 คน เพศหญิง 11,997 คน ส่วนเทศบาลตำบลอิสาณ มีประชากรรวม 22,079 คน แยกเป็นเพศชาย 10,449 คน เพศหญิง 11,630 คน ขณะที่ตำบลเสม็ด หมู่ที่ 9 โคกใหญ่ มีประชากรรวม 1,308 คน แยกเป็นเพศชาย 639 คน เพศหญิง 669 คน หมู่ที่ 11 โคกเขา มีประชากรรวม 1,437 คน แยกเป็นเพศชาย 746 คน เพศหญิง 691 คน หมู่ที่ 13 เขากระโดง มีประชากรรวม 1,834 คน แยกเป็นเพศชาย 1,286 คน เพศหญิง 548 คน และหมู่ที่ 16 ศิลาทอง มีประชากรรวม 850 คน แยกเป็นเพศชาย 417 คน เพศหญิง 433 คน รวมแล้วในการจัดตั้งเทศบาลนครบุรีรัมย์ มีประชากรแล้วมีทั้งหมด 50,447 คน แบ่งเป็นเพศชาย 24,479 คน เพศหญิง 25,968 คน
