คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบันหนุนยกระดับจัดการบัญชีม้าเข้มข้น พบแบงก์แชร์ข้อมูลจากระบบกลาง CFR และเชื่อมฐานข้อมูล ปปง. สกัดบัญชีม้าและบัญชีต้องสงสัย 15,000 รายชื่อ เผยแบล็กลิสต์ ปปง.ไม่อนุมัติเปิดบัญชีใหม่ทุกธนาคาร ส่วนกรณีผู้เสียหายแจ้งความ ผู้ถูกกล่าวหาถูกระงับบัญชีทุกธนาคารจนกว่าจะพบตำรวจ
วันนี้ (6 ก.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ได้แก่ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย เมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้สนับสนุนแนวทางการยกระดับมาตรการจัดการภัยทุจริตทางการเงินของภาคธนาคาร ที่ได้ยกระดับการจัดการบัญชีม้าให้เข้มข้นขึ้น โดยจัดกลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยงเป็นบัญชีม้าดำ ม้าเทา และม้าน้ำตาล มีการแชร์ข้อมูลระหว่างกันของภาคธนาคาร พร้อมเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และฐานข้อมูล Central Fraud Registry (CFR) เพื่อจัดการบัญชีม้าเดิม ป้องกันการเปิดบัญชีม้าใหม่
หากบุคคลใดถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงจะถูกระงับบัญชีทั้งหมด และไม่ให้เปิดบัญชีใหม่ ซึ่งจะขยายผลไปยังบัญชีนิติบุคคล ซึ่งมีข้อมูลว่ามีรายชื่อกรรมการเชื่อมโยงกับบัญชีม้าจำนวนมาก พร้อมกันนี้ สมาคมธนาคารไทย และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้มีความร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ คือ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ภาคธนาคาร เจ้าหน้าที่ภาครัฐ และผู้ให้บริการคริปโตเคอร์เรนซี เพื่อให้สามารถจัดการบัญชีม้าอย่างมีประสิทธิภาพ
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งได้เริ่มแลกเปลี่ยนข้อมูลข้ามธนาคารผ่านระบบ CFR หรือ Central Fraud Registry ที่เป็นระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลเส้นทางการเงินของภาคธนาคาร มาตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา เพื่อใช้ในการสืบสวนสอบสวนและอายัดบัญชีของผู้ต้องสงสัยมาใช้ข้ามธนาคาร ดำเนินการกับบัญชีต้องสงสัยได้ครอบคลุมและรวดเร็วขึ้น รวมทั้งเป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยระบบดังกล่าวพัฒนาโดยบริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ็กซ์ จำกัด เพื่อให้ธนาคารสมาชิกสามารถนำส่งข้อมูลธุรกรรมต้องสงสัย ที่ผู้เสียหายเป็นผู้แจ้ง หรือธนาคารตรวจพบรายการต้องสงสัยนั้นเอง ผ่านช่องทาง ITMX Web Portal และแปลงข้อมูลออกเป็นรูปแบบรายงาน เพื่อสามารถนำส่งหน่วยงานภาครัฐได้
สำหรับระบบ CFR เมื่อมีผู้เสียหายแจ้งความกับตำรวจและธนาคารนำส่งข้อมูลธุรกรรมต้องสงสัยที่ผู้เสียหายเป็นผู้แจ้ง จากเดิมการระงับบัญชีจะเกิดขึ้นเฉพาะบัญชีและธนาคารที่เกี่ยวข้องในเส้นทางเงิน 3-7 วัน เปลี่ยนเป็นระงับช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ทุกธนาคาร ภายใต้ชื่อและหมายเลขบัตรประชาชนเดียวกัน เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงเข้มข้น โดยเจ้าของบัญชีเมื่อเปิดใช้โมบายแบงกิ้งจะขึ้นข้อความว่า "บัญชีของคุณถูกระงับ" หรือข้อความในลักษณะใกล้เคียง โดยไม่สามารถทำธุรกรรมโอนเงินหรือถอนเงินออกมาได้ ต้องให้ความร่วมมือกับศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center) หรือ AOC 1441 ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับมอบหมาย เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนความเกี่ยวข้องทางคดี
สำหรับบัญชีที่ธนาคารตรวจว่าต้องสงสัย จะมีระบบตรวจจับที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยทุกธนาคารดำเนินการตามความเสี่ยงด้วยมาตรฐานเดียวกันอย่างเข้มงวด ซึ่งธนาคารจะดำเนินการตามมาตรการขั้นต่ำ โดยระงับการทำธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ทันที ให้เจ้าของบัญชีมาพิสูจน์ข้อเท็จจริงอย่างเข้มข้น เพื่อลดความเสี่ยงที่จะถูกมิจฉาชีพนำบัญชีไปใช้ เช่น การที่ธนาคารขอตรวจสอบเพิ่มเติม มีเงื่อนไขในการใช้บัญชี ส่วนบุคคลที่มีชื่อตามฐานข้อมูล ปปง. นอกจากระงับทุกช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ทุกบัญชี ทุกธนาคารแล้ว ธนาคารจะพิจารณาไม่อนุมัติให้เปิดบัญชีใหม่ทุกธนาคาร โดยปัจจุบันภาคธนาคาร ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารรัฐ และธนาคารนานาชาติ ได้ดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวไปแล้วกว่า 15,000 รายชื่อ โดยมาจากข้อมูลที่ถูกรายงานเข้าระบบ CFR ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2566 จนถึงปัจจุบัน ประมาณ 9 เดือน
นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า สมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิก ได้ดำเนินการจัดการบัญชีม้าให้เข้มข้นและต่อเนื่อง โดยร่วมกันจัดทำแนวปฏิบัติของภาคธนาคาร (Industry Standard) ซึ่งเริ่มนำไปปฏิบัติจริงแล้ว ดำเนินการป้องกันทั้งบัญชีม้าที่จะเปิดใหม่ และการขยายผลตรวจจับบัญชีม้าที่มีอยู่เดิม โดยใช้ข้อมูลจาก ปปง. รวมถึงข้อมูลการแจ้งเหตุผ่านระบบ CFR ของภาคธนาคาร และการรับแจ้งความของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอให้ประชาชนตระหนักถึงผลกระทบจากการยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีของตนเป็นบัญชีม้า ทั้งบัญชีเดิมหรือกำลังจะเปิดเพิ่มเติมใหม่ว่า มีโทษอาญาตามกฎหมาย รวมทั้งผลจากมาตรการที่เข้มงวดของภาคธนาคาร เช่น การพิจารณาระงับการใช้งานบัญชีทั้งหมดทันที รวมถึงจะพิจารณาไม่อนุญาตให้เปิดบัญชีใหม่ ซึ่งจะกระทบการใช้บริการทางการเงินของบุคคลดังกล่าวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้